รู้เท่าทัน ป้องกันไว้ ก่อนเงินเกลี้ยงบัญชี! จากกรณีที่ผู้ใช้บริการธนาคารจำนวนมาก พบว่าบัญชีของตนเองถูกตัดเงินออกไป จำนวนน้อย ๆ แต่ถี่ ๆ หลายรายการ ทั้งที่ตนเองไม่ได้ทำธุรกรรมแต่อย่างใด! คำถามคือ ปัญหานี้เกิดขึ้นได้ยังไง? แล้วจะป้องกันไม่ให้เงินถูกตัดออกไปได้อย่างไร?? Ged Good Life มีคำตอบมาฝากแล้ว ด้วย… “9 วิธีป้องกันโดนหักเงิน เงินรั่วไหล ออกจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว!” พร้อมแนะนำ “กลุ่มแชร์ประสบการณ์โดนหักเงิน” ท้ายบทความ… ใครไม่อยากเงินหาย ต้องอ่าน!
ธปท. ชี้แจงเงินหายจากบัญชี เกิดจากสาเหตุนี้!
วันที่ 17 ต.ค.2564 ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ชี้แจงกรณีพบลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต และบัตรเดบิตจำนวนมาก ประสบปัญหาการทำรายการชำระเงิน โดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้รับทราบปัญหา และได้ตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าว
โดยเบื้องต้นพบว่า มิได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้า และบริการกับร้านค้าออนไลน์ ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และไม่ใช่แอปฯ ดูดเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ตรวจสอบพบความผิดปกติของรายการธุรกรรมด้วยตนเอง สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์ หรือสาขาของธนาคารผู้ออกบัตร เพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรมในทันที
3 วิธีปฏิบัติ เมื่อเงินหายออกจากบัญชี!
- โทรหา Call Center ธนาคารที่เราโดนตัดเงินในทันที เพื่อแจ้งอายัดบัตร พร้อมทั้งแจ้งให้ธนาคารตรวจสอบ
- แคปภาพหน้าจอการเคลื่อนไหวบัญชี การโอนเงินเข้า – ออก เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
- รวบรวมหลักฐานจากข้อที่ 2 แล้วนำไปแจ้งความกับตำรวจ ลงบันทึกประจำวันไว้
9 วิธีป้องกันโดนหักเงิน เงินรั่วไหล ออกจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว!
1. สำหรับบัตรเครดิต ให้ตั้งค่าล็อคบัตรเครดิตในแอพฯ ธนาคารไว้ และเปิดบัตรเมื่อใช้งานเท่านั้น
2. สำหรับบัตรเดบิต กำหนดวงเงินในแอพฯธนาคาร ให้เป็น 0 บาท ไว้ก่อน เวลาจะใช้ค่อยกดเพิ่ม แล้วกดกลับเป็นยอด 0 บาท อีกครั้ง
3. เปิดบัญชีใหม่เพื่อใช้สำหรับช้อปปิ้งออนไลน์โดยเฉพาะ (อย่าใช้บัญชีเดียวกับบัญชีเงินเดือน หรือบัญชีที่มีเงินก้อนใหญ่)
4. ตรวจสอบรายการธุรกรรมผ่าน แอพฯ ธนาคาร เป็นประจำทุกวัน (หากพบเห็นรายการผิดปกติ ให้โทรแจ้งธนาคารทันที)
5. ไม่ทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านออนไลน์
6. ต้องไม่ลืม! ว่าเราทดลองใช้งานฟรีแอพฯ ใดไว้บ้าง เพราะเมื่อหมดระยะทดลองฟรี แอพฯ นั้นอาจตัดเงินจากบัตรเครดิตเราได้โดยอัตโนมัติ
7. ห้ามกรอกลิงค์แปลก ๆ อีเมลล์ปลอม หรือsmsหลอกลวงจากมิจฉาชีพเด็ดขาด เช่น smsกู้เงิน รับรางวัล หรืออัปเดตข้อมูลต่าง ๆ
8. ห้ามเปิดเผยเลข CVV 3 ตัว หลังบัตรเครดิตให้คนอื่นรู้ และไม่ยื่นบัตรเครดิต หรือเดบิตให้คนอื่นกดแทนเรา
9. ข้อสุดท้ายนี้ หากไม่สบายใจจริง ๆ แนะนำให้ถอนเงินออกจากบัญชีไปก่อนในช่วงนี้ (อาจเหลือติดบัญชีไว้พอใช้เท่านั้น)
* สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้แอพพลิเคชั่นของธนาคาร จำเป็นต้องโหลดมาใช้ เพื่อดูยอดเงินเข้า-ออก ได้แบบเรียลไทม์ แต่หากใช้มือถือที่เป็นระบบเก่า ไม่สามารถโหลดแอพฯ ได้ แนะนำให้ถอนเงินออกมาจากธนาคารไปก่อนในช่วงนี้ หรือ หมั่นไปอัพเดทสมุดบัญชีเป็นประจำ
แนะนำกลุ่ม “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว”
หากคุณคือคนหนึ่งที่มีความกังวล แพนิค หรือเป็นผู้เสียหายเรื่อง โดนหักเงินจากบัญชีไปโดยไม่รู้ตัว GedGoodLife แนะนำให้เข้าร่วมกลุ่มในเฟซบุ๊ก โดยมีชื่อกลุ่มว่า : แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว หรือ คลิกที่นี่ เพื่อเข้าร่วมกล่ม พูดคุย สอบถาม กับสมาชิกในกลุ่มกว่า 95,000 คน ได้เลย
#เตือนภัยโลกออนไลน์ #โดนดูดเงิน #เงินหายไปจากบัญชี #กระแสโลกออนไลน์
อ้างอิง : 1. thaipbs 2. กลุ่มแชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว