ยาแก้แพ้สำหรับแม่ตั้งครรภ์ ควรเลือกใช้อย่างไร ให้ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์?

3 ก.ค. 24

ยาแก้แพ้สำหรับแม่ตั้งครรภ์

 

“ยาแก้แพ้ตัวนี้ใช้ในคนท้องได้ไหมคะ?” “ยาจะมีผลอะไรกับเด็กไหมคะ?” 2 คำถามยอดฮิตของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการภูมิแพ้ เพราะ การใช้ยาในสตรีมีครรภ์เป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ยาอะไรไม่ได้เลย มาดูกันว่า ยาแก้แพ้สำหรับแม่ตั้งครรภ์ ที่ใช้แล้วปลอดภัยต่อลูกในครรภ์มากที่สุด ควรเลือกใช้ยาอะไร? พร้อมวิธีหลีกเลี่ยงภูมิแพ้ระหว่างตั้งครรภ์

อัลเลอร์นิค ชนิดเม็ด (Allernix™ tablet) ยาบรรเทาอาการแพ้

แม่ท้องกินยาแก้แพ้ได้ไหม?

แม่ท้องสามารถกินยาแก้แพ้ได้ แต่ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ที่ดูแลครรภ์ และเนื่องจากยาแก้แพ้ตามท้องตลาดก็มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น chlorpheniramine (CPM), loratadine, cetirizine และ fexofenadine เป็นต้น อาจทำให้คุณแม่สับสน เลือกไม่ถูก และบางตัวก็ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้รักษาอาการแพ้ในช่วง 3 เดือนแรกที่กำลังตั้งครรภ์ จึงเป็นเหตุผลที่แม่ท้องควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา

“ลอราทาดีน” ยาแก้แพ้สำหรับแม่ตั้งครรภ์

แม้ว่า “ยาคลอร์เฟนิรามีน” สามารถช่วยแก้อาการแพ้ในหญิงตั้งครรภ์ได้ แต่ข้อเสียเปรียบที่สำคัญของยานี้คือ กินแล้วทำให้เกิดอาการง่วงนอน จึงได้มีการพัฒนายาแก้แพ้ชนิดใหม่ คือ ยาลอราทาดีน (loratadine)” ที่ทำให้ง่วงนอนน้อยลง และมีความปลอดภัยสูง และยังเป็นยาที่ทางสมาคม American College of Allergy, Asthma & Immunology (ACAAI) แนะนำให้ใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ได้

ดร. ภก. นิติ สันแสนดี อาจารย์พิเศษ ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้ให้ข้อมูลว่า “ยาลอราทาดีน” จัดเป็นยาในกลุ่ม B* ในทุกช่วงระยะของตั้งครรภ์ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ และเมื่อมารดารับประทานยาแก้แพ้นี้ ตัวยาจะผ่านไปยังน้ำนมน้อยมาก จึงสามารถให้นมบุตรในระหว่างที่ใช้ยานี้ได้ แต่ควรเฝ้าระวังอาการที่ไม่พึงประสงค์ของทารก และไม่ควรใช้ยาต่อเนื่องระยะยาวในระหว่างที่ให้นมบุตร

*U.S. Food and Drug Administration ได้จัดกลุ่มความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ไว้ 5 ประเภท คือ A, B, C, D และ X ซึ่ง category A จัดว่าปลอดภัยสุด และ X อันตรายที่สุดตามลำดับ (ยาแก้แพ้ที่ปลอดภัยต่อแม่ตั้งครรภ์ที่สุด จะอยู่ในกลุ่มB)

อ่านเพิ่มเติม -> รู้มั้ย ยาลอราทาดีน คืออะไร รักษาอาการอะไรได้บ้าง?

ยาแก้แพ้สำหรับแม่ตั้งครรภ์

ในระยะ “สามเดือนแรก” ของการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งที่จะใช้ยาใดใด

เพราะช่วง 3 เดือนแรก (First trimester) เป็นระยะที่มีการก่อร่างสร้างอวัยวะต่าง ๆ หากมีสิ่งใดที่มากระทบกระเทือนโอกาสเกิดความผิดปกติก็จะสูงที่สุด ยาที่ใช้ได้จะมีจำกัดมาก ๆ โดยภาพรวมแล้วหากจำเป็นต้องใช้ยาใด ๆ ขอแนะนำให้ปรึกษาเภสัชกร คุณพยาบาล หรือแพทย์ก่อนทุก ๆ ครั้ง จะดีต่อตัวคุณแม่ และทารกในครรภ์ที่สุด

ยาแก้ภูมิแพ้ที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์

  1. เซทิริซีน (cetirizine) – ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในไตรมาสที่ 1 ส่วนไตรมาสอื่นควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากข้อมูลการใช้ในหญิงมีครรภ์มีจำกัด
  2. เฟกโซเฟนาดีน (fexofenadine) – ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากข้อมูลการใช้ในหญิงมีครรภ์มีจำกัด ส่วนข้อมูลจากสัตว์ทดลองคาดว่ายามีความเสี่ยงปานกลางที่จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์
  3. ยาหดหลอดเลือด (decongestant) – ควรหลีกเลี่ยงใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะมักจะมีผลข้างเคียงต่อทารก
  4. บรอมเฟนิรามีน (Brompheniramine) – จัดเป็นยาแก้แพ้ที่อยู่ในประเภท C ที่แม่ท้องควรระวังในการใช้ยานี้
  5. การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (allergen immunotherapy) – ไม่แนะนำให้เริ่มต้นการรักษานี้ หากกำลังตั้งครรภ์ หรือวางแผนว่าจะมีครรภ์ เพราะมีความเสี่ยงของการแพ้อย่างรุนแรง

ข้อพึงระวัง : ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงจากการแพ้อย่างรุนแรง (anaphylaxis) แม้จะพบได้น้อยมากก็ตาม

 

 

วิธีหลีกเลี่ยงภูมิแพ้ขณะตั้งครรภ์

หากคุณแม่ท่านใดที่มีอาการแพ้ขณะตั้งครรภ์ นอกจากเรื่องการใช้ยาแล้ว การป้องกันอาการแพ้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจ การปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ สามารถช่วยให้ห่างไกลจากภูมิแพ้ได้

1. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ – เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่แม่ตั้งครรภ์ควรรู้ว่าตนเองแพ้อะไร เมื่อรู้แล้วก็ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ

2. สวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ – เมื่อต้องออกไปเผชิญกับฝุ่นควันนอกบ้าน โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 แม่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันฝุ่นพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และยังช่วยปกป้องลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย

3. ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ – เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการคัดจมูก และมีน้ำมูกมากอย่างได้ผล น้ำเกลือที่ผ่านเข้าไปในจมูกจะชะล้างน้ำมูก หนอง และสารที่ไม่ต้องการออกจากโพรงจมูก ทำให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกขึ้นและหายจากโรคได้เร็วขึ้น

4. นอนศีรษะสูง – เพื่อระบายน้ำมูก

5. ติดตั้งเครื่องกรองอากาศไว้ในห้องนอน หรือภายในบริเวณบ้าน – เครื่องกรองอากาศ เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ชาวภูมิแพ้ควรมีติดบ้านไว้ โดยเฉพาะในห้องนอน เพราะจะช่วยให้ฝุ่นควันในห้องลดน้อยลง โอกาสเกิดภูมิแพ้ก็ลดลงตามไปอีกด้วย

6. ไม่เครียดจนเกินไป และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ – รู้หรือไม่!? ผลการศึกษาจากงานวิจัย 21 ใน 25 เรื่อง พบว่าภาวะเครียดในมารดาที่ตั้งครรภ์ ส่งผลทำให้ลูกเป็นภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ เช่นโรคหืด ผื่นแพ้ผิวหนัง จมูกอักเสบภูมิแพ้ เนื่องจากภาวะจิตใจของคุณแม่นั้นมีผลต่อระบบอิมมูนของร่างกายของคุณลูกใน ครรภ์ ทำให้เกิดเป็นภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น (จากวารสาร Allergy ปี 2016) จึงสรุปได้ว่า “ยิ่งแม่เครียด ก็ยิ่งแพ้ไปถึงลูก” จึงควรหลีกเลี่ยงไม่เครียดจนเกินไปขณะตั้งครรภ์

 

อ้างอิง : 1. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 1/2 2. babycenter 3. รพ.กรุงเทพ 4. acaai

บทความที่เกี่ยวข้อง

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save