7 กิจกรรมกระตุ้นความฉลาด บูสต์สมองให้กับลูกวัยเตาะแตะ

27 มิ.ย. 24

ความฉลาดของลูกนั้นมีผลมาจากกรรมพันธุ์ อาหาร การเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อม และการถูกกระตุ้นอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพเต็มที่ ถ้าอยากให้ลูกฉลาด ไอคิวดี มาลองบูสต์พลังสมองให้กับลูกน้อยด้วย 7 กิจกรรมกระตุ้นความฉลาด กันเถอะ!

7 กิจกรรมกระตุ้นความฉลาด

1. ร้องเพลงไปกับลูก

ให้ลูกฟังเพลงเด็ก และร้องเพลงไปกับลูก อาจจะใช้เพลงภาษาอังกฤษเพื่อช่วยเสริมทักษะภาษาที่สองให้ลูกไปด้วย ตัวอย่างเพลงเด็กมีหลายเพลง เช่น เพลงเป็ดน้อยห้าตัว หรือ Five little Ducks ซึ่งลูกจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ การนับจำนวนตัวเลข ผ่านเสียงเพลง เป็นกิจกรรมที่กระตุ้นความฉลาดให้ลูกง่าย ๆ ผ่านเพลงที่มีให้เลือกมากมาย เพียงค้นหาคำว่าเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก

2. ต่อภาพจิ๊กซอว์ หรือเลโก้

ในช่วงวัยเตาะแตะ สามารถกระตุ้นความฉลาดลูกผ่านการเล่น เช่น การให้ลูกต่อจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ หรือการต่อตัวต่อ เลโก้ เป็นเกมที่ช่วยให้ลูกจัดระบบความคิด ช่วยส่งเสริมความจำให้ดีขึ้น เรียนรู้การแก้ปัญหา นอกจากนี้ยังได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก การใช้มือหยิบจับสิ่งของอีกด้วย

3. ปั้นดิน ปั้นแป้ง

อันดับแรกต้องเลือกใช้แป้งหรือดินที่ปลอดภัย ปลอดสารพิษ ลองเริ่มเล่นกับลูกด้วยการปั้นแป้งให้ลูกดูก่อน เช่น ปั้นเป็นรูปทรงง่าย สอนลูกรู้จัก สามเหลี่ยม วงกลม สี่เหลี่ยม สอนเรื่องสีต่าง ๆ หรือจะให้ลูกได้ใช้จินตนาการ สร้างสรรค์ปั้นเป็นรูปต่าง ๆ ตามต้องการ

พ่อแม่สามารถนั่งเล่นไปกับลูก พูดคุยเพื่อกระตุ้นสมอง การเรียนรู้กับลูกได้ เช่น ลองแต่งเป็นนิทานจากของที่ปั้น หรือลองถามลูกว่าลูกปั้นรูปอะไร ทำไมถึงปั้น มีความหมายอะไร ฝึกฝนให้ลูกได้ใช้จินตนาการ และกระตุ้นทักษะการแสดงออกทางภาษาด้วย

4. เล่นเกมจับคู่ภาพ

หาซื้อการ์ดเกมจับคู่สำหรับเด็ก หรือจะลองทำเองดูก็ได้ ให้ลูกเล่นเกมจับคู่ โดยวางเรียงการ์ด แล้วให้ลูกพลิกดูรูปทีละรูป แล้วจับคู่รูปที่เหมือนกัน ควรใช้ภาพที่ลูกจดจำได้ง่าย เช่น สีต่าง ๆ รูปสัตว์ รูปของใช้ในชีวิตประจำวัน

การเล่นเกมความจำทำให้สมองได้ฝึกฝน และได้เชื่อมต่อใยประสาทต่าง ๆ เพราะเมื่อจะจำอะไร สมองจะพยายามเชื่อมโยงข้อมูลนั้นกับความรู้เดิม หรือสิ่งที่จำได้อยูแล้ว ทำให้สมองถูกกระตุ้นสม่ำเสมอ ช่วยให้จดจำดี มีผลต่อความฉลาดของลูก

5. ออกกำลังกาย

ลองพาลูกออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ให้ได้เคลื่อนไหวร่างกาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความตื่นตัว เพิ่มความคล่องตัวให้ลูก การออกกำลังกายยังช่วยให้เลือดและออกซิเจนมีการไหลเวียนไปสู่สมอง ทำให้มีสมาธิจดจ่อ มีความจำดีขึ้น การออกกำลังกายอาจจะไม่ได้ทำให้ลูกฉลาดได้ทันที แต่การให้ลูกได้ออกกำลังกายเป็นประจำก็ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

6. เล่านิทานให้ลูกฟัง

จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของภาษาและการสื่อสาร กระตุ้นการคิด จินตนาการ ฝึกสมาธิให้เด็กจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ฟัง โดยเฉพาะในช่วง 6 ปีแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาทองในการพัฒนาสมอง พัฒนาความฉลาดให้ลูก

พ่อแม่ควรเล่านิทานให้ลูกฟังสม่ำเสมอ และพูดคุยไปกับลูกด้วย ไม่ใช่รีบเล่าให้จบ ๆ แต่ควรมีเทคนิคการเล่าด้วย เช่น ทำเสียงตามตัวละครในนิทานให้น่าสนใจ เล่าไปลองหยุดคุยกับลูกไปด้วย หรือให้ลูกลองใช้จินตนาการแต่งนิทานขึ้นมาเองบ้าง

7. กอดสัมผัสลูก

การกอดลูกทำได้ตั้งแต่เล็กจนโต เพราะการกอดหรือสัมผัสกันช่วยส่งเสริมความรู้สึกมั่นคงทางอารมณ์ให้กับลูกน้อย โดยเมื่อลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย สมองจะหลังสารเคมีออกซิโทซิน (Oxytocin) ออกมา ช่วยทำให้ลูกผ่อนคลาย ลดความเครียด สดใสอารมณ์ดี

มีพัฒนาการตามวัย ฮอร์โมนความเครียดต่างๆ ลดลง ระบบร่างกาย การหมุนเวียนเลือดต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น สมองปลอดโปร่ง ช่วยกระตุ้นให้สมองในส่วนความจำและการเรียนรู้ทำงานได้ดีขึ้น พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว

“Expert ดีดี” โควิด-19 ไอ หวัด ปวดท้อง ภูมิแพ้ อย่าปล่อยให้เรื้อรัง ปรึกษาฟรี คลิกเลย!