เช็กร่างกาย! เด็กขาดวิตามิน เมื่อไหร่ต้องเสริมวิตามิน?

28 มิ.ย. 24

ดูเผิน ๆ อาจจะเห็นว่าลูกยังดูปกติ ไม่เจ็บป่วย แต่ใครจะรู้ว่า เด็กขาดวิตามิน สารอาหารซ่อนเร้น ที่เราไม่รู้ตัว มาเช็กร่างกายลูกดูว่าขาดวิตามิน หรือต้องการวิตามินเสริมไหม ?

ภาวะขาดสารอาหารซ่อนเร้น (Hidden Hunger)

จากการศึกษาของ WHO หรือองค์กรอนามัยโลก พบว่าพฤติกรรมการกินของเราในปัจจุบัน ทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารซ่อนเร้น (Hidden Hunger) หรือ ภาวะของการขาดวิตามิน หรือแร่ธาตุบางชนิดที่สำคัญไปโดยไม่รู้ตัว และถึงแม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงถึงขั้นขาดสารอาหาร (Malnutrition) แต่ก็ทำให้เกิดความผิดปกติ ได้ โดยเฉพาะในเด็ก ๆ วัยกำลังเจริญเติบโต เด็กขาดวิตามิน จะทำให้ร่างกายไม่เติบโต พัฒนาการถดถอย

ภาวะขาดสารอาหารซ่อนเร้น (Hidden Hunger) คือ การขาดสารอาหารบางตัวที่ร่างกายต้องการน้อย แต่จำเป็นต้องมี เช่น วิตามิน เกลือแร่ ทุกชนิด โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ไอโอดีน และวิตามินเอ ซึ่งการจะรู้ว่าขาดหรือไม่ขาดต้องอาศัยการทดสอบทางคลินิก

วิตามินแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ แต่มักได้รับไม่เพียงพอ

– ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กจะช่วยแก้ปัญหาภาวะตัวเหลืองซีด โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ถือว่า มีความจำเป็นมากเพราะจะช่วยเรื่องพัฒนาการทางสมองได้ทางหนึ่ง และสำหรับเด็กวัยเรียน ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของเฮโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่นำพาออกซิเจน ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ธาตุเหล็กจึงเป็นสารอาหารที่มีผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งสมอง

ร่างกายต้องการธาตุเหล็ก : 15 มิลลิกรัม / วัน

– ไอโอดีน ไอโอดีนช่วยในการผลิตไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์สมองของทารก ตั้งแต่ในครรภ์ถึง 3 ปี ถ้าขาดไปจะทำให้สมองเติบโตไม่เต็มที่

ร่างกายต้องการไอโอดีน : 150 ไมโครกรัม / วัน

– วิตามินเอ ช่วยในเรื่องการมองเห็น การเจริญเติบโตของกระดูก การกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบขับปัสสาวะ

ร่างกายต้องการ : ประมาณ 390 ไมโครกรัม / วัน

เด็กขาดวิตามิน

เช็กร่างกายลูก ลูกขาดวิตามิน หรือไม่ ?

– เด็กเลือกกิน กินยาก กินซ้ำ ๆ ถ้าสังเกตว่าลูกเราเป็นเด็กกินยาก เลือกกิน สันนิษฐานเอาไว้ได้เลยว่า มีโอกาสสูงที่ลูกจะเป็นเด็กขาดสารอาหาร หรือได้รับวิตามิน แร่ธาตุไม่พอได้

– ตัวเล็กผิดปกติ น้ำหนักตกเกณฑ์ ถ้าลูกกินข้าวน้อย แล้วน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ เป็นสัญญาณเบื้องต้นเลยว่าลูกอาจมีความผิดปกติกับร่างกาย หรือร่างกายขาดสารอาหาร ขาดวิตามินที่จำเป็น ถ้าขาดอาหารระยะยาว เด็กจะผอมและเตี้ย ดังนั้นน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ก็ช่วยบอกได้ว่าร่างกายกำลังขาดสารอาหารโดยรวม

– อ้วนเกินไป บางครั้งเด็กที่ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ อาจจะขาดสารอาหารได้มากกว่าเด็กที่ตัวเล็ก ๆ ด้วยซ้ำ เพราะ ที่เห็นว่าลูกอ้วน ๆ อาจจะเพราะกินแต่แป้ง ของทอด ของมัน จนทำให้ได้รับสารอาหาร วิตามินไม่ครบตามที่ร่างกายต้องการ

– เจ็บป่วยบ่อย อาการป่วยบ่อย ๆ เดี๋ยวเป็นไข้ เป็นหวัด ไอ มีน้ำมูก เจ็บตามแขนขา ต้องระวังว่าอาจจะมีความผิดปกติจากภายในร่างกายของลูก จนทำให้ไม่แข็งแรง ป่วยบ่อยผิดปกติ

– เฉื่อยชา ขาดสมาธิ เรียนไม่ทันเพื่อน หากสังเกตว่าลูกว่ามีอาการอ่อนเปลี้ย ไม่กระตือรือล้น ง่วงหวาวบ่อย ๆ ผลการเรียนไม่ดี เรียนไม่ทันเพื่อน ทั้งที่ไม่ใช่เด็กเกเรอะไร สาเหตุอาจจะขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก ซึ่งนำพาออกซิเจน ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยให้สมองทำงานได้ดี

เด็กขาดวิตามิน

– ไม่ยอมเดิน พัฒนาการช้า อาจจะเกิดจากขาดวิตามินซี เพราะมีกรณีเด็กที่ไม่ยอมเดิน เนื่องเกิดอาการเจ็บตรงบริเวณขา มีอาการอักเสบ และเลือดออกภายในผิวกระดูก โดยจากวินิจฉัยพบสาเหตุว่าเกิดจากการขาดวิตามินซี เพราะกินแต่นมกล่อง แต่กินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ไม่กินข้าว ผัก ผลไม้อย่างเพียงพอ

– มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ปัญหาฟันผุ ฟันซ้อน เป็นอีกสัญญาณที่เตือนให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกกำลังขาดสารอาหาร ซึ่งเด็กที่มีปัญหาฟันซ้อนนอกจากกรรมพันธุ์แล้วยังเกิดจากการที่กินอาหารแปรรูปมากเกินไป มีช่องฟันไม่เหมาะสม ส่วนฟันผุนั้นแน่นอนว่าเกิดจากร่างกายลูกได้รับน้ำตาลมากเกินไป รวมถึงการขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อความแข็งแรงของฟันนั่นเอง

– ลูกพูดช้าผิดปกติ ลูกพูดช้า พูดเร็ว เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้พ่อแม่กังวลมากเกินไป เพราะมีสาเหตุได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม การเลี้ยงดู แต่ก็มีบางครั้งที่การขาดวิตามินบี 12 ทำให้ลูกมีพัฒนาการทางภาษาด้อยกว่าปกติ เช่น พูดช้า ได้เช่นกัน ดังนั้น ควรให้ลูกได้รับวิตามินอย่างครบถ้วน ซึ่งวิตามินบี 12 มีมากใน ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ไก่ เนื้อหมู ปลา ไก่ และเครื่องในสัตว์

– ผิวแห้ง ผมแห้ง การที่ลูกน้อยมีผิวหนังแห้ง และมีปัญหาเส้นผมต่าง ๆ อาจมีสาเหตุจากร่างกายของลูกขาดวิตามินเอ ดี อี และเค

เสริมวิตามินให้ลูก ช่วยไม่ให้ลูกขาดวิตามิน

พยายามให้ลูกรับประทานอาหารมื้อหลัก วันละ 3 มื้อ โดยกินให้ครบ 5 หมู่ กินให้หลากหลาย กินนมรสจืด ดื่มน้ำสะอาด พักผ่อนให้พอ พาลูกออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านบ่อย ๆ ให้ลูกได้ออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายกลับมาแข็งแรง มีพัฒนาการที่ดีทั้งร่างกาย สมอง อารมณ์และจิตใจ

แต่หากลูกยังกินอาหารได้น้อย เลือกกิน ควรเสริมด้วย วิตามินรวมสำหรับเด็ก เช่น Nutroplex ซึ่งเป็นวิตามินรวมที่ นอกจากมีใยอาหารโอลิโกฟรุคโต (Oligofructose) จากธรรมชาติ ช่วยในการปรับสมดุล ด้านระบบทางเดินอาหาร เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยแล้ว ยังเป็นวิตามินรวมที่มีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นกับพัฒนาการ การเรียนรู้ของเด็กอีกด้วย

“Expert ดีดี” โควิด-19 ไอ หวัด ปวดท้อง ภูมิแพ้ อย่าปล่อยให้เรื้อรัง ปรึกษาฟรี คลิกเลย!