พระพุทธศาสนาสอนให้เราเป็นคนกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา แล้วชีวิตก็จะมีแต่เรื่องดีดีเข้ามา วันนี้ GedGoodLife จึงขอฝาก 10 วิธีใช้หนี้พ่อแม่ โดย… หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม เราในฐานะลูก จึงควรนำไปปฏิบัติตาม ๆ กัน เพื่อแทนคุณพ่อแม่ และเพื่อชีวิตที่รุ่งเรืองตลอดไป…
“พ่อแม่เลี้ยงลูกเหมือนปลูกต้นโพธิ์ เมื่อใหญ่เมื่อโตจะได้อาศัย ถึงคราวเจ็บจะได้ฝากไข้ ถึงคราวตายจะได้ฝากผี ดี ๆ เอาไว้รับใช้สอย”
– ธรรมะสวัสดี ภาพสวัสดี วันจันทร์ วันอาทิตย์ พร้อมคำสอนของพระพุทธเจ้า
– “รักใครให้ธรรมะ” เข้าใจกันและกัน ตามแนวพุทธฯ
– ธรรมโอสถ เข้าใจโลก ปล่อยวางโรค
10 วิธีใช้หนี้พ่อแม่ โดยหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
1. จงสร้างความดีให้กับตัวเอง
ถือเป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหนจะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก
2. หมั่นทำบุญให้กับพ่อแม่
ใครที่คุณพ่อคุณแม่ล่วงลับไปแล้วก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐานแล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุดทั้งฝ่ายผู้ให้ และผู้รับ ฯ
3. ผู้ใดก็ตามที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน
จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษ ฯ
4. ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย
ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอขมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ ฯ
5. บางคนลืมพ่อ ลืมแม่ อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี
ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ ฯ
6. คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้
คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปี ก็ไม่ได้อะไร? ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ฯขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ ๆ น้อง ๆ จะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้า และลับหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า ฯ
7. ลูกหลานโปรดจำไว้ เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่
ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล ฯ
* โยมจำอาตมาไว้ คนแก่ว้าเหว่ ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ที่แก่แล้วว้าเหว่ตลอดชาติ ลูกไม่มาหาหลานไม่มาสู่ พ่อแม่ก็หมดกำลังใจ ปู่ย่าตายายไม่มีกำลังใจ พอเห็นลูกหลานมาหา หลานมาสู่ ชื่นอกชื่นใจ ไม่ว้าเหว่แต่ประการใด ตรงนี้เป็นกำลังใจให้แก่บรรพบุรุษ เป็นกำลังใจต่อผู้สูงอายุ พอสูงอายุแล้วเป็นอย่างนี้ทุกคน
8. ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน
เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดี ฯ
9. ของดี ของ ปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน
โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนองทองจะไหลมา..พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดีอย่าเอาไปทิ้งขว้าง ฯ
10. ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย คนเรามี 2 ก้าว
จะก้าวขึ้น หรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ นี่บอกสอนลูกหลาน ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนตร์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไปพวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว ฯ
เรื่องเล่าเตือนสติ : หลวงพ่อจรัญสอนข้าราชการทหารระดับนายพลคนหนึ่ง ให้กลับไปเยี่ยมแม่
มีข้าราชการทหารระดับนายพลคนหนึ่ง พอถึงวันเกิด ฆ่าหมู ฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ ผู้ใต้บังคับบัญชามาช่วยกันมาก มีบุตร ๖ คน ถือ กระบี่ มีปริญญาหมด
อาตมาไปในงานวันนั้นก็ถามว่า “ท่านนายพล คุณแม่ท่านยังอยู่ไหมนี้”
เขาตอบว่า “ยังอยู่ครับ อายุ 84 ปีแล้วครับ”
อาตมาถามว่า “เคยไปหาบ้างไหม”
เขาตอบว่า “4 ปีแล้วครับหลวงพ่อ ไม่เคยไปหาแม่เลย”
วันเกิดไม่เคยคิดถึงแม่เลยนะ กองนี้หมูหัน กองนี้ไก่ย่าง ฆ่าไก่แล้วย่างนำมาทานกันเป็นโต๊ะ ๆ
เขาถามว่า “หลวงพ่อว่าอย่างไรนะครับ”
อาตมาก็บอกว่า “อย่าเพิ่งโกรธ อาตมานะ ตำราของอาตมาได้มาจากพระพุทธเจ้า ถ้าเป็นวันเกิด ลูกหลานได้ปริญญาทั้งนั้น แต่งตัวให้สวยเลย ไปหาคุณย่าที่พิษณุโลก คุณย่าอายุตั้ง 84 ปีแล้ว ตาก็ไม่ค่อยจะเห็น ใช้มือคลำแล้ว”
เขาตอบว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมให้ทหารไปอยู่ช่วย”
อาตมาก็บอกว่า “ทหารอยู่ดีหรือ ทหารเป็นคนอื่นนะ ลูกหลานมิสนิทกว่าหรือ”
ตั้งแต่นั้นมาน้ำตาร่วงเลย เขาบอกว่า “แหม! หลวงพ่อ ผมได้คิดแล้ว ผมไม่เคยไปหาแม่ 4 ปีแล้วไปต่างประเทศมา วันนี้ผมไม่ได้จัดหรอกครับ ลูกน้องจัดทั้งหมด”
งานนี้สมเด็จพระสังฆราชเสด็จด้วยอาตมาอยู่ท้ายแถว เห็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าเสียใจ เศร้าสลดใจ
บอกเขาว่า “วันเกิดของท่าน คือ วันตายของแม่ท่าน พาหลาน ๆ ไปหาบ้างไม่ได้เหรอ ถ้าท่านจะโกรธอาตมาก็เลิกคบกัน พูดอย่างดี ๆ แล้วไม่เข้าใจ”
ตั้งแต่นั้นมา มาแวะที่วัดเรื่อย จะไปหาแม่ก็ต้องแวะบอกว่า “หลวงพ่อ ผมเลิกทำบุญแบบนั้นแล้ว ผมหนีแล้ว ผมทำบุญถวายสังฆทาน แล้วไปหาแม่เลย พาลูกไปหมด”
พอแม่เห็นเข้าร้องไห้เลย ดีใจ ลูกเอ๋ยเป็นอย่างไร ลูกหลาน ขอคลำตัวหน่อย ตาก็ไม่ค่อยเห็น น้ำตาร่วงเลย ดีอกดีใจ อายุยืนไปอีก ๘๖ ปีถึงตาย นี่ซิถึงจะเรียกว่าวันเกิด
ขอฝากญาติโยมไว้ บรรพบุรุษคือพ่อแม่ เป็นพระอรหันต์ของลูกไม่ต้องไปตามพระอรหันต์ที่ไหนหรอกเหลียวดูพ่อแม่ในบ้านบ้าง
ส่วนโยมทุกคนที่เป็นพ่อแม่ อย่าเอาบุญคุณกับลูก เลี้ยงเอาบุญอย่างเดียวไม่ต้องเอาคุณมาตอบแทน จะเสียใจภายหลัง คนเดี๋ยวนี้มีน้อยเหลือเกินที่จะมีกตัญญูต่อพ่อแม่
อ้างอิง : 1. หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม (ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน) 2. วัดอัมพวัน 3. น้ำใจธรรม
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : GEDGoodLife ชีวิตดีดี
TikTok : @gedgoodlife