มันมาแน่! 10 โรคร้ายหน้าร้อน ที่ต้องระวัง

27 มิ.ย. 24

โรคหน้าร้อน

ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ นอกจากต้องเผชิญหน้ากับแสงแดดแรงกล้า และอากาศร้อนแล้ว อาการป่วยต่าง ๆ ก็คงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่พ้นเช่นกัน อีกทั้งอาหารยังบูดเสียได้ง่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้มากมาย ถือเป็นภัยสุขภาพที่ต้องระวัง มาดูกันสิว่า 10 โรคหน้าร้อน ที่ต้องระวังมีอะไรกันบ้าง!?

10โรคหน้าร้อน ที่ต้องระวัง!

1. โรคอาหารเป็นพิษ

เป็นโรคทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยมาก มักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป ผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำ ๆ อาเจียน คลื่นไส้ อาจมีอุจจาระร่วงด้วย หากเป็นหนักก็อาจถ่ายเป็นมูกเลือด ถ้าเป็นมากต้องได้รับน้ำเกลือเสริม อาจดื่ม หรือให้ทางเส้นเลือดแล้วแต่ความรุนแรงของอาการ อาจให้กินยาแก้ไข้หวัด เสริมด้วย มักพบเชื้อในอาหารที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ

2. โรคพิษสุนัขบ้า

โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ เป็นโรคติดต่อร้ายแรงชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี แต่มักระบาดในช่วงหน้าร้อน มีสุนัข และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ เป็นพาหะหลักที่นำเชื้อไวรัสมาสู่คน โดยสุนัขบ้าอาจกัด ข่วน หรือเลียผิวหนังคนมีแผลเชื้อไวรัส เมื่อมีอาการของโรค ผู้ป่วยจะเสียชีวิตทุกราย แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงนำสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี

3. โรคผิวหนัง

อากาศที่ร้อนชื้น เมื่อเกิดการหมักหมมก็อาจทำให้คุณเป็นกลาก เกลื้อน หรือผดร้อนได้ ควรรักษาความสะอาดของผิวกาย อย่าให้อับชื้น นอกจากนี้ รังสี UV ในแสงแดด ยังสามารถทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดด หรือ Sun Burn ได้เช่นกัน เมื่อผิวไหม้แดด ผิวหนังของคุณจะบวม แดง ร้อน คัน ปวดแสบปวดร้อน ควรหลีกเลี่ยงการออกไปอยู่กลางแดดจัด ทาครีมกันแดด และครีมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิวหนังอยู่เสมอ

4. โรคอุจจาระร่วง

โรคอุจจาระร่วง เป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำที่สำคัญที่สุด เกิดจากเชื้อโรคได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส โปรโตซัว และหนอนพยาธิ สามารถติดต่อได้โดยการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป ผู้ป่วยจะถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายเป็นน้ำหรือมูกปนเลือด หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที ร่างกายจะสูญเสียน้ำ และเกลือแร่ จนอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้

5. โรคบิด

ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเป็นมูกปนเลือดบ่อยครั้ง ร่วมกับปวดเบ่งที่ทวารหนักคล้ายถ่ายไม่สุด หากติดเชื้อแบบไม่มีตัว ช่วงแรกจะมีอาการรุนแรง เป็นหวัดปวดหัว อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด และมีหนองปน ถ่ายน้อยแต่บ่อย ถ้าปล่อยให้ร่างกายอ่อนแออาจเกิดอาการชัก หากติดเชื้อแบบมีตัว ช่วงแรกมักไม่แสดงอาการ แต่อาจมีอาการบิดเฉียบพลัน ทำให้มีไข้สูง หนาวสั่น อุจจาระร่วง เชื้ออาจแพร่ไปตามกระแสเลือด ซึ่งทำให้เกิดฝีที่ตับ ปอด หรือสมอง

6. ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย

โรคไข้ไทฟอยด์มีสาเหตุมาจากร่างกายที่ได้รับแบคทีเรีย Salmonellra Typhi ที่มักเจือปนอยู่ในน้ำและอาหาร จะเริ่มแสดงอาการเมื่อมีเชื้ออยู่ในร่างกายนาน 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ สัปดาห์แรกมักมีไข้แต่ไม่สูง อาจปวดศีรษะ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว หนาวสั่น ซึม เพ้อ ท้องร่วง ผื่นขึ้นตามตัว มักหายเองภายใน 3-4 สัปดาห์

7. อหิวาตกโรค

เป็นโรคติดต่อที่มีสาเหตุมาจากมีเชื้อแบคทีเรีย Vibrio Cholerae เข้าสู่ร่างกาย ผ่านการทานอาหารหรือน้ำที่มีเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่ เช่น อาหารที่มีแมลงวันตอม และอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เชื้อแบคทีเรียจะเข้าไปอยู่ในบริเวณลำไส้ และสร้างสารพิษที่ทำปฏิกิริยากับเยื่อบุผนังลำไส้ ทำให้ถ่ายออกมาเป็นจำนวนมาก

8. โรคระบบทางเดินหายใจ

เช่น โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม ปวดหัว ตัวร้อน ไอจาม เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนไปมา หรืออยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี ร่วมกับร่างกายที่อ่อนแอ เมื่อรู้สึกตัวว่าเป็นหวัด ให้พักผ่อน ดื่มน้ำอุ่นมากๆ กินอะไรแก้หวัด กิน ยาลดน้ำมูก

9. โรคลมแดด

โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก เกิดได้ง่ายในหน้าร้อน ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงแต่ไม่มีเหงื่อออก มักเกิดกับผู้ที่ไม่ค่อยดื่มน้ำ หากอยู่ในพื้นที่ที่มีบริเวณอุณหภูมิร้อนจัด อบอ้าว แม้จะไม่โดนแสงแดดก็สามารถเกิดอาการนี้ได้ หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิต ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีร้อนอบอ้าว หรือมีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน

10. โรคเครียด

เป็นโรคที่เกิดขึ้นง่ายในอากาศร้อน เพราะความร้อนมักทำให้เกิดอาการหงุดหงิด ปวดหัว นอนไม่หลับ ฉุนเฉียว โมโหง่าย ซึ่งในระยะยาวอาจจะส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้ภาวะอารมณ์เปลี่ยนไป จนกระทบไปถึงความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างได้

โรคต่าง ๆ ที่เกิดมาจากอากาศร้อนนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนหากไม่ระวังป้องกัน นอกจากนี้ ยังควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของอยู่เสมอด้วย ด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน และพยายามอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อที่จะได้สามารถผ่านหน้าร้อนปีที่นี้ไปได้อย่างปลอดภัยไร้โรค

ขอขอบคุณภาพInfographics จาก กรมควบคุมโรค และ สสส.

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่