เด็กท้องเสีย มักจะมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำ หรือถ่ายเป็นฟองหลาย ๆ หน คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีไข้ขึ้น และอาจอันตรายกว่านั้นได้หากดูแลรักษาไม่ถูกวิธี! มาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้เด้กท้องเสียมีอะไรบ้าง และวิธีรักษาอาการท้องเสียอย่างถูกต้อง นำไปปฏบัติตามกันได้เลย!
แค่ไหนถึงเรียกว่า “ท้องเสีย”?
ท้องเสีย หรือ ท้องร่วง (Diarrhea) ตามความหมายขององค์การอนามัยโลก จะดูที่ลักษณะ และความถี่ของอุจจาระ โดยใช้ลักษณะอุจจาระที่เปลี่ยนแปลงไปจากปกติ เช่น เป็นเนื้อเหลวความถี่ 3 ครั้งขึ้นไป หรือเป็นมูกเลือด 1 ครั้ง หรือเป็นน้ำปริมาณมาก 1 ครั้งขึ้นไป ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยคำจำกัดความนี้ ไม่รวมถึงเด็กเล็กที่ดื่มนมแม่ ซึ่งมักจะถ่ายบ่อย แต่อุจจาระเป็นเนื้อดี และมีน้ำหนักตัวขึ้นได้ตามปกติ
อาการท้องเสียเฉียบพลันมักหายได้เองภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ ถ้านานกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป ถือเป็นภาวะอุจจาระร่วงยืดเยื้อ หรือเรื้อรัง
เด็กท้องเสีย มีสาเหตุจากอะไร?
โรคท้องเสียที่พบในเด็ก มีสาเหตุหลักมากกว่า 90% มาจากการติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะ “ไวรัสโรต้า” เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียในเด็กได้รุนแรงมากที่สุด รองลงมาคือการติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้ออื่น ๆ เช่น เชื้อปรสิต อาหารเป็นพิษจากสารพิษในสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนในอาหาร หรือสารพิษที่สร้างขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้แล้วท้องเสียยังอาจเกิดจากการได้รับยาบางชนิด
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และเกิดโรคท้องร่วงได้มากขึ้น ได้แก่ สุขอนามัยไม่ดี ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ทุพโภชนาการ ทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน ทารกที่ไม่ได้รับนมแม่ในช่วงแรกของชีวิต และสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่ทำให้มีโอกาสรับเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น เช่น อาศัยในชุมชนแออัด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีคำถามที่กุมารแพทย์มักจะได้รับจากพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นประจำในเวลาที่ทารก หรือเด็กท้องเสียนั้นเกิดจาก “เด็กยืดตัว” แต่แท้จริงเป็นความเชื่อที่ผิด ๆ เด็กยืดตัวไม่ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียได้
วิธีรับมือกับ เด็กท้องเสีย อย่างถูกต้อง
หลักสำคัญที่สุดในการรักษาท้องเสีย คือ การให้น้ำเกลือแร่ ORS (หรือเรียกว่า เกลือแร่แก้ท้องเสีย) เพื่อใช้ทดแทนการเสียน้ำจากอาการท้องเสีย หรืออาเจียน
การให้ ORS ในเด็กเล็ก และเด็กโต โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ผสม ORS 1 ซองต่อน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้ว หรือ 1 ขวดนม 8 ออนซ์ โดยวิธีการให้ ORS ในเด็กเล็ก ควรใช้ช้อนตักป้อนทีละน้อย ดีกว่าการใส่ในขวดนม เพื่อป้องกันการอาเจียน และการปฏิเสธการกิน นอกจากนี้ยังช่วยให้ดูดซึมได้ดีกว่าการให้ดูดจากขวดนมด้วย ส่วนในเด็กโต อาจใช้เป็นให้จิบจากแก้วทีละน้อย ๆ บ่อย ๆ
• เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ให้ค่อย ๆ จิบ หรือป้อน ORS ครั้งละ 2 – 3 ออนซ์ (1/4 – ครึ่งแก้ว) ทุกครั้งที่ถ่ายเป็นน้ำ
• เด็กที่มีอายุ 2-10 ปี ให้ค่อย ๆ จิบ หรือป้อน ORS ครั้งละ ครึ่ง – 1 แก้ว
• เด็กที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป ให้ค่อย ๆ จิบ ORS ในปริมาณมากเท่าที่ดื่มได้
โดยทั่วไปโรคท้องเสียส่วนใหญ่มักมีอาการไม่รุนแรง เพราะเชื้อโรคจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางอุจจาระอยู่แล้ว จึงสามารถหายเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากเด็กมีอาการกินไม่ได้เลย อาเจียนเอายาลดอาเจียนออก ขาดน้ำ ผู้ปกครองควรพาไปโรงพยาบาล หมอจะให้น้ำเกลือ และยาเพื่อควบคุมอาการอาเจียน และที่สำคัญอย่าให้เด็กขาดน้ำในช่วงที่ท้องเสียเป็นอันขาด เพราะสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว
อาหารที่ควรให้ระหว่าง เด็กท้องเสีย
• เด็กเล็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่ ให้นมแม่ต่อไป ควรให้เด็กดูดนมบ่อยขึ้นกว่าปกติ
• เด็กที่เลี้ยงด้วยนมผสม สามารถให้นมตามปกติ
• เด็กโตให้อาหารอ่อน ที่ย่อยง่ายเป็นข้าวต้ม, โจ๊ก โดยอาจเพิ่มให้บ่อยกว่าปกติ
• ถ้าเด็กสามารถดื่มน้ำเกลือแร่ ORS รวมถึงกินอาหาร และนมได้ปกติ (แม้จะยังถ่ายอยู่) เด็กไม่อ่อนเพลีย ดูสดใสขึ้น แสดงว่าทดแทนการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่ได้ทันเวลา ก็ให้ดื่มต่อไปจนกว่าจะหยุดถ่าย แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน ควรพบแพทย์
3 ข้อห้ามสำคัญ ที่ผู้ปกครองควรรู้เมื่อเด็กท้องเสีย
1. ไม่ควรให้ยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค และสารพิษ และยังก่อให้เกิดท้องอืด กินไม่ได้ อาเจียน
2. ห้ามให้เกลือแร่ออกกำลังกายแทนเกลือแร่ ORS เพราะจะทำให้ท้องเสียมากขึ้น
3. ห้ามชงนมจาง เพราะนอกจากไม่ช่วยอะไร จะทำให้เด็กเล็กมีเกลือแร่ผิดปกติได้
ผู้ปกครองควรพาเด็กไปพบแพทย์เมื่อมีอาการ ดังนี้
• ถ่ายอุจจาระเป็นมูก หรือมูกเลือด
• ไข้สูงหรือชัก
• อาเจียนบ่อย
• ท้องอืด
• หอบลึก
• ไม่ยอมดื่มสารละลายน้้าตาลเกลือแร่ทุกชนิด หรือไม่ยอมดื่มนม หรือกินอาหาร
• ดื่มสารละลายน้้าตาลเกลือแร่แล้วแต่เด็กยังดูเพลีย, ซึม
• ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำบ่อย (มากกว่า 10 ครั้งต่อวัน)
• ไม่ปัสสาวะนานเกิน 8 ชั่วโมง
นูโทรเพล็กซ์ ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ เสริมภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร
นูโทรเพล็กซ์ ดีต่อระบบขับถ่าย มีใยอาหารธรรมชาติ (พรีไบโอติก) ชนิด โอลิโกฟรุคโตส (Oligofructose) ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ เสริมภูมิคุ้มกันจึงลดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ป้องกันท้องเสีย และลดอาการท้องผูกในเด็กที่กินผัก-ผลไม้น้อย
✔ ทานได้ทุกวัย
✔ ปลอดภัย ทานได้ต่อเนื่อง
✔ ทานได้ต่อเนื่อง
✔ ไม่ใช่ยาระบาย
✔ รสส้ม ทานง่าย
✔ ปราศจากน้ำตาล ไม่ทำให้ฟันผุ
สั่งซื้อ NUTROPLEX OLIGO PLUS ได้ที่นี่
• แอดไลน์ ID : @nutroplexclub
• Inbox Facebook : https://www.facebook.com/nutroplexclub
หรือตามร้านขายยาชั้นนำ เช่น Boots, Health up, Fascino, P&F, Pure, Save Drug, D Chain, Tesco (แผนกร้านขายยา), Drug Core, I Care, Drug Square, Ameditec และทาง ออนไลน์ Konvy.com
อ้างอิง : 1. ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย 2. เลี้ยงลูกตามใจหมอ 3. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา