รู้หรือไม่ พฤติกรรมเคยชินของแต่ละบุคคลก็เป็นตัวกำหนดสำคัญด้านสุขภาพกาย และสุขภาพใจได้ และในแต่ละบุคคลย่อมมีทั้งพฤติกรรมที่เป็นข้อดี และเป็นข้อเสียกันทั้งนั้น แต่ถ้าพฤติกรรมที่เป็นข้อเสียเกิดขึ้นบ่อย ๆ เข้า ก็จะยากต่อการแก้ไข และอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ มาดูกันว่า “8 พฤติกรรมเคยชินที่ต้องปรับ” เพื่อชีวิตและสุขภาพดีดี จะมีอะไรบ้าง และหากไม่ปรับ จะเสี่ยงป่วยเป็นโรคอะไร!?
- 12 พฤติกรรมทำร้ายสมอง เลิกให้ทันก่อนเกินเยียวยา และวิธีดูแลสมองให้มีสุขภาพดีดี
- 8 เรื่องควรทำในยามเช้า เพื่อสุขภาพ และชีวิตดีดี
- จิตตก! เพราะโซเชียล อยู่รึเปล่า? ต้องดู “5 เคล็ดลับใช้โซเชียล” ห่างไกลซึมเศร้า
8 พฤติกรรมเคยชินที่ต้องปรับ เพื่อชีวิตและสุขภาพดีดี
1. ตามใจปาก ไม่หิวก็กิน
เพราะคนเรายอมอ้วนเพื่อให้ได้กินของอร่อย หรือ กินเพราะความชอบมากกว่าเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ พฤติกรรมตามใจปากเหล่านี้ ทำให้สุขภาพเสียไม่รู้ตัว มาปรับวิธีกินให้เหมาะสม สุขภาพก็จะดีขึ้นได้แน่นอน เช่น กินอาหารให้เป็นเวลา, กินให้ครบ 5 หมู่, ไม่กินขนมระหว่างมื้อ, หยุดกินเมื่อเริ่มรู้สึกอิ่ม, อาจทดแทนความอยากด้วยน้ำ หรือธัญพืชที่มีประโยชน์แทนขนมก็เป็นวิธีที่ช่วยได้
ตามใจปากบ่อยเกินไป เสี่ยงป่วย…
- โรคอ้วน
- กรดไหลย้อน
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันอุดตัน
2. ติดซีรีย์ ดูได้ทั้งวันไม่ไปไหน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนไทยในยุคนี้ติดซีรีย์กันเยอะมาก โดยเฉพาะซีรีย์เกาหลี และซีรีย์จีน เรียกว่าดูกันทั้งวันทั้งคืนเก็บทุกตอน แบบม้วนเดียวจบ เรียกอาการแบบนี้ว่า Binge Watching ทำให้ไม่ได้หลับได้นอน หรือนอนไม่ตรงเวลา มาทำงานก็เพลีย ๆ ไม่ค่อยมีสมาธิ เพราะ นอนไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรมลง ภูมิคุ้มกันก็ลดลงตาม ทำให้ป่วยไข้ไม่สบายได้ง่าย ต้องปรับพฤติกรรม ดูแต่พอดี และห่างจากโลกโซเชียลบ้าง จะได้ไม่รับข่าวสารมากเกินไป
ติดซีรีย์ ติดโซเชียล ไม่ละสายตา เสี่ยงป่วย…
- โรคทางสายตา
- อาการออฟฟิศซินโดรม
- โรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน
- ปวดหัวเรื้อรัง นอนไม่หลับ
- ภาวะซึมเศร้า
- ภูมิคุ้มกันตก อาจทำให้เป็นภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น
3. กินอาหารไม่ตรงเวลา
การกินอาหารไม่ตรงเวลาเป็นประจำ ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ช้าลง เผาผลาญแคลอรีน้อยลง ทำให้เกิดอาการ ท้องอืด แน่นท้อง แสบท้อง ปวดบิด และมีลมได้ ฉะนั้นใครที่มีอาการเหล่านี้ลองสำรวจตัวเองว่า กินอาหารไม่ค่อยตรงเวลาหรือไม่ ถ้าใช่ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เพื่อสุขภาพของเราเอง
กินอาหารไม่ตรงเวลา เสี่ยงป่วย…
- กรดไหลย้อน
- ท้องผูกเรื้อรัง
- ลำไส้แปรปรวน
- โรคอ้วน
4. ชอบกัดเล็บตัวเอง
นิสัยที่ชอบกัดเล็บตัวเอง ไม่ได้มีแค่ในเด็ก แต่ผู้ใหญ่หลายคนก็ติดนิสัยนี้เช่นกัน ทางการแพทย์ การกัดเล็บเป็นประจำ จัดว่าเป็นการแสดงพฤติกรรมของความรู้สึกในใจที่เป็นด้านลบ สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เช่น มีขนาดเล็บที่เล็กจนมากเกินไป ติดเชื้อจากการเกิดบาดแผล บางคนกัดแม้กระทั่งเล็บเท้าตัวเอง และอาจมีอาการแสดงอื่น ๆ ร่วมกับการกัดเล็บ เช่น ดึงผม แคะ แกะ เกาผิวหนัง กัดริมฝีปาก ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ จัดอยู่ในอาการทางจิตเวช เรียกว่า “โรคกัดเล็บ (Chronic Onychophagia)”
กัดเล็บบ่อยเป็นประจำ เสี่ยงป่วย…
- โรคเครียด หรือมีความรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ
- ภาวะของโรควิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ
- เนื้อบริเวณนิ้วอักเสบติดเชื้อ แผลเน่า จนต้องตัดนิ้วทิ้งหรือเสียชีวิตก็เป็นได้
5. เป็นคนหัวร้อน โมโหง่าย
นิสัยขี้โมโห หัวร้อน รวมถึงมีพฤติกรรมความรุนแรง นอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเราและคนรอบข้างแล้ว ยังทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนความเครียด เช่น อะดรีนาลีน และคอร์ติซอล ออกมามากเกินไป ส่งผลกินเยอะขึ้น หิวบ่อยขึ้น น้ำหนักขึ้นเร็ว แก่กว่าวัยอันควร ใครที่หัวร้อนง่าย ก็ควรหากิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น หรือลองทำสมาธิวันละ 5 นาที เพื่อช่วยให้อารมณ์เย็นลง อยู่กับลมหายใจมากขึ้น ก็จะลดความหัวร้อนลงได้
โมโหง่าย โมโหบ่อย เสี่ยงป่วย…
- โรคหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคเครียด
- โรคอารมณ์แปรปรวน
- และโรคทางจิตเวช
6. วัน ๆ เอาแต่นอนอย่างเดียว
สมองเฉื่อยชา สมองล้า กลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวา น้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิม อาการเหล่านี้ คือผลลัพธ์สำหรับคนที่วัน ๆ เอาแต่นอนอย่างเดียว และหากถึงขั้น ขณะคุยกันก็ยังหลับได้ระหว่างกินอาหาร เป็นต้น ควรรีบพาไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของ โรคง่วงนอนมากผิดปกติ (Hypersomnia)
นอนมากเกินไป เสี่ยงป่วย…
- กระดูกพรุน ข้อเสื่อม
- โรคอ้วน หรือน้ำหนักเกินมากกว่าเดิม
- กลายเป็นคนซึมเศร้า
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
4. วิตกกังวลเป็นประจำ
นั่นก็กลัว นี่ก็กลัว จะทำไรก็คิดมากไปหมด มีวิตกกังวลเกือบจะทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิต อาการแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจแน่นอน และอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื้อรังตามมา เข้าสังคมก็ลำบาก ควรเรียนรู้หลักการใช้ชีวิต รู้จักปล่อยวาง หรืออาจปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการและรับการรักษาต่อไป
วิตกกังวลเป็นประจำ เสี่ยงป่วย…
- โรคซึมเศร้า
- โรคแพนิก
- โรคย้ำคิดย้ำทำ
- โรคเครียด
8. พฤติกรรมทำงานไปกินไป
งานก็ต้องทำ ข้าวก็ต้องกิน พอทำบ่อย ๆ ก็เลยติดเป็นนิสัยทำงานไปกินไป เข้าใจว่าสะดวกสบายดี แต่พฤติกรรมนี้ก็เสี่ยงทำให้เราได้รับเชื้อโรคเข้าปากโดยไม่รู้ตัว เพราะบริเวณโต๊ะทำงานเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น คีย์บอร์ด เมาส์ ที่เราต้องสัมผัสเกือบตลอดทุกนาที นอกจากนี้การวางขนมไว้บนโต๊ะทำงาน ยังก่อให้เกิดนิสัยกินจุกจิกตลอดวัน จนสุดท้ายก็น้ำหนักขึ้นจนลืมตัวว่า ตัวเองมีพุงไปสะแล้ว…
พฤติกรรมทำงานไปกินไป เสี่ยงป่วย…
- ปวดท้อง ท้องเสีย
- โรคอ้วน
- โรคเบาหวาน
- ระบบหมุนเวียนเลือดเสื่อม
จะเห็นได้ว่า พฤติกรรมเคยชินทั้ง 8 ข้อนี้ สามารถส่งผลกระทบกับสุขภาพ และการใช้ชีวิตของคุณโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหากไม่อยากให้สุขภาพพังไปก่อนวัยอันควร ก็ควรปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่เสียแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพดีดีในอนาคต
อ้างอิง : 1. สสส. 2. รพ. บำรุงราษฎร์ 3. รพ. สมิติเวช 4. รพ. ราชวิถี 5. มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง