เชื้อราแมว หรือกลากแมว คือโรคจากสัตว์แสนรักอย่างแมว ที่สามารถติดต่อสู่คนหรือที่นิยมเรียกว่า “ทาสแมว” ได้ ยิ่งในปัจจุบันผู้คนหันมานิยมเลี้ยงแมวกันมากขึ้น บางคนก็เลี้ยงไว้เพื่อแก้เหงา บางคนก็เลี้ยงเพราะเชื่อว่าช่วยรักษาอาการซึมเศร้าได้ แต่ไม่ว่าจะเลี้ยงด้วยสาเหตุอะไร ทาสแมวทั้งหลายก็ควรรู้จักโรคที่มาจากเจ้านาย หรือแมวไว้ด้วย จะได้รู้เท่าทัน ป้องกันได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตก อากาศชื้นแบบนี้ ยิ่งต้องระวังเชื้อราแมวกันให้ดี!
ทำความรู้จักกับ “เชื้อราแมว – Ringworm in Cats”
เชื้อราแมวมีหลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อยคือเชื้อ Microsporum canis อาศัยอยู่ตามผิวหนังของสัตว์ สาเหตุของการเกิดเชื้อราชนิดนี้มาจากความชื้นสะสมส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของแมว สามารถสังเกตได้จากผิวหนังของแมวที่มีลักษณะแห้ง แดง และอาจมีอาการลอกของผิวหนัง และขนร่วงเป็นหย่อม ๆ โดยแมวขนยาวจะมีความเสี่ยงในการเกิดเชื้อราได้มากกว่าแมวที่มีขนสั้น (เช่นแมวเปอร์เซีย) เพราะสามารถสะสมความชื้นได้มากกว่า
นอกจากแมวแล้วสัตว์อื่น ๆ เช่น สุนัข กระต่าย หนูแฮมสเตอร์และสัตว์ขนยาว ก็สามารถติดเชื้อนี้เช่นกัน จากการทำความสะอาดไม่เพียงพอ เชื้อราแมวสามารถติดต่อสู่คนได้ และต้องใช้เวลานานสักระยะหนึ่งในการรักษา (อาจมากกว่า 6 เดือนก็ได้) แถมโรคนี้ยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำ และเพิ่มรอยดำจากแผลเป็นมากขึ้นอีก
แมวที่มีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อราแมว
• แมวที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เครียด
• แมวมีความชื้นสะสมตามอวัยวะต่าง ๆ
• ลูกแมว หรือแมวที่มีอายุมาก
• ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
คนที่มีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อราแมว
• ร่างกายไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว
• นอนดึก หรือคนที่มีความเครียด
• คลุกคลีกับแมวที่ติดเชื้อรา
เชื้อราแมวติดต่อสู่คนได้อย่างไร?
เชื้อราแมวสามารถติดต่อสู่คนได้จากการสัมผัสกับผิว หรือขนของแมว โดยไม่จำเป็นต้องมีบาดแผล ก็ทำให้คนเลี้ยงติดเชื้อราจากแมวได้ หรือแม้แต่บริเวณบ้านที่แมวอยู่มักจะมีเชื้อราอยู่ โดยสปอร์ของเชื้อราจะหลุดร่วงมาจากผิว หรือขนของแมว และสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานเป็นเดือน หรือเป็นปีเลยทีเดียว การทำลายสปอร์ควรใช้สารฟอกขาว ละลายในน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 10 เพื่อทำลายสปอร์ในอุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม
วิธีสังเกตเชื้อราในแมว
• แมวมีอาการคัน ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ
• มีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนัง หรือเป็นสะเก็ด
• ขนเริ่มร่วง อาจพบขนร่วงหายไปเป็นจุดเล็กจนถึงเป็นวงกว้าง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร
• ลูกแมวที่เป็นเชื้อรามักมีร่องรอยเริ่มต้นที่หน้า โดยเฉพาะสันจมูก และใบหู
ลักษณะอาการเชื้อราแมวที่ติดต่อสู่คน
ลักษณะอาการของโรคนี้สังเกตได้ไม่ยาก แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ได้แยกลักษณะเชื้อราแมวที่ติดในคน ไว้ดังนี้
• มีลักษณะเป็นผื่นกลม มีขุย สีแดง ขอบเขตชัด
• มีอาการคัน เกิดขึ้นได้ในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งบริเวณใบหน้า มือ เท้า หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่สัมผัสกับแมว
• คนที่ถูกเชื้อราจากแมว อาจเกิดจากมีภูมิคุ้มกันน้อย และอาจเกิดจากผิวหนังบอบบางแพ้ง่าย
ข้อควรระวัง! นิ้วที่เกาเชื้อราแมว หากเผลอไปเกาบริเวณอื่นอาจทำให้บริเวณนั้นติดเชื้อราด้วยได้
กลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อราแมว
- เด็กเล็ก
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้เลี้ยงสัตว์หลายชนิด
- ผู้ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับแมว
วิธีรักษาเชื้อราแมวในคน
ปกติแล้วสภาพผิวหนังปกติของคนจะมีแบคทีเรียที่รักษาความสมดุลบนผิวหนังไว้ไม่ให้ง่ายต่อการติดเชื้อ แต่ช่วงเวลาที่เราเครียดบ่อย หรือป่วย จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง หรือแม้แต่การรบกวนผิวหนังมากเกินไป เช่น ล้างมือด้วยสบู่ หรือสเปรย์แอลกอฮอล์บ่อย อาจทำให้แบคทีเรียดี ๆ บนผิวตายไป ง่ายต่อการติดเชื้อรามากขึ้น ส่วนวิธีจัดการกับเชื้อราแมว มีดังต่อไปนี้
1. หากมีอาการน้อย มีผื่นขึ้นไม่มาก 1-2 จุด ใช้ยาทาฆ่าเชื้อราต่อเนื่องประมาณ 3 สัปดาห์ ผื่นจะค่อย ๆ หายไป
2. หากมีอาการมาก ผื่นขึ้นทั่วร่างกาย ต้องใช้ทั้งยาทาและยากินร่วมกัน ระยะเวลาในการรักษาตั้งแต่ 3 สัปดาห์ขึ้นไป
3. หากจะซื้อยามารักษาเอง ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา หรือควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษาอย่างถูกต้อง
4. ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์ด้วย เพื่อรักษาเชื้อราให้หายดี
ในส่วนนี้เป็นการรักษาอาการติดเชื้อ ซึ่งไม่ใช่การรักษารอยดำที่เกิดจากการติดเชื้อ และถึงแม้ว่าอาการเชื้อราจะหายแล้ว รอยดำจากเชื้อจะยังคงอยู่ โดยจะจางไปเองภายใน 2-3 เดือน และมักไม่มีแผลเป็นเกิดขึ้น
การป้องกันการติดเชื้อราแมว โดยแพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ
1. ล้างมือหลังสัมผัสแมวทุกครั้ง
2. หมั่นทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านที่แมวมีการสัมผัส เช่น โซฟา หมอน พรมปูพื้น
3. ไม่คลุกคลีกับแมวมากเกินไป
4. นำแมวฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อราเมื่อแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป และฉีดวัคซีนหลักครบแล้ว ควรฉีดกระตุ้นซ้ำ 3 เข็ม หลังจากนั้นกระตุ้นทุก 1 ปี
5. หมั่นดูแลทำความสะอาดขนของแมว อาบน้ำเป่าขนให้แห้ง และหากแมวมีผื่น ขุย หรือขนร่วงควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
การจะเป็นทาสแมวอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องหมั่นดูแลเรื่องสุขภาพของเจ้านาย (น้องแมว) ทั้งเรื่องอาหารการกิน ค่ายารักษา รวมถึงสถานที่ต้องสะอาดด้วย ฉะนั้นใครที่อยากเป็นทาสแมว ก็ต้องทุ่มทั้งแรงกาย แรงใจกันหน่อย และหากทาสคนไหนเป็นภูมิแพ้ขนแมว GED good life แนะนำให้อ่านบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการเลี้ยงแมวต่อไป -> แพ้ขนแมว แต่อยากเลี้ยง ต้องทำไง?
อ้างอิง : 1. โรงพยาบาลเพชรเวช 2. สถาบันโรคผิวหนัง 3. ramachannel 4. gatoro
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : gedgoodlife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : gedgoodlife ชีวิตดีดี
TikTok : @gedgoodlife