• ผู้สร้าง
    กระทู้
  • #76341 Reply
    Sitapatch
    ผู้เยี่ยมชม

    สวัสดีค่ะ ขอสอบถามอาการเจ็บป่วย ดังนี้ค่ะ

    รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อยตั้งแต่วันที่ 26/4/64 ตัวรุมๆ กินยาพาราไปก็ดีขึ้นหน่อย พอวันที่ 27/4/64 ช่วงเย็นก็มีอาการแบบเดิม

    ปกติเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบอยู่แล้ว คาดว่าอาการน่าจะกำเริบ เพราะช่วงวันที่ 26/4/64 จนถึงวันนี้ (29/4/64 ) ปัสสาวะไม่สุดมาโดยตลอด ปวดท้องน้อยหน่วงๆ ติดกันมาหลายวัน ปัสสาวะบ่อย เริ่มมีไข้สูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 27/4/64 พอวันที่ 28/4/64 ช่วงค่ำไข้ลดลงหน่อย แต่พอวันที่ 29/04/64 เริ่มมีไข้อีกช่วงสายๆ ช่วงเช้ายังไม่หนักมาก อาการที่เป็นตั้งแต่วันที่ 28/4/64 ก็จะมี

    เจ็บคอ เริ่มเจ็บตั้งแต่วันที่ 27/4/64 อาการหนักวันที่ 29/4/64

    มีไข้อยู่แทบตลอดเวลา เบื้องต้นทานยาพาราเซตามอลมาตั้งแต่วันที่ 26/4/64 วันที่ 29/4/64 ยังไม่ได้ทานค่ะ

    ไอ มีเสมหะเล็กน้อย

    ปวดท้องหน่วงๆตั้งแต่วันที่ 26/4/64 วันที่ 29/4/64 อาการปวดเริ่มดีขึ้น

    ปวดเมื่อยตามตัว ช่วงขา และสะโพก มีอาการขาชาด้วยเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะตอนเดินขึ้นลงบันได

    ปวดตา ปวดหัว และแสบตา

    ปัสสาวะกระปริดกระปรอย ปกติเป็นยังงี้อยู่ทุกวัน แต่วันที่ 28/4/64 อั้นปัสสาวะนานจนปวดท้อง เลยปวดหนัก

    มีอาการร้อนๆ หนาวๆ พยายามเลี่ยงแอร์และใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา

    รบกวนแจ้งกลับด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

กำลังดู 1 ข้อความตอบกลับ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
  • ผู้เขียน
    ข้อความตอบกลับ
  • #78787 Reply
    GedGoodLife
    Keymaster

    สวัสดีค่ะ คุณSitapatch

    อาการดังกล่าวของคนไข้น่าจะเกิดจากการที่กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะตามมา และทำให้เกิดอาการเหมือนเป็นไข้ตามมาได้ค่ะ ดังนั้นแนะนำให้คนไข้ หากยังมีอาการปัสสาวะไม่สุด และมีอาการปวดหน่วงที่ทางเดินปัสสาวะ ให้รับประทานยาฆ่าเชื้อ Norfloxacin 400 mg ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า เย็น ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 5 วัน ระหว่างนี้หากมีอาการเป็นไข้ หรือ ปวดหน่วง ให้รับประทานยาพาราเซตามอล ควบคู่ได้ค่ะ

    และเมื่อไม่มีอาการปวดหรือเป็นไข้ ให้หยุดรับประทานยาพาราเซตามอลได้ค่ะ และแนะนำป้องกันสำหรับการไม่ให้เกิดอาการในครั้งต่อๆไป ให้ทำการปรับเปลี่ย่นพฤติกรรมดังนี้ค่ะ คือ ไม่อั้นปัสสาวะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 2 ลิตร ดื่มน้ำครั้งละ 200 ml พอ เพื่อป้องกันไม่ให้กระเพาะปัสสาวะทำงานหนัก และไม่ดื่มน้ำตอนกลางดึกก่อนนอนเป็นปริมาณมากค่ะ

     

    : คำตอบนี้เป็นการให้การแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล

กำลังดู 1 ข้อความตอบกลับ - 1 ผ่านทาง 1 (ของทั้งหมด 1)
ตอบกลับไปยัง: สอบถามอาการเจ็บป่วย
ข้อมูลของคุณ:




Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close