ลูกไข้สูงไม่ลด สาเหตุเกิดจากอะไร ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด รับมือยังไงดี

17 ก.ค. 24

ลูกไข้สูงไม่ลด สาเหตุเกิดจากอะไร

อาการลูกไข้สูงไม่ลดและอาการตัวร้อนในเด็กเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองและเกิดการเพิ่มอุณหภูมิขึ้นเพื่อขัดขวางการเจริญเติบโตของเชื้อ

หากเด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ไข้ก็อาจเกิดขึ้นได้บ่อยขึ้น โดยทั่วไปอุณหภูมิร่างกายปกติของเด็กอยู่ที่ประมาณ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส และหากอุณหภูมิสูงเกินไปก็อาจเป็นสัญญาณของไข้

  • การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หรือโรคมือเท้าปาก ซึ่งมักทำให้ไข้สูงและไม่ลดลง
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น คออักเสบจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส ปอดอักเสบ หรือทางเดินปัสสาวะอักเสบ ที่อาจทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาการอักเสบ
  • โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน หรือการอักเสบของร่างกาย เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง
  • ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน มักเกิดอาการไข้สูงชั่วคราว แต่หากมีไข้ต่อเนื่องหรือมีอาการแทรกซ้อน ควรพบแพทย์ทันที

วิธีวัดไข้เด็กเมื่อลูกมีไข้สูงที่คุณแม่ควรรู้

  • ไข้ต่ำ: อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 6-38.3 องศาเซลเซียส
  • ไข้ปานกลาง: อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 4-39.9 องศาเซลเซียส
  • ไข้สูง: อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย

อาการแบบไหนที่บอกว่าลูกไม่สบาย

1. มีอาการหงุดหงิด หรือร้องไห้ต่อเนื่อง

ลูกอาจมีความรู้สึกไม่สบายตัวจากไข้ ปวดหัว หรืออาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ทำให้ร้องไห้หรือหงุดหงิดผิดปกติ

2. มีไข้

ลูกมีไข้สูงหรือมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น เป็นสัญญาณหลักของการติดเชื้อ หากมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ควรเฝ้าระวังอาการเพิ่มเติม

3. เบื่ออาหาร

หากลูกกินอาหารน้อยลง หรือปฏิเสธอาหารที่ปกติชอบกิน อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังเจ็บป่วย

4. มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป

เช่น ง่วงซึม ไม่ร่าเริง หรือเล่นน้อยลง อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรค

5. ท้องเสีย

หากลูกถ่ายเหลวบ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการร่วมกับไข้หรืออาเจียน ควรระวังภาวะขาดน้ำ

6. ผื่นขึ้นตามร่างกาย

ผื่นแพ้หรือผื่นแพ้ผิวหนังอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน ควรตรวจสอบว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่

ลูกมีไข้แค่ไหน ถึงเรียกว่าไข้สูง

โดยทั่วไป หากเด็กมีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส จะถือว่าเป็นไข้สูง และหากอุณหภูมิสูงเกิน 39.5 องศาเซลเซียส ควรเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด และรีบพบแพทย์หากมีอาการรุนแรงร่วมด้วย

ลูกตัวร้อน ลูกไข้สูงไม่ลด เป็นไข้บ่อย อันตรายไหม

การที่ลูกมีไข้บ่อย หรือลูกไข้สูงไม่ลด อาจเป็นสัญญาณของภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อซ้ำ ๆ หากไข้เกิดขึ้นบ่อยเกินไปหรือมีอาการรุนแรงร่วมด้วย เช่น ซึม อาเจียน หรือหายใจลำบาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

 

วิธีดูแลลูกน้อย ลูกไข้สูงไม่ลด

1. เช็ดตัวลดไข้

ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด เช็ดตัวบริเวณข้อพับ เช่น รักแร้ คอ ขาหนีบ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายและช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายขึ้น

2. การให้ยาลดไข้

สามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้ยาพาราเซตามอลในขนาดที่เหมาะสมตามน้ำหนักของเด็ก ห้ามใช้ยาเกินขนาดหรือใช้ยากลุ่ม NSAIDs โดยไม่ปรึกษาแพทย์

3. แปะแผ่นเจลลดไข้

ช่วยดูดซับความร้อนจากร่างกาย ควรเลือกแผ่นเจลที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับเด็ก

4. ดื่มน้ำสะอาด

ให้ลูกดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย

5. นอนหลับในที่อากาศถ่ายเท

จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงห้องที่ร้อนหรืออับชื้น ควรให้ลูกพักผ่อนให้เพียงพอ

ลูกมีไข้สูงแบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์

เมื่อเด็กมีไข้สูงไม่ลด ควรดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

1. ลูกมีไข้ขึ้นสูงและไข้ไม่ยอมลดลง

หากอุณหภูมิสูงเกิน 39.5 องศาเซลเซียส และไม่ลดลงภายใน 48 ชั่วโมง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม

2. ลูกมีอาการชัก

หากลูกมีอาการเกร็งกระตุก หมดสติ หรือมีภาวะชัก ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

 3. ลูกมีอาการอาเจียน ท้องเสียไม่หยุด

หากลูกอาเจียนและถ่ายเหลวหลายครั้งจนเสี่ยงต่อการขาดน้ำ ควรพาไปพบแพทย์โดยเร็ว

4. ลูกมีไข้ติดต่อกันเกิน 5 7 วัน

หากลูกมีไข้ต่อเนื่องเกินหนึ่งสัปดาห์ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

5. ลูกมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง

หากเด็กปวดศีรษะมากผิดปกติและมีอาการอื่นร่วม เช่น คอแข็ง อาเจียน ควรพบแพทย์ทันที

6. ลูกมีอาการหายใจหอบเหนื่อย

หากลูกหายใจลำบาก หอบเหนื่อย หรือหน้าเขียวซีด อาจเป็นภาวะฉุกเฉิน ควรรีบนำส่งโรงพยาบาล

7. ลูกมีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด

หากอุจจาระมีมูกเลือดปนร่วมกับไข้ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง ควรรีบพบแพทย์

เด็กมีไข้สูงจนชัก คุณแม่ควรทำอย่างไร

หากลูกชัก ควรจับให้นอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก ไม่ควรยัดของแข็งเข้าปาก และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว
อาการไข้ในเด็กอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ควรเฝ้าระวังและดูแลอย่างถูกต้อง หากไข้สูงไม่ลดลง หรือมีอาการรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ ควรส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี เช่น การล้างมือเป็นประจำ และให้เด็กได้รับวัคซีนตามกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย

หากลูกมีไข้สูงไม่ลด ควรดูแลอย่างเหมาะสมด้วยวิธีเช็ดตัวลดไข้ที่ถูกต้องหรือรับประทานยาพาราเซตามอลตามขนาดที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรให้เด็กดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนในที่อากาศถ่ายเท หากไข้ยังไม่ลดลงภายใน 48 ชั่วโมง หรือมีอาการรุนแรง เช่น ซึมลง หายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save