นอกจากอาการนอนไม่หลับในยามค่ำคืนแล้ว สิ่งที่ตอกย้ำให้ยิ่งทรมานมากขึ้นก็คือความหิวตอนกลางดึกนี่แหละ สไลด์เล่นมือถือไปเรื่อย ๆ ก็เจอแต่คนโพสต์ภาพอาหารอร่อย ๆ หน้าตาดี ยั่วน้ำลาย แต่หากคิดจะหาอะไรใส่ท้องในยามดึก  ต้องระวังให้มาก เพราะนอกจากความอ้วนที่อาจถามหาแล้ว ยังอาจต้องเผชิญกับอาการ “ กรดไหลย้อน ” โรคกรดไหลย้อน เกิดจากอะไร? โรคกรดไหลย้อน หรือ  Gastro-Esophageal Reflux Disease อาจจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า GERD เกิดขึ้นจากภาวะที่ “น้ำย่อย” หรือกรดน้ำย่อยจากกระเพาะอาหาร ไหลย้อนกลับขึ้นไปที่หลอดอาหาร แทนที่จะอยู่แต่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งหลอดอาหารเราทนกรดไม่ได้เหมือนในกระเพาะอาหาร จึงทำให้หลอดอาหารเกิดการอักเสบได้ ซึ่งถ้ามีกรดไหลย้อนมากขึ้น ปล่อยไว้ไม่รีบรักษา ภาวะกรดไหลย้อน อาจจะลุกลามกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ อาการของกรดไหลย้อน อาการของกรดไหลย้อน มีตั้งแต่อาการขั้นเริ่มต้น ซึ่งเริ่มอยู่แค่ที่หลอดอาหาร มีอาการดังนี้ ทำให้ปวดแสบปวดร้อนในบริเวณหน้าอก มีอาการจุก แน่นหน้าอก นอนหายใจไม่ออก หายใจลำบาก ถ้าเริ่มเป็นมากอาจทำให้เจ็บคอ หรือกลืนอาหารได้ยากขึ้น มีอาการคลื่นไส้ เรอเเปรี้ยว หรือมีรสขมจากน้ำดี หรือรสเปรี้ยวจากน้ำย่อยที่ไหลย้อนขึ้นมา แต่ถ้ากรดไหลย้อนลุกลามไปถึงบริเวณกล่องเสียง หรือหลอดลม อาจทำให้มีอาการเจ็บคอ ไอเรื้อรัง เสียงแหบ … เมื่อหิวตอนดึก ๆ ควรกินอะไรดีน้าาา… ‘กรดไหลย้อน’ ไม่ถามหา

  นมแม่ คือ สุดยอดอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยที่เพิ่งคลอดทุกคน เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นกับร่างกายลูกอยู่ครบถ้วน แต่ถ้าคุณแม่หลังคลอดที่กำลังวิตกเรื่องน้ำนมน้อยไป ลองมาดู “8 สมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่” จากธรรมชาติกันดีกว่า ว่าจะดีมีประโยชน์ เพิ่มน้ำนมแม่ได้อย่างไร? “8 สมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่” หลังคลอด 1. หัวปลี มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี เบตาแคโรทีนสูง มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด กระตุ้น บำรุงน้ำนม อาหารแนะนำ แกงเลียง ยำหัวปลี ทอดมันหัวปลี หัวปลีจิ้มน้ำพริก 2. ขิง มีแคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี ขิงมีฤทธิ์ร้อน สรรพคุณของขิง ช่วยขับลม ช่วยย่อย ขับเหงื่อ แก้อาเจียน เพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยให้น้ำนมไหลได้ดี อาหารแนะนำ น้ำขิง ไก่ผัดขิง มันต้มขิง ยำปลาทูใส่ขิง 3. ใบแมงลัก มีฤทธิ์ร้อน เป็นผักสมุนไพรที่คล้ายกับใบกะเพรา มีธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี … “8 สมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่” หลังคลอด

  ไมเกรน (Migraine) คือ อาการปวดศีรษะข้างเดียว ซึ่งเกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณบ่า คอ ท้ายทอย และเกิดก้อนเนื้ออักเสบที่เรียกว่า Trigger Point บริเวณดังกล่าว มีผลทำให้เลือด และออกซิเจนไหลเวียนไปเลี้ยงบริเวณศีรษะได้ไม่สะดวก เมื่อมีความเครียด มี ‘ แสง สี เสียง กลิ่น ‘ รบกวน  พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ เป็นประจำ จะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวมากขึ้น จึงเกิดอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือไม่ก็ปวดสลับข้าง หรือมีอาการปวดศีรษะทั้ง 2 ข้างก็ได้ ปวดตุ้บ ๆ เป็นจังหวะ ปวดมากขึ้นเมื่อขยับร่างกาย ปวดมากจนไม่เป็นอันทำอะไร ทนแสงแดดจ้าหรือเสียงดังไม่ค่อยได้  มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยเป็นบางครั้ง จะมีอาการปวดศีรษะนาน 4 – 72 ชั่วโมง รู้ได้อย่างไรว่าเป็น ไมเกรน สังเกตตัวเองเวลาปวดศีรษะ เมื่อกินยาแก้ปวดศีรษะแล้วไม่หาย  ตรวจร่างกายแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ และมีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น เข้าข่ายเป็นโรค ‘ไมเกรน’ ค่ะ ตัวเร่งที่ไปกระตุ้นการเกิดไมเกรน … วิธีสยบ ไมเกรน แบบไม่ต้องใช้ยา

  ใครที่ไม่อยากเป็นหวัด ให้คนอื่นระแวงว่าจะติดเชื้อไปด้วย ต้องรู้ วิธีป้องกันไข้หวัด เป็นดีที่สุด แต่จะมีวิธีอะไรที่จะช่วยป้องกันหวัดได้บ้างนั้น ไปติดตามกันเลย วิธีป้องกันไข้หวัด 1. กินอาหารต้านหวัดที่มีโพรไบโอติกส์ เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ดีต่อร่างกาย และช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ดี อาหารต้านหวัดที่มีโพรไบโอติกส์สูง จะช่วยสร้างเกราะคุ้มกันไม่ให้เชื้อโรคไข้หวัด เช่น กล้วย หัวหอม ต้นหอม กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวบาเลย์ ข้าวสาลี มะเขือเทศ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ฯลฯ นอกจากนี้ ผักสดที่มีวิตามินสูงเหล่านี้ ก็ช่วยป้องกันหวัดได้ เช่น ดอกขี้เหล็ก มะรุม พริกหวาน สะเดา พริกสด บรอกโคลี ผักหวาน ผักคะน้า ผักกาดเขียว และยอดอ่อนมะระ ดูบทความ—> อาหารต้านหวัด 2. ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว จะช่วยชำระล้างสารพิษออกจากระบบต่าง ๆ ในร่างกายเราได้ 3. ดื่มน้ำผลไม้คั้นสด ๆ มีวิตามินสูง เช่น ฝรั่ง สาลี่ … เป็นหวัด มีน้ำมูกเรื้อรัง ป้องกันง่ายกว่ารักษา แค่รู้วิธี