ตากฝนทำให้เป็นหวัด จริงหรือไม่!? พร้อมวิธีกินยาลดไข้ แก้หวัด อย่างถูกต้อง

28 มิ.ย. 24

 

เรามักจะได้ยินการเตือนกันอยู่บ่อย ๆ ว่า “อย่าตากฝน เดี๋ยวเป็นหวัด” “ตากฝนต้องรีบเช็ดหัว-เช็ดตัว จะได้ไม่เป็นหวัด” จนคุ้นหู แต่แท้จริงแล้ว ตากฝนทำให้เป็นหวัด จริงรึเปล่านะ? วันนี้GedGoodLife จะเฉลยให้ได้รู้กัน พร้อมกับวิธีกินยาลดไข้ แก้หวัด อย่างถูกต้อง

decolgen ดีคอลเจน

หวัด เกิดจากอะไร ?

หวัด (common cold) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน แต่ไวรัสที่เป็นสาเหตุทำให้เป็นหวัดมากที่สุด คือ  ไรโนไวรัส (Rhinovirus) ที่แพร่กระจายได้ดีในสภาพอากาศเย็น ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว หลาย ๆ คนจึง เป็นหวัดคัดจมูก กัน

อาการของ ไข้หวัดทั่วไป คือ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม และเจ็บคอ อาจ มีไข้ ตัวร้อน ร่วมด้วย แต่ก็สามารถหายได้เองภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ ถ้าดูแลตนเองได้ดี ก็จะหายได้ภายใน 3-4 วัน


ตากฝนทำให้เป็นหวัด จริงหรือ?

อย่างที่ทราบกันไปแล้วข้างต้นว่า… โรคไข้หวัดมักเกิดจากเชื้อไวรัส ไม่ได้เกิดจากการตากฝนแต่อย่างใด น้ำฝน จึงไม่สามารถทำให้เป็นไข้หวัดได้

ทั้งนี้เวลาที่ฝนตก จะมีทั้งลม พายุ และฝน ที่อาจพัดพาเชื้อไวรัสในอากาศมาติดที่ตัวเราได้ และถ้าเราไปตากฝน เปียกฝนตั้งแต่ศีรษะ ใส่เสื้อผ้าอับชื้นนาน ๆ อุณหภูมิในตัวเราก็จะลดลง เป็นสาเหตุที่ทำให้ไวรัสเจริญเติบโตได้ดี จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เป็นไข้หวัดได้มากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำต้องระวังหน้าฝนให้ดี เพราะจะทำให้ป่วยได้ง่าย

อย่างงี้ก็เดินตากฝนได้ล่ะสิ?

ถึงแม้น้ำฝนจะไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นหวัด แต่การเดินตากฝนก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เรียกว่าเลี่ยงได้ให้เลี่ยงดีกว่า ด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้

– ฝนตกทำให้อุณหภูมิภายนอกลดลง เป็นเหตุให้โพรงจมูกของเราเย็นลง และอุณหภูมิที่เย็นลงนี่เอง ทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส ยิ่งเย็นยิ่งติดไวรัสง่าย ยิ่งช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว จะมีไวรัสระบาดอยู่หลายสายพันธุ์

– เชื้อไวรัสฟุ้งกระจาย ในช่วงก่อนฝนตกจะมีลมพายุ พัดพาไวรัสให้เกาะตามพื้น ตามสิ่งของต่าง ๆ รวมถึงใบหน้า และร่างกายเรา ฉะนั้นเมื่อเราเดินตากฝน โอกาสที่จะไปโดนเชื้อไวรัสเกาะตามหน้า ร่างกาย หรือสิ่งของ แล้วเราเอามือไปจับหน้าต่อ หรือหายใจเอาไวรัสเข้าไป ก็จะทำให้เราเป็นหวัดได้นั่นเอง

– ไวรัสกับอากาศเย็นเป็นของคู่กัน เมื่อไหร่ที่อากาศเย็น ไวรัสก็จะอยู่ได้นานขึ้น เพิ่มโอกาสติดเชื้อได้มากขึ้นนั่นเอง

– เม็ดเลือดขาวไม่ชอบอุณหภูมิต่ำ พบว่าเม็ดเลือดขาวที่โพรงจมูกทำงานได้ไม่ดีเท่ากับเม็ดเลือดขาวในปอด และในช่วงที่อากาศเย็นลงนี่แหละ เมื่อเม็ดเลือดขาวติดเชื้อ ก็จะทำให้เราป่วย มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ ได้

– ในไทยไข้หวัดมักระบาดทั้งฤดูฝน และหนาวเพราะอากาศเย็นลง ส่วนในต่างประเทศมักจะระบาดในช่วงฤดูหนาว

– อุณหภูมิร่างกายที่เย็นเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้ภูมิต้านทานร่างกายเราต่ำลง จึงเป็นเหตุให้ไวรัสทำร้ายร่างกายเราได้ง่ายขึ้น

คุณหมอเผย 3 สาเหตุ ที่ทำให้คนมักเป็นหวัดในหน้าฝนบ่อย ๆ

มาขยายความให้ชัดเจนกันอีกครั้ง เพราะหลายคนคงสงสัยว่า ในเมื่อฝนไม่ได้ทำให้เป็นหวัด แล้วทำไมหน้าฝนคนถึงเป็นหวัดกันบ่อยล่ะ ? มาฟังคำตอบจาก แพทย์จีน ธีรวัฒน์ ตั้งอร่ามวงศ์ (หมอยู) ที่พูดไว้ในช่อง MhorU TV กัน

ลำพังน้ำฝนตกลงมาไม่สามารถทำให้เราเป็นหวัดได้ แต่ที่ทำให้เราเป็นหวัดได้จริง ๆ มี 3 สาเหตุด้วยกัน ก็คือ

1. เชื้อไวรัสในอากาศนั่นเอง โดยปกติแล้วเวลาไวรัสลอยอยู่ในอากาศ มันก็ตกลงสู่พื้น ไปเกาะตามฝุ่น ตามอะไรต่าง ๆ แต่พอช่วงก่อนฝนจะตก ลมพายุเริ่มมา ก็พัดให้ไวรัสพวกนี้ฟุ้งกระจายในอากาศมากมาย แล้วเราก็หายใจเข้าไป เราก็จะติดเชื้อ เมื่อเราได้รับเชื้อเพียงพอเราก็จะเป็นหวัด อันนี้ก็คือ สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เราเป็นหวัด

2. อุณหภูมิร่างกายลดลง ตัวน้ำฝน สามารถถ่ายเทอุณหภูมิได้ดีกว่าอากาศถึง 2.5 เท่า พออุณหภูมิร่างกายลดลง ทำให้ร่างกายเรามีอุณหภูมิที่พอเหมาะต่อการเจริญเติบโตของเชื้อหวัด เชื้อไวรัส นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง

3. เชื้อเกาะตามใบหน้าหลังตากฝน แล้วเราไปจับหน้า จับหัว ก็ไปติดในโพรงจมูก ทำให้เป็นหวัดได้ง่ายขึ้น

ด้วย 3 สาเหตุนี้เองที่ทำให้เราเป็นหวัดอย่างแท้จริง และช่วงหน้าฝนก่อนออกจากบ้านก็เอาหน้ากากอนามัยปิดปากไว้ และถ้าตัวเราเปียกฝน เมื่อกลับถึงบ้านก็รีบอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สะอาด เพื่อเอาเชื้อไวรัสที่เกาะตามตัว ตามใบหน้าออกไป


ควรปฎิบัติตนอย่างไร เมื่อจำเป็นต้องทำกิจกรรมท่ามกลางสายฝน?

เชื่อว่าหลายคนมีเหตุจำเป็นต้องทำกิจกรรม หรือ ธุระส่วนตัว ท่ามกลางสายฝน เช่น นักวิ่ง นักกีฬากลางแจ้ง พ่อค้าแม่ค้าตามริมถนน หรือ ผู้ที่กำลังเดินทางระหว่างฝนตก ให้ปฎิบัติดังนี้

1. หลังตากฝนเสร็จ ควรทำตัวให้แห้งทันที – ข้อนี้สำคัญ และควรปฏิบัติตาม อย่าปล่อยให้ตัวเย็นนาน ๆ เพราะ ความเย็นจะทำให้ภูมิต่ำ โดยเฉพาะนักวิ่ง เวลาวิ่งอยู่อุณหภูมิจะอุ่น แต่พอหยุดวิ่งเมื่อไหร่ อุณหภูมิร่างกายจะเย็นลง ต้องระวัง!

2. หนีเข้าที่กำบังทันทีถ้ามีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า – อย่าได้ประมาทคิดว่าฟ้าจะไม่ผ่าโดนเราแน่นอน เพราะ การยืนอยู่กลางแจ้ง ย่อมมีโอกาสโดนฟ้าผ่าจนเสียชีวิตได้เลยทีเดียว จึงแนะนำให้หลีกเข้าที่ร่มทันที ถ้าเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมีฟ้าผ่าลงมาเรื่อย ๆ

วิธีเลี่ยงฟ้าผ่าที่ดีที่สุด คือ เข้าไปหลบในบ้าน หรือในอาคารขนาดใหญ่ เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนอง ควรยืนให้ห่างจากผนัง หน้าต่าง หรือประตูบ้าน

3. เมื่อกลับถึงบ้าน ให้ดื่มน้ำอุ่น – จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นอีกครั้ง

4. พกร่ม พกหมวก หรือเสื้อกันฝน – ในช่วงที่ฝนตกบ่อย ๆ หรือในฤดูฝน


เมื่อเป็นหวัด ควรกินยาแก้หวัด อย่างไรให้ถูกต้อง?

โดยปกติแล้ว อาการหวัดจะสามารถหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าอยากหายไว ๆ ก็ต้องพักผ่อนมาก ๆ และรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ อาจกิน ยาลดไข้ บรรเทาหวัด รักษาตามอาการที่เป็นร่วมด้วย ก็จะทำให้หายได้ภายใน 3 – 4 วัน

วิธีกินยาลดไข้หวัด หรือ ยาแก้หวัด ให้ถูกต้อง มีดังนี้

1. ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 1 – 2 เม็ด ทุก 4 – 6 ชั่วโมง

2. เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4 – 6 ชั่วโมง

3. ยาลดไข้ สามารถกินก่อน หรือหลังอาหารก็ได้ ไม่มีผลเรื่องกระเพาะ เมื่อมีไข้หวัดสามารถทานยาลดไข้ได้เลย


ข้อควรระวังในการใช้ยาลดไข้หวัด

1. ยาลดไข้ อาจทำให้ง่วงซึม – จึงไม่ควรขับขี่ยานยนต์ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือที่ทำเสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง

2. ไม่ควรรับประทานร่วมกับสุรา หรือสิ่งที่มีแอลกอฮอล์ประกอบ

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่เป็นหวัด – ใส่หน้ากากอนามัยช่วงที่หวัดระบาด ล้างมือหรือเช็ดมือด้วยแอลกอฮอลฆ่าเชื่อทุกครั้งที่ต้องสัมผัสกับสิ่งของในที่สาธารณะ

3. อย่ากินยาดักก่อนเป็นไข้หวัด ให้กินยาเมื่อมีอาการแล้ว และรักษาตามอาการ เพราะยาแก้หวัดนั้น สามารถทำได้เพียง “รักษา” อาการ และไม่มีคุณสมบัติในการ “ป้องกัน”

สุดท้ายนี้ อย่าลืม รักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันการเจ็บป่วย และทำให้ฟื้นฟูจากอาการไข้หวัดได้เร็วขึ้นนั่นเอง

อ้างอิง :
1. www.facebook.com/SpoiledPediatrician
2. www.blockdit.com
3. www.gedgoodlife.com
4. https://www.youtube.com/watch?v=qFtDB3hpCzA&t=3s


ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้  ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่

decolgen ดีคอลเจน

ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…

Facebook : gedgoodlife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter      : @gedgoodlife
Line          : @gedgoodlife
Youtube   : gedgoodlife ชีวิตดีดี
TikTok      : @gedgoodlife

คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save