วิตามินและแร่ธาตุ เป็นสารอาหารที่จำเป็นมาก ต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และแม้ว่าร่างกาย จะต้องการวิตามินแร่ธาตุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็จะขาดไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากร่างกายของคุณ ไม่ได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ ก็สามารถทำให้เจ็บป่วยได้ทันที รวมถึงส่งผลเสียต่าง ๆ ต่อร่างกายอย่างเห็นได้ชัด
ร่างกายขาดวิตามิน จะมีอาการอย่างไร?
- ผิวแห้ง หยาบกร้าน
ผิวแห้งหยาบกร้าน บ่งบอกได้ว่า ร่างกายขาดวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และกรดโฟลิก ซึ่งวิตามินเอ จะมีบทบาทสำคัญ ต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวหนัง ช่วยรักษาสภาพเยื่อบุผิว ซึ่งช่วยป้องกันอาการผิวแห้งหยาบกร้านได้ ส่วนวิตามินซีและอี ก็มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน บำรุงผิวพรรณ และช่วยรักษาแผลสด ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจถึงขั้นผิวหนังแตกจนเกิดรอยแผลเปิด และนำไปสู่การติดเชื้อได้
- นอนไม่หลับ
หากคุณต้องการพักผ่อน แต่ไม่สามารถหลับได้ หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ จะทำรู้สึกอ่อนเพลีย อารมณ์เสียง่าย ปวดหัว ไม่มีสมาธิ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ ร่างกายมีระดับแมกนีเซียมต่ำ เพราะแมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยคลายความเครียด ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ทำให้คุณสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น
- อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อและข้อ
อาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อและข้อ เป็นสัญญาณว่า ร่างกายขาดวิตามินซีเนื่องจากวิตามินซี มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างสารคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อประสานในร่างกาย บริเวณกระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ หลอดเลือด และผิวหนัง ซึ่งอันที่จริงแล้ว อาการเหล่านี้เป็นอาการสำคัญของภาวะโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซี โดยในรายที่มีอาการรุนแรง จะมีเลือดออกตามไรฟัน พบจุดจ้ำเลือดตามผิวหนัง เหงือกร่น และฟันหลุด ร่วมได้
- กล้ามเนื้อหดเกร็ง ขากระตุก เป็นตะคริวบ่อย ๆ
ร่างกายต้องการโพแทสเซียม เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และโปรตีน การที่มีโพแทสเซียมต่ำ อาจทำให้เกิดตะคริวได้ โดยเฉพาะที่บริเวณน่อง และยังอาจบ่งบอกถึง ภาวะที่ร่างกายมีระดับแคลเซียมที่ลดต่ำลง เนื่องจากแคลเซียม ทำหน้าที่ในการรักษา การตอบสนองของเซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อ เมื่อแคลเซียมลดลง จะทำให้เซลล์เหล่านี้ถูกกระตุ้นได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดการหดตัว แข็งเกร็ง และเป็นตะคริวได้
- เลือดกำเดาไหลได้ง่าย เลือดหยุดไหลยาก
เนื่องจากวิตามินเค มีส่วนสำคัญต่อกระบวนการแข็งตัวของเลือดในร่างกาย การที่ ร่างกายขาดวิตามิน เค จึงทำให้เลือดหยุดยาก รวมถึงอาจมีอาการเลือดออกผิดปกติ เช่น มีเลือดกำเดาไหล มีเลือดออกในทางเดินอาหาร และมีจุดจ้ำเลือดที่บริเวณผิวหนัง
- สิว
สิว หนึ่งในโรคผิวหนังที่สร้างความรำคาญใจให้กับคนหลาย ๆ คน โดยเฉพาะสาว ๆ โดยคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า สิวเกิดจาก การไม่รักษาความสะอาดบนผิวหน้า ทานของทอดของมัน รวมถึงมลภาวะต่าง ๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว การขาด วิตามินเอ หรือ วิตามินดี ก็สามารถทำให้เกิดตุ่มคล้ายสิวขึ้นได้เช่นกัน เพราะวิตามินเอ มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดสิว ลดจุดด่างดำบนในหน้า และลดการอักเสบของสิวได้ เมื่อร่างกายมีนระดับวิตามินเอลดต่ำลง จึงมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิวได้
- ผมร่วง
ภาวะการขาด สังกะสี อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบาง ได้ เนื่องจากสังกะสี เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต การสร้างเนื้อเยื่อ รวมถึงการแบ่งตัวของเซลล์รากผมด้วย
- โรคปากนกกระจอก หรือมีรอยแตกบริเวณมุมปาก
โรคปากนกกระจอก เป็นโรคที่สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย และสามารถหายได้เองภายในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำอีกได้ โดยผู้ที่เป็นโรคนี้ จะมีรอยแตกบริเวณมุมปากทั้งสองด้าน หากไม่รีบรักษา อาจเป็นอุปสรรคต่อการพูดคุย หรือทานอาหารได้
และสาเหตุของโรคปากนกกระจอก ก็เกิดจากการที่ร่างกายอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ มีภูมิต้านทานต่ำ หรือภาวะขาดวิตามินบี โดยเฉพาะ วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 และ วิตามินบี 12 รวมถึงการขาดแร่ธาตุสังกะสี และธาตุเหล็ก
- ปวดชาบริเวณปลายมือ และ เท้า
เมื่อ ร่างกายขาดวิตามิน บี 1 วิตามินบี 6 และวิตามิน บี 12 มักจะทำให้เกิดอาการปวดชาบริเวณปลายมือปลายเท้า โดยวิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสารสื่อประสาท และการส่งสัญญาณประสาท ส่วนวิตามินบี 12 นั้น เกี่ยวข้องกับการสร้างเยื่อไมอิลิน ที่ทำหน้าที่ช่วยส่งสัญญาณกระแสประสาท การขาดวิตามินเหล่านี้ จึงจะทำให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติ ปวด หรือชาบริเวณเส้นประสาทรอบนอก หรือปลายมือปลายเท้าได้
- เล็บเปราะ
เมื่อร่างกายของคุณมีธาตุเหล็กต่ำ ร่างกายบางส่วนจะเริ่มแสดงความอ่อนแอ ออกมาในรูปแบบของเล็บที่เปราะ หรือเยื่อบุตาซีด ผู้หญิงที่มีประจำเดือนมามาก จะเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับผู้ที่ทานมังสวิรัติต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ เนื่องจากร่างกายจะสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีที่สุดจากเนื้อสัตว์ ผู้ที่ทานมังสวิรัติ จึงควรให้ความสำคัญกับการทานผักที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่น ผักโขม หรือถั่วลูกไก่ ร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง เพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
- กระดูกเปราะ กระดูกหักง่าย
ความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกบาง ภาวะกระดูกพรุน และกระดูกหัก เนื่องจากมวลกระดูกลดลงนั้น เกิดจากการที่ร่างกายขาดแคลเซียม โดยกระดูกของคนเรานั้น จะแข็งแรงมากที่สุดเมื่อมีอายุได้ประมาณ 30 ปี ก่อนที่จะค่อย ๆ สูญเสียแคลเซียมไปเรื่อย ๆ การทานแคลเซียมในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนสูง
ถามหมอออนไลน์ ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี