5 ขั้นตอน การทำ Time Out เข้ามุมอย่างไรให้ได้ผล

27 มิ.ย. 24

ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่มีความสุขเวลาที่เห็นลูกตัวเองดื้อ พูดอะไรก็ไม่เชื่อฟัง แต่ด้วยวัยที่ยังควบคุมตัวเอง ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เมื่อลูกดื้อขึ้นมา คงต้องหาทางปรับพฤติกรรมลูกให้เข้าร่องเข้ารอย หนึ่งในวิธีที่หลายคนงัดออกมาใช้ ลองทำกันดู คือ การทำ Time Out แต่การทำ Time Out ที่ถูกต้องนั้นมีขั้นตอน และมีเทคนิคอย่างไรให้ได้ผล มาลองดูกัน

การทำ Time Out คืออะไร?

วิธีการใช้ Time Out หรือการเข้ามุมกับลูก เป็นหนึ่งในวิธีการปรับพฤติกรรมลูกที่มีพฤติกรรมรุนแรง เรียกร้องความสนใจ โดยหากลูกมีพฤติกรรมคุกคาม ก้าวร้าวรุนแรง การทำ Time Out คือพ่อแม่ต้องเพิกเฉยกับพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจนั้น ให้ลูกสงบสติอารมณ์โดยไม่สนองตอบต่อลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจนี้ไม่ได้ผล

ระวังการใช้ Time Out

การปรับพฤติกรรมแบบ Time Out อาจจะต้องใช้อย่างระมัดระวัง ต้องจำไว้ว่าTime Out ไม่ใช่การ “ลงโทษ” หรือปล่อยลูกให้โดดเดี่ยวจากสังคม แต่เป้าหมายของการทำ Time Out คือการพาลูกออกไปจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก ที่รู้สึกสับสนจัดการอารมณ์ไม่ได้ เพื่อให้ลูกสงบสติอารมณ์ได้ด้วยตัวเอง

บ่อยครั้งลูกไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก้าวร้าวได้ แต่เคยชินกับการทำ Time Out เมื่อเวลาทำผิดก็เดินเข้ามุม แต่ไม่ได้เรียนรู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร เพราะพ่อแม่ยังไม่จริงจังกับการทำ Time Out หรือมีคนในบ้าน ปู่ย่าตายายคอยโอ๋ ทำให้ทำ Time Out ไม่สำเร็จสักที

การแยกลูกออกไปต้องไม่ให้เด็กอยู่คนเดียว แต่ต้องเป็นจุดที่ยังมองเห็นกัน และกันได้ และเป็นที่ที่ปลอดภัยกับลูก เพราะถ้าลูกโดนทิ้งไว้ในห้องคนเดียวอาจทำให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกหวาดกลัวว่าจะโดนทอดทิ้งได้

5 ขั้นตอน Time Out อย่างไรให้ได้ผล

1. เลือกช่วงอายุให้เหมาะสม การทำ Time Out สามารถเริ่มใช้ได้กับเด็กเล็กตั้งแต่ 9 เดือน เมื่อลูกมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ตีแม่ ขว้างปาข้าวของ แต่ส่วนใหญ่เราอาจจะใช้กับเด็กที่พอฟัง เข้าใจภาษาบ้างแล้วคืออายุประมาณ 1-2 ขวบขึ้นไป

2. แยกลูกเข้ามุมสงบ เมื่อลูกทำผิด หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่เชื่อฟัง ให้พ่อแม่ใช้คำพูดประโยคสั้น ๆ เช่น “ทำร้ายคนอื่น Time Out” “ขว้างปาของเล่น Time Out” แล้วพาลูกแยกลูกเข้ามุมสงบ ถ้าเด็กเล็กให้อยู่ในคอกกั้นเด็ก แต่ถ้าโตแล้วให้นั่งที่เก้าอี้ รอจนกว่าลูกจะหยุดร้อง โวยวาย หรือสงบลงได้

3. ห่างกันสักพัก แยกให้ลูกนั่งในบริเวณที่ยังเห็นพ่อแม่อยู่ ไม่ใช่ทิ้ง หรือขังให้อยู่ในห้องอื่นคนเดียว ต้องเป็นจุดที่พ่อแม่ยังต้องมองเห็นลูกได้ตลอดเวลา ส่วนพ่อแม่ควรสงบนิ่ง ไม่บ่น โวยวาย ไม่แสดงอารมณ์โกรธออกมา แต่ทำกิจวัตรประจำวันปกติ

การแยกลูกออกไปไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกสงบสติอารมณ์เท่านั้น เป็นการช่วยให้พ่อแม่ควบคุมระงับอารมณ์ด้วย เพราะบางครั้งพ่อแม่ก็คุมตัวเองไม่อยู่เหมือนกัน ดังนั้นขอเวลาห่างกันสักพักคงจะดี

4. รออารมณ์สงบ เมื่อหยุดโวยวายสักพักถึงจะเรียกให้เรียกลูกออกมาได้ บอกว่า “ลูกอารมณ์ดีแล้วใช่ไหม ออกมากอดกับแม่หน่อย” เพราะการนิ่ง การสงบแสดงว่าลูกระงับอารมณ์ คุมสติตัวเองได้แล้ว

5. Time-in โอบกอด พูดคุยด้วยเหตุผล เมื่อลูกควบคุมอารมณ์ได้แล้ว ให้พ่อแม่โอบกอดลูก แล้วคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที เพื่อเป็นการสะท้อนอารมณ์ ใช้น้ำเสียงท่าทางอย่างอ่อนโยน ไม่เสียดสี ไม่ประชดประชัน คุยกันด้วยเหตุผลว่าสิ่งที่ลูกทำนั้นไม่ถูกต้อง แต่พ่อแม่ก็ยังรักหนูเสมอ พ่อแม่อยากให้ลูกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะได้เป็นเด็กที่น่ารักสำหรับทุกคน

“Expert ดีดี” ไอ หวัด ปวดท้อง อย่าปล่อยให้เรื้อรัง ปรึกษาฟรี คลิกเลย!

 กดติดตาม GedGoodLife เพื่อสุขภาพดีดีทาง Facebook ได้ –> ที่นี่

คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save