คุณแม่ที่ใกล้คลอด โดยเฉพาะหากเป็นท้องแรก เรื่องที่ทำให้หวั่นใจ ทำใจไม่ได้คือ เสียงลือเสียงเล่าเรื่องการคลอดลูก ที่เจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว แม่หลายคนจึงตัดสินใจใช้วิธีผ่าคลอด แต่หากคุณแม่ตัดสินใจจะคลอดด้วยตัวเองนั้น เรามีเคล็ดลับ คลอดง่าย ปากมดลูกเปิดเร็ว ให้คุณแม่มาได้เตรียมพร้อมไว้ก่อน
สถิติอัตราการผ่าคลอดในประเทศไทย
ปี 2533 : ร้อยละ 14.8
ปี 2544 : ร้อยละ 20.7
ปี 2557 : ร้อยละ 39.4
อัตราการผ่าคลอดในปี 2533 เท่ากับร้อยละ 14.8 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20.7 ในปี 2544 และเมื่อถึงปี 2557 ตัวเลขดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 39.4 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขขององค์การอนามัยโลกกว่า 2 เท่า
คลอดธรรมชาติ ดีอย่างไร ?
การคลอดเองที่อาจจะคาดการณ์เวลาคลอดแน่นอนไม่ได้ หรือ ต้องรอจนกว่าปากมดลูกจะเปิด อาจเจ็บท้องระหว่างรอคลอด แต่การคลอดเองนั้นมีข้อดีอยู่มากจน ทำให้แม่อาจจเปลี่ยนใจมาคลอดเองกันดีกว่า
– ลดโอกาสการเกิดการแทรกซ้อนระหว่างการคลอด
– ลดความเสี่ยงการเสียเลือด ติดเชื้อ มากกว่าการผ่าคลอด
– แผลหายเร็ว ร่างกายฟื้นตัวเร็ว มดลูกเข้าอู่เร็ว
– สามารถให้นมลูกได้เร็ว ช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ให้ออกดี
– ลดโอกาสเกิดภูมิแพ้กับลูก เพราะได้รับแบคทีเรียชนิดดีระหว่างคลอด
อย่าผ่าคลอดโดยไม่จำเป็น
สำหรับคุณแม่หลายคน อาจจะคิดว่าการคลอดเองเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นแล้ว ผ่าคลอดไปเลยง่ายกว่า แต่ในทางการแพทย์แล้ว การผ่าคลอดเป็นเรื่องที่จะทำในกรณีที่จำเป็นเกี่ยวกับสุขภาพของทารกในครรภ์ หรือความปลอดภัยของแม่และลูกมากกว่า
สาเหตุที่ทำให้แม่ ๆ หลายคน ตัดสินใจเลือกผ่าคลอด แทนการคลอดธรรมชาติ นอกจากเรื่องฤกษ์งามยามดีแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ คือ เรื่องความเจ็บปวด แม่หลายคนไม่ได้ คลอดง่าย แต่ต้องเจ็บท้องอยู่นานกว่าจะคลอด เลยทำให้ตัดสินใจผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ แล้วถ้าอยากคลอดเอง คลอดง่าย จะทำอย่างไรดี
เคล็ดลับ “คลอดง่าย” คลอดเองได้ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ
อยากคลอดง่าย โยคะช่วยได้ การออกกำลังกายด้วยการทำโยคะ นอกจากช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดอาการปวดหลัง ปวดขา อาการตะคริวระหว่างตั้งท้องแล้ว หลาย ๆ ของโยคะ ยังช่วยบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ช่วยให้คลอดได้ง่ายขึ้น เช่น ท่าแมว ท่าสุนัขบิดขี้เกียจ เป็นต้น การทำโยคะยังเป็นการฝึกการหายใจเข้าออก ซึ่งช่วยได้มากในระหว่างคลอด ช่วยให้ผ่อนคลาย คลอดง่าย
ใช้แรงโน้มถ่วงช่วย ช่วงใกล้คลอดลองพยายามนั่งคุกเข่า ใช้ลูกบอลออกกำลังกายพยุงลำตัวไว้ หรือใช้เก้าอี้แทนได้ หรือพยายามยืน เดิน สม่ำเสมอ เป็นการช่วยดันให้ทารกลงมาอยู่ช่วงล่าง และหากลูกกลับหัวแล้ว หัวของลูกที่ถูกดันลงมาจะช่วยกดทับปากมดลูกให้ขยาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดได้ง่ายขึ้น
เดินเยอะ ๆ คลอดง่าย หลายคนบอกว่าการเดินบ่อย ๆ ช่วยให้คลอดง่าย แต่จริง ๆ แล้วการเดินถือว่าเป็นการบริหารร่างกายอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ส่งผลต่อการคลอด ทำให้ลดความเจ็บปวด ถ้าลูกไม่โตใหญ่เกินไป ก็น่าจะคลอดได้ไม่ยาก ควรใช้เวลาเดิน 20-30 นาที ต่อวัน เชื่อว่าการเดินอาจช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) ที่ช่วยให้มดลูกบีบรัด เป็นการกระตุ้นการคลอด และนอกจากการเดินแล้ว อาจจะบริหารร่างกายส่วนอื่น ๆ ไปด้วย เช่น แขน ขา สะโพก หน้าท้อง อุ้งเชิงกราน
ดื่มชาใบราสเบอร์รีแดง เป็นสูตรของทางฝรั่ง ที่แนะนำให้ดื่มดื่มชาใบราสเบอร์รีแดงช่วงใกล้คลอด เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีที่ช่วยเร่งการคลอดได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ดื่มชานี้ ในช่วงตั้งครรภ์ เพราะว่าอาจทำให้เสี่ยงกับการคลอดก่อนกำหนด แต่สำหรับใครที่ใกล้กำหนดคลอดแล้ว ลองดื่มดูได้
กระตุ้นหัวนม การกระตุ้นที่หัวนม (Breast stimulation) โดยการนวดคลึง ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซีโตซินทำให้มดลูกหดรัดตัวดีขึ้น โดยให้คุณแม่ใช้ฝ่ามือนวดบริเวณลานนมอย่างอ่อนโยนครั้งละ 15-20 นาทีทุก ๆ ชั่วโมง วันละหลาย ๆ ครั้ง จากการศึกษาพบว่าวิธีนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้ และปากมดลูกมีความพร้อมมากขึ้น เป็นวิธีที่เหมาะกับแม่ท้องที่ปากมดลูกมีความพร้อม แต่ก่อนที่จะใช้วิธีนี้ อาจจะต้องปรึกษากับคุณหมอที่ฝากครรภ์ก่อนว่ามีความพร้อม หรือสามารถทำได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
3 ท่าบริหารร่างกายช่วยให้ คลอดง่าย
1.ท่ายืดหลัง
– นอนหงายราบหลังตรง ขันเข่าทั้งสองขึ้น โดยวางเท้าทั้งสองข้างราบชิดกับพื้น
– ใช้มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในช่องว่าง ระหว่างเอวกับพื้น
– ใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง ออกแรงกดลงบนกระดูกสันหลัง เพื่อให้แผ่นหลังราบกับพื้นทั้งไว้ประมาณ 4-5 วินาที แล้วคลายแรงกดออก
– ทำซ้ำประมาณ 5-10 ครั้ง
2. ท่าโก่งหลัง
– คุกเข่าลงกับพื้น แล้ววางมือทั้งสองราบกับพื้นไปทางด้านหน้า
– ก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมโก่งหลังขึ้นช้า ๆ ค่อย ๆ แอ่นหลังลงช้า ๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นช้า ๆ
– คุณแม่จะรู้สึกดึงบริเวณกล้ามเนื้อต้นคอและหลัง
– ผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอ และหลังตามปกติ
– ทำซ้ำ ประมาณ 1-2 ครั้ง
3.ท่าบริหารหลังต้นขาและเชิงกราน
– นั่งยอง ๆ ลงกับพื้น โดยให้ปลายเท้าทั้งสองข้างหันออกนอกตัว
– ส้นเท้าทั้งสองจะต้องแนบกับพื้น
– มือทั้งสองข้างพนมมือประสานกัน ใช้ข้อศอกทั้งสองดันต้นขาให้ห่างจากกันอย่างช้า เพื่อยืดกล้ามเนื้อต้นขาและเชิงกรานทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยๆคลายออก
– หรือนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น โดยใช้เก้าอี้ช่วยพยุงตัว ปลายเท้าทั้งสองข้างหันออกนอกตัว
– หากไม่สามารถวางเท้าราบกับพื้นได้ให้ใช้ผ้าห่มม้วนแล้วรองไว้ใต้ส้นเท้า
– พยายามแยกเข่าทั้งสองให้ห่างจากกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อยืดกล้ามเนื้อต้นขาและเชิงกราน แล้วค่อย ๆ คลายออก
“Expert ดีดี” โควิด-19 ไอ หวัด ปวดท้อง ภูมิแพ้ อย่าปล่อยให้เรื้อรัง ปรึกษาฟรี คลิกเลย!
ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี