การสวนล้างช่องคลอด ผู้หญิงหลาย ๆ คน ยังไม่ทราบว่า คืออะไร? ทำไปเพื่ออะไร? วันนี้ GedGoodLife จึงขอให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่สุดแสนจะอ่อนโยนนี้ ให้สาว ๆ ได้รู้จักกัน
การสวนล้างช่องคลอด คืออะไร?
การสวนล้างช่องคลอด คือการใช้น้ำ หรือสารทำความสะอาดต่าง ๆ ฉีดเข้าไปในช่องคลอด (Vagina) เพื่อทำความสะอาดช่องคลอดนั่นเอง หรืออาจจะใช้นิ้วมือตนเองเข้าไปทำความสะอาดข้างในช่องคลอด แต่การใช้นิ้วมือ จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ไว้เล็บยาว และต้องสะอาดเสมอ
จำเป็นต้องทำการสวนล้างช่องคลอด หรือไม่?
คำตอบคือ ไม่จำเป็น เพราะ การสวนล้างช่องคลอด อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลังได้ และ ช่องคลอดของผู้หญิงสามารถทำความสะอาดในตัวเองอยู่แล้ว ด้วยการคง PH Balance ไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
แล้วรู้หรือไม่ว่า ช่องคลออดของผู้หญิง มีแบคทีเรียดี (Doderlein bacilli) อยู่จำนวนมาก ฉะนั้นการสวนล้างช่องคลอด แม้กระทั่งการใช้น้ำเปล่า ก็เหมือนกับการที่เราล้างเอาแบคทีเรียดีออกไปจากช่องคลอดด้วยนั่นเอง และ อาจทำให้เกิดอาการอักเสบในช่องคลอด ได้อีกด้วย
แล้วจะทำอย่างไรให้ช่องคลอด มีสุขภาพที่ดี?
1. รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
2. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้ว ต่อวัน
3. ออกกำลังกายอยู่เสมอ เช่น การวิ่งจ็อคกิง (Jogging), โยคะ เป็นต้น
4. มีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้ถุงยางเสมอ หรือ หมั่นเช็คสุขภาพอวัยวะเพศของคู่รัก และตัวเราเองเป็นประจำ ก่อนมีเพศสัมพันธ์
5. ในระหว่างที่มีประจำเดือน อาจจะล้าง”แคมช่องคลอด” (Vulva) มากกว่า 1 ครั้ง/วัน ด้วยการล้าง จาก “บน ลง ล่าง” ด้วยน้ำอุ่น ๆ ก็เพียงพอแล้ว
6. ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องใช้สบู่ ในการทำความสะอาดช่องคลอด แต่ถ้าอยากใช้ ให้เลือกใช้สบู่ที่ไม่มีกลิ่น (Unscented) ไม่มีสี (Colorless) และอ่อนโยน (Mild) เท่านั้น
ช่องคลอดมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ควรทำอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ช่องคลอดของทุกคน จะมีกลิ่นอยู่แล้ว บางคนอาจมีกลิ่นจาง ๆ บางคนอาจมีกลิ่นแรง โดยกลิ่นของช่องคลอด จะเปลี่ยนแปรไปตามการบริโภคอาหาร และ ประจำเดือน นั่นเอง
ถ้าช่องคลอดมีกลิ่นแรง ไม่พึงประสงค์ อาจต้องได้รับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (แพทย์นารีเวช) เพื่อเล่าถึงอาการ และได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องนั่นเอง
ข้อควรระวังใน การสวนล้างช่องคลอด
ถึงแม้หมอหลายท่านไม่แนะนำให้สวนล้างช่องคลอด แต่ก็ยังมีผู้หญิงหลายคน ที่ทำการสวนล้างช่องคลอดเป็นปกติ ฉะนั้น ลองมาดูข้อควรระวังการสวนล้างช่องคลอด กันหน่อยว่า มีอะไรบ้าง
1. ในคุณผู้หญิงที่ยังโสดไม่มีเพศสัมพันธ์ ไม่จำเป็นต้องสวนล้างภายใน
2. จะสวนล้างภายในก็ต่อเมื่อมีกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนา หลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีตกขาวมาก
3. กรณีที่มีการอักเสบอย่างรุนแรง เช่น ตกขาวเป็นสีเหลือง มีหนองไหล มีอาการเจ็บ ปวด แสบภายใน ไม่ควรสวนล้างแต่ควรไปพบแพทย์ดีกว่า
4. หัวสวนล้างภายในควรสะอาด มีการต้มฆ่าเชื้อ หรือเป็นชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง
5. ไม่ควรสวนล้างเกินอาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้ง
6. คุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือมีเลือดออกผิดปกติไม่ควรสวนล้าง และไม่ควรบีบน้ำยาเข้าช่องคลอดอย่างรุนแรง เพราะจะเกิดการแท้ง หรือการคลอดก่อนกำหนดได้
7. ไม่ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างแรงเข้าไปสวน เพราะจะทำให้แบคทีเรียชนิดดีตายหมด และเกิดการอักเสบจากแบคทีเรียตัวร้ายขึ้น
8. บริเวณนี้บอบบาง และ ละเอียดอ่อน ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัด หรือ ทำลายเนื้อเยื่อ เช่น แอลกอฮอล์ ด่างทับทิม ทิงเจอร์ไอโอดีน เข้าไปสวนล้าง เป็นต้น
9. เลือกน้ำยาสวนล้าง ที่เป็นกรดอ่อน ๆ ไม่ทำลายแบคทีเรียชนิดดี ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อภายใน
10. กรณีที่ใช้หัวสวน ไม่ควรฉีดน้ำเข้าไปล้างอย่างรุนแรง เพราะ จะทำให้อวัยวะภายในเกิดการบาดเจ็บได้
11. ถ้าอยากมีบุตร อย่าสวนล้างหลังมีเพศสัมพันธ์
12. การสวนล้างอาจทำให้เยื่อบุช่องคลอดแห้ง และเกิดอาการแพ้น้ำยาสวนล้างได้ ถ้ามีอาการแสบ คับ เจ็บ ควรหยุดสวนล้างทันที
13. กรณีที่สวนล้างโดยใช้หัวสวน ไม่ควรสอดหัวสวน ลึกเกินไป จำไว้ว่าช่องคลอดนั้น ลึกไม่เกิน 7 เซนติเมตร หรือไม่เกินขนาดความยาวของนิ้วชี้ของผู้หญิงนั่นเอง
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี
TikTok : @gedgoodlife