หากคุณกำลังมีอาการจิตตก หดหู่ เศร้าใจ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังเผชิญกับโรคซึมเศร้าอยู่หรือไม่? Ged Good Life ขอแนะนำให้ลองเช็ก “7 อาการเด่นโรคซึมเศร้า” กันดูว่าตรงกับสิ่งที่เราเป็นหรือไม่ ถ้าใช่… แนะนำให้พบจิตแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
- จิตตก! เพราะโซเชียล อยู่รึเปล่า? ต้องดู เคล็ดลับใช้โซเชียลอย่างไร ให้ห่างไกลซึมเศร้า
- 12 อาหารคลายเครียด กินแล้วดีต่อใจ ห่างไกลซึมเศร้า
- แบบประเมินโรคซึมเศร้า 9 คำถาม
7 อาการเด่นโรคซึมเศร้า
1. อารมณ์เปลี่ยนแปลงไป
ที่พบบ่อยคือจะกลายเป็นคนเศร้าสร้อย หดหู่ สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ดูเหมือนจะอ่อนไหวไปหมด บางคนอาจไม่มีอารมณ์เศร้าชัดเจน แต่จะบอกว่าจิตใจหม่นหมอง ไม่แจ่มใส ไม่สดชื่นเหมือนเดิม บางคนอาจมีความรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่เคยทำแล้วเพลินใจ หรือสบายใจ เช่น ฟังเพลง พบปะเพื่อนฝูง เข้าวัด ก็ไม่อยากทำ หรือทำแล้วก็ไม่ทำให้สบายใจขึ้น บ้างก็รู้สึกเบื่อไปหมดตั้งแต่ตื่นเช้ามา บางคนอาจมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย อะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด กลายเป็นคนอารมณ์ร้าย ไม่ใจเย็นเหมือนก่อน
2. ความคิดเปลี่ยนไป
มองอะไรก็รู้สึกว่าแย่ไปหมด มองชีวิตที่ผ่านมาในอดีตก็เห็นแต่ความผิดพลาดความล้มเหลวของตนเอง ชีวิตตอนนี้ก็รู้สึกว่าอะไร ๆ ก็ดูแย่ไปหมด ไม่มีใครช่วยอะไรได้ ไม่เห็นทางออก มองอนาคตไม่เห็น รู้สึกท้อแท้หมดหวังกับชีวิต บางคนกลายเป็นคนไม่มั่นใจตนเองไป จะตัดสินใจอะไรก็ลังเลไปหมด รู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถ ไร้คุณค่า เป็นภาระแก่คนอื่น ทั้ง ๆ ที่ญาติ หรือเพื่อน ๆ ก็ยืนยันว่ายินดีช่วยเหลือ เขาไม่เป็นภาระอะไรแต่ก็ยังคงคิดเช่นนั้นอยู่
ความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ความคับข้องใจ ทรมานจิตใจ เหล่านี้อาจทำให้เจ้าตัวคิดถึงเรื่องการตายอยู่บ่อย ๆ แรก ๆ ก็อาจคิดเพียงแค่อยากไปให้พ้น ๆ จากสภาพตอนนี้ ต่อมาเริ่มคิดอยากตายแต่ก็ไม่ได้คิดถึงแผนการณ์อะไรที่แน่นอน เมื่ออารมณ์เศร้า หรือความรู้สึกหมดหวังมีมากขึ้น ก็จะเริ่มคิดเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะทำอย่างไร ในช่วงนี้หากมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนจิตใจก็อาจเกิดการทำร้ายตนเองขึ้นได้จากอารมณ์ชั่ววูบ
3. สมาธิความจำแย่ลง
จะหลงลืมง่าย โดยเฉพาะกับเรื่องใหม่ ๆ วางของไว้ที่ไหนก็นึกไม่ออก ญาติเพิ่งพูดด้วยเมื่อเช้าก็นึกไม่ออกว่าเขาสั่งว่าอะไร จิตใจเหม่อลอยบ่อย ทำอะไรไม่ได้นานเนื่องจากสมาธิไม่มี ดูโทรทัศน์นาน ๆ จะไม่รู้เรื่อง อ่านหนังสือก็ได้ไม่ถึงหน้า ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำงานผิด ๆ ถูก ๆ
4. มีอาการทางร่างกายต่าง ๆ ร่วม
ที่พบบ่อยคือ จะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งเมื่อพบร่วมกับอารมณ์รู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร ก็จะทำให้คนอื่นดูว่าเป็นคนขี้เกียจ ปัญหาด้านการนอนก็พบบ่อยเช่นกัน มักจะหลับยาก นอนไม่เต็มอิ่ม หลับ ๆ ตื่น ๆ บางคนตื่นแต่เช้ามืดแล้วนอนต่อไม่ได้ ส่วนใหญ่จะรู้สึกเบื่ออาหาร ไม่เจริญอาหารเหมือนเดิม น้ำหนักลดลงมาก บางคนลดลงหลายกิโลกรัมภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังอาจมีอาการท้องผูก อืดแน่นท้อง ปากคอแห้ง บางคนอาจมีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว
5. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป
ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะดูซึมลง ไม่ร่าเริง แจ่มใส เหมือนก่อน จะเก็บตัวมากขึ้น ไม่ค่อยพูดจากับใคร บางคนอาจกลายเป็นคนใจน้อย อ่อนไหวง่าย ซึ่งคนรอบข้างก็มักจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป บางคนอาจหงุดหงิดบ่อยกว่าเดิม แม่บ้านอาจทนที่ลูก ๆ ซนไม่ได้ หรือมีปากเสียงระหว่างคู่ครองบ่อย ๆ
6. การงานแย่ลง
ความรับผิดชอบต่อการงานก็ลดลง ถ้าเป็นแม่บ้านงานบ้านก็ไม่ได้ทำ หรือทำลวก ๆ เพียงให้ผ่าน ๆ ไป คนที่ทำงานสำนักงานก็จะทำงานที่ละเอียดไม่ได้เพราะสมาธิไม่มี ในช่วงแรก ๆ ผู้ที่เป็นอาจจะพอฝืนใจตัวเองให้ทำได้ แต่พอเป็นมาก ๆ ขึ้นก็จะหมดพลังที่จะต่อสู้ เริ่มลางานขาดงานบ่อย ๆ ซึ่งหากไม่มีผู้เข้าใจ หรือให้การช่วยเหลือก็มักจะถูกให้ออกจากงาน
7. อาการโรคจิต
จะพบในรายที่เป็นรุนแรง ซึ่งนอกจากผู้ที่เป็นจะมีอาการซึมเศร้ามากแล้ว จะยังพบว่ามีอาการของโรคจิต ได้แก่ อาการหลงผิด หรือประสาทหลอนร่วมด้วย ที่พบบ่อยคือ จะเชื่อว่ามีคนคอยกลั่นแกล้ง หรือประสงค์ร้ายต่อตนเอง อาจมีหูแว่วเสียงคนมาพูดคุยด้วย อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้มักจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับการรักษา อารมณ์เศร้าดีขึ้น อาการโรคจิตก็มักทุเลาตาม
ความเศร้าที่เป็นอยู่ คือ อารมณ์เศร้า ภาวะซึมเศร้า หรือโรคซึมเศร้า?
– อารมณ์เศร้า เป็นสภาวะอารมณ์ที่เป็นหนึ่งในอาการของภาวะเศร้า และโรคซึมเศร้า เช่น หดหู่ ไม่เบิกบานใจ หม่นหมอง ฯลฯ ส่วนใหญ่จะรู้สึกเศร้าในช่วงเช้า และค่อย ๆ ดีขึ้นตอนเย็น จนหายไปเอง
– ภาวะซึมเศร้า เป็นภาวะที่มีอาการเศร้า เสียใจ รู้สึกว่างเปล่าเป็นเวลานานติดต่อกัน แม้จะได้รับคำปลอบใจ หรือพูดคุยกับผู้อื่นก็ไม่รู้สึกดีขึ้น อาจเกิดจากการเผชิญการสูญเสีย หรือความรุนแรงทางร่างกาย
– โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่มีอาการเศร้าอย่างเห็นได้ชัด เป็นซ้ำ ๆ วน ๆ นานหลายสัปดาห์ ไม่มีแรงกายแรงใจในการทำงาน เรียน หรือเข้าสังคม และเกิดความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อย่างการนอนหลับยาก หรือนอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากกว่าปกติ
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าสามารถหายขาดได้ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกเช่นกัน ขึ้นอยู่กับมุมมองความคิดของผู้ป่วย สภาพแวดล้อม แรงกดดันต่าง ๆ หรืออาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในชีวิต ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจึงควรดูแลตนเองทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ เพราะทั้งสองส่วนส่งผลซึ่งกันและกัน ผู้ป่วยซึมเศร้าสามารถป้องกันตัวเอง หรือลดความเสี่ยงการเกิดโรคซึมเศร้าได้ ดังนี้
– กำจัดความเครียด เลี่ยงสิ่งกระตุ้น ไม่เสพโซเชี่ยลจนเกินไป
– หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ
– กินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
– งดแอลกอฮอล์ และสารเสพติด
อ้างอิง : 1. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 2. doctorraksa
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี
TikTok : @gedgoodlife