-
ผู้สร้างกระทู้
-
รวีวรรณผู้เยี่ยมชม
คือเมื่อวาน10 ก.พ.มีอะไรกับแฟนแต่ไม่ได้ใส่ถุงยางแต่เค้าหลั่งนอกคือเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวเพศสัมพันธ์มากนักตอนเค้าหลั่งเส็รจเค้าก็ชักเอาน้ำออก (อาจจะหมด) แล้วเค้าเอาอวัยวะเพศเค้าเสียบเค้ามาอีกรอบนึง (คือตกใจมาก) แล้วก็เอาออกคือ ในความคิดมีโอกาสท้องแน่ๆวันนี้11ก.พ.ตอนเช้าช่วงประมาณ7-8โมงเลยไปซื้อยาคุมกำเนิดมากินตอน9โมงคือมีโอกาสท้องมากแค่ไหนตอนนี้คือเครียดมากๆเลยเครียดแบบหัวจะระเบิดถ้ามีก็อยากเก็บไว้แต่ก็ยังอยากเรียนให้จบมีอนาคตแล้วถ้ามีก็คงโดนคนรอบข้างเหยียบแน่ๆเครียดจนแอบมีคิดสั้นบ้างแล้วยาขับเลือดมีผลรุนแรงมากแค่ไหน
-
ผู้สร้างกระทู้
-
ผู้เขียนข้อความตอบกลับ
-
GedGoodLifeKeymaster
สวัสดีค่ะ คุณรวีวรรณ
การที่คนไข้จะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ มีปัจจัยดังนี้ค่ะ
1. คนไข้มีเพศสัมพันธ์อยู่ในช่วงฝ่ายหญิงไข่ตกหรือไม่ โดยหากคนไข้มีประจำเดือนปกติทุกเดือน โดยมีระยะรอบเดือน 28 วัน เราจะนับจากหลังมีประจำเดือนวันแรก 10-18 วันเป็นช่วงไข่ตกค่ะ และระยะปลอดภัยคือก่อนมีประจำเดือน 7 วัน และ หลังมีประจำเดือน 7 วันค่ะ
2. การป้องกันจากฝ่ายชาย หากสวมถุงยางอนามัย จะป้องกันได้มากที่สุดคือ 99 % หากมีการใส่อย่างถูกต้อง หากคนไข้หลั่งใน อันตราการท้องจะสูงมาก ส่วนหลั่งนอก ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายชายหลั่งนอกทันเวลาอีกหรือไม่ และกรณีคนไข้ มีการใส่กลับเข้าไป โดยที่ยังไม่ได้มีการล้าง ดังนั้น ก็โอกาสจะตั้งครรภ์ระดับนึงค่ะ
ส่วนการรับประทานยาคุมกำเนิด มี 2 แบบ คือการรับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือน และ การรับประทารยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉฺิน
การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน หากรับประทายครั้งแรก จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ต้องรับประทานอย่างถูกต้อง ติดต่อกัน 1 เดือนก่อน จึงจะป้องกันได้ 95% ขึ้นไปค่ะ
การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน จะต้องรับประทานหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ภายในเวลา 24 ชั่วโมง จะป้องกันได้ 90% ภายใน72 ชม. จะป้องกันได้ 75% ค่ะ แต่ข้อเสียคือ การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดนี้ จะผลข้างเคียงมาก และเพิ่มอัตราเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปปากมดลูกได้ค่ะ
ดังนั้น คนไข้มีโอกาสตัั้งครรภ์พอสมควร เพราะถึงแม้มีการหลั่งนอก แต่มีการสอดใส่กลับเข้าไป โดยที่ยังไม่ได้มีการทำความสะอาด ประกอบกับการรับประทานยาคุมกำเนิด ที่หากเป็นการรับประทานชนิดรายเดือน หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะไม่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ ดังนั้น คนไข้มีโอกาสตั้งครรภ์ระดับนึงเลยค่ะ หากเดือนหน้าประจำเดือนมาช้า แนะนำให้ลองตรวจตั้งครรภ์เพิ่มเติมนะคะ
: คำตอบนี้เป็นการให้การแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล
-
ผู้เขียนข้อความตอบกลับ