gedgoodlife

“มะเร็งเต้านม” เรื่องสำคัญสุดๆ! ที่ผู้หญิงทุกคนควรใส่ใจ

  มะเร็งเต้านม (Breast cancer) หนึ่งในโรคร้ายที่พบมากในผู้หญิง โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงมาก คือ ผู้หญิงช่วงอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป แต่ถึงแม้ว่าอายุจะยังไม่อยู่ในช่วงวัยที่มีความเสี่ยง ผู้หญิงทุกคนก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องของมะเร็งร้ายนี้ไป และวันนี้เราจึงได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ที่ผู้หญิงควรเอาใจใส่มาฝากกัน มะเร็งเต้านมคืออะไร? เป็นโรคมะเร็งที่พัฒนาจากเนื้อเยื่อเต้านม อาจมีอาการแสดง ได้แก่ มีก้อนในเต้านม มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของเต้านม ผิวหนังมีรอยบุ๋ม มีสารน้ำไหลจากหัวนม หรือมีปื้นผิวหนังมีเกล็ดแดง ในผู้ที่มีการแพร่ของโรคไปไกล อาจมีปวดกระดูก ปุ่มน้ำเหลืองโต หายใจลำบาก มะเร็งเต้านมทั่วโลกเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในหญิง โดยคิดเป็น 25% ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ในปี 2555 โรคนี้มีผู้ป่วย 1.68 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 522,000 คน พบมากกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว และพบในหญิงมากกว่าชาย 100 เท่า ใครบ้างเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม? ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้ และผู้ชายเองก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้ด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าปกติ ได้แก่ ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี คนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ หรือเคยมีประวัติได้รับการผ่าตัดเต้านม และมีชิ้นเนื้อผิดปกติ ผู้ที่มีเต้านมใหญ่ “มะเร็งเต้านม” เรื่องสำคัญสุดๆ! ที่ผู้หญิงทุกคนควรใส่ใจ

4 ท่านอน เมื่อป่วยโควิด-19 แนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

  ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหายใจลำบาก ออกซิเจนตก เหนื่อย-หอบ ง่าย จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนท่านอนใหม่ ด้วย “4 ท่านอน เมื่อป่วยโควิด-19” เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น และงดนอนหงายไปก่อนในขณะที่ยังหายใจลำบากอยู่ แต่สำหรับผู้ป่วยโควิด ที่สามารถหายใจได้ปกติ ไม่เหนื่อย ไม่หอบ ออกซิเจนยังปกติ (มากกว่า 95 ขึ้นไป) ก็สามารถนอนหงาย หรือนอนท่าปกติที่เคยนอนอยู่ประจำได้เลย พญ.เปี่ยมลาภ แสงสายัณห์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความรู้เรื่อง การนอนเมื่อป่วยโควิด-19 ไว้ดังนี้ … การนอนคว่ำทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น เนื่องจากเนื้อปอดมีการขยายตัวขึ้น และหัวใจตกไปอยู่ด้านล่างของร่างกาย ซึ่งจะทำให้ถุงลมขยายตัวได้เต็มที่ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องออกซิเจนต่ำ และเกิดอาการปอดอักเสบทั้งสองข้าง อย่างไรก็ตามหากเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่มีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย และออกซิเจนไม่ต่ำ ยังสามารถนอนท่าที่ถนัดได้ตามปกติ หากเป็นผู้ติดเชื้อด้วยโรคโควิด-19 จะเกิดการอักเสบของปอดทั้งสองข้างเท่า ๆ กัน เพราะฉะนั้นการนอนคว่ำจะเป็นกระบวนการที่ดีที่สุด แต่หากบางคนเกิดอาการปอดอักเสบข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งพบได้น้อย แพทย์จะแนะนำให้นอนตะแคงในข้างที่ไม่ได้เกิดการอักเสบของปอด การนอนคว่ำจะเกิดประโยชน์ในกรณีที่ออกซิเจนต่ำ โดยคนปกติจะมีออกซิเจนจะอยู่ที่ 98-100 ถ้าออกซิเจนต่ำกว่านั้น การนอนคว่ำจะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น และช่วยลดภาวะอาการเหนื่อยหอบได้ ผู้ป่วยโควิด-19 ควรดูแลร่างกายให้แข็งแรง ทานอาหารที่เหมาะสม 4 ท่านอน เมื่อป่วยโควิด-19 แนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ยาต้องห้ามขณะตั้งครรภ์ ข้อควรรู้ที่คุณแม่ท้องห้ามพลาด!

  การกินยา แต่เดิมก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ก็ต้องยิ่งระวังเพิ่มมากขึ้นไปอีก คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จึงห้ามซื้อยามากินเองโดยเด็ดขาด! แม้ว่าจะเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรก็ตาม เพราะมียาจำนวนมากที่อาจทำอันตรายต่อลูกน้อยของคุณในขณะตั้งครรภ์ได้ ฉนั้นมาดูกันดีกว่าว่า มียาอะไรบ้างที่เป็น ยาต้องห้ามขณะตั้งครรภ์ ประเทศไทยจัดกลุ่มยาตามความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ (Pregnancy Category) ตามการแบ่งขององค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ซึ่งแบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้ 1. Category A: จากการศึกษาการใช้ยาในหญิงมีครรภ์ไตรมาสแรก พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติ ของทารกในครรภ์ (และไม่มีหลักฐานแสดงว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ เมื่อมีการใช้ยาในหญิงมีครรภ์ไตรมาสที่ 2 และ 3) 2. Category B: จากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่ายาไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีการศึกษาการใช้ยาในหญิงมีครรภ์ หรือจากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่ายามีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์แต่ไม่พบผลดังกล่าวจากการศึกษาการใช้ยาในหญิงมีครรภ์ไตรมาสแรก (และไม่มีหลักฐานแสดงว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ เมื่อมีการใช้ยาในหญิงมีครรภ์ไตรมาสที่ 2 และ 3) 3. Category C: การศึกษาการใช้ยาในสัตว์ทดลอง พบว่ายามีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์ แต่ไม่มีการศึกษาการใช้ยาในหญิงมีครรภ์หรือไม่มีรายงานการศึกษาการใช้ยาในหญิงมีครรภ์และสัตว์ทดลอง การใช้ยากลุ่มนี้ให้คำนึงถึงประโยชน์ และความเสี่ยงของยาต่อทารกในครรภ์ 4. Category D: การศึกษาการใช้ยาในหญิงมีครรภ์ พบว่ามีหลักฐานที่แสดงว่ายามีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ ยาต้องห้ามขณะตั้งครรภ์ ข้อควรรู้ที่คุณแม่ท้องห้ามพลาด!

11 อ. สูงวัยอย่างสตรอง! สร้างเสริมสุขภาพกายใจดีดีในวัยสูงอายุ

  การเตรียมร่างกายให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของอายุที่เพิ่มมากขึ้นนั้น เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้สูงวัยเป็นอย่างมาก เพราะ ร่างกายที่เริ่มเสื่อมถอย ยิ่งแตะวัยเลข 5 เลข 6 ร่างกายก็จะเหนื่อยล้าได้ง่าย  Ged Good Life ก็มีข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพง่ายๆมาฝาก ด้วยหลัก 11 อ. สูงวัยอย่างสตรอง! หลัก 11 อ. 1. อาหาร ผู้สูงอายุ เป็นวัยที่มีการเสื่อมถอยของระบบการทำงานในอวัยวะทุกระบบ ดังนั้น ควรลดปริมาณอาหารลง ให้สัมพันธ์กับการใช้พลังงานจริงคือประมาณ 1,500 กิโลแคลอรีต่อวัน และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงรับประทานผลไม้ และผักต่าง ๆ ให้มากขึ้น โดยอาหารที่ผู้สูงอายุควรทานเป็นประจำ ได้แก่ 1. เนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อปลา 2. ไข่ อาทิตย์ละ 3 – 4 ฟอง (แต่ถ้ามีปัญหาด้านไขมันและ คลอเลสเตอรอลในเลือดสูง ควรทานเฉพาะไข่ขาว) 3. นมสด โดยเลือกทานนมที่เหมาะกับผู้สูงวัย 4. ผักใบเขียวสด 11 อ. สูงวัยอย่างสตรอง! สร้างเสริมสุขภาพกายใจดีดีในวัยสูงอายุ

อาหาร 4 กลุ่ม เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านไข้หวัด

  กลุ่มที่ 1 : ผลไม้รสเปรี้ยว แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร เผยว่า “ช่วงหน้าฝนหรือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ มักได้รับผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่าย จึงควรหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ โดยเลือกกินผักสมุนไพร และผลไม้รสเปรี้ยวเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด” ผลไม้รสเปรี้ยววิตามินซีสูง ได้แก่ ส้ม มะนาว ฝรั่ง เบอร์รี กีวี มะม่วง มะขาม มะเขือเทศ มะเฟือง กะทกรก กระเจี๊ยบแดง สับปะรด เสาวรส เป็นต้น สรรพคุณ : อุมด้วยวิตามินซีสูง ป้องกันไข้หวัด ต้านเชื้อไวรัส เสริมภูมิต้านทาน ผิวพรรณสดใส กลุ่มที่ 2 : อาหารเผ็ดร้อน นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ กล่าวว่า อาหารรสเผ็ดร้อน เช่น อาหาร ที่มีกับหลักการดูแลตามศาสตร์อายุรเวทและการแพทย์แผนจีน กระชาย พริกไทย หรือขิง จะสามารถช่วยกระจายลม และที่เชื่อว่าโรคส่วนหนึ่งเกิดจากการเสียสมดุลของธาตุในร่างกาย เพิ่มธาตุไฟ ทำให้ร่างกายมีความอบอุ่น” อาหารเผ็ดร้อน ได้แก่ พริกขี้หนู อาหาร 4 กลุ่ม เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านไข้หวัด

อยากเที่ยวนอก เก็บเงินอย่างไรให้อู้ฟู้ ฉบับมนุษย์เงินเดือน

  ไปเที่ยวเมืองนอก หรือต่างประเทศสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม หรือยากเย็นเหมือนในอดีตอีกต่อไปแล้ว ในยุคที่ตั๋วเครื่องบินแข่งขันกันทำราคา ตั๋วโลว์คอสต์มีโปรโมชั่นออกมาแทบทั้งปี ทำให้ค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวต่างประเทศอยู่ในระดับที่เราๆ มนุษย์เงินเดือนพอรับมือได้  ถ้าคิดจะเก็บเงินเที่ยวต่างประเทศจะเริ่มยังไง มีเทคนิค วิธีเก็บเงิน แบบไหนที่เห็นผลบ้าง มาลองดูไอเดีย แล้วลองนำไปใช้กันดูค่ะ วิธีเก็บเงิน เที่ยวเมืองนอก ทำข้าวกล่องไปกินที่ออฟฟิศ – การทำอาหารไปกินเองทุกวันช่วยให้ประหยัดได้เยอะเชียว เพราะ การไปกินข้าวข้างนอกอาหารก็แพง แถมยังต้องเสียเงินไปกับขนม เครื่องดื่ม ชากาแฟ ของตลาดนัด อีกมากมายหลายสิ่ง ถ้าอยู่ในออฟฟิศก็ประหยัดไปได้เยอะ โดยอาจจะซื้อของสดไว้รายสัปดาห์แล้วค่อย ๆ ทยอยทำ เป็นวิธีเก็บเงินที่ได้สุขภาพดีอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ ถามว่าทำไมเอาข้าวมากินก็บอกไปเลยค่ะว่าตอนนี้กำลังไดเอ็ท กินคลีนอยู่ เก๋ ๆ สุขภาพดี แถมได้เก็บเงินเที่ยวเมืองนอกอีก เก็บแบงค์ห้าสิบ หรือแบงค์เลขสวย – เทคนิคนี้เป็นวิธีเก็บเงินที่ได้ผล และได้รับการพิสูจน์จากหลาย ๆ คนมาแล้ว คือถ้าได้ทอน หรือได้แบงค์ 50 มาให้เก็บไว้ห้ามใช้ หรืออาจกำหนดมาว่าถ้าได้แบงค์ที่ลงได้เลขอะไร จะต้องเก็บแบงค์นั้น เช่น เลข 9 เลข 0 อยากเที่ยวนอก เก็บเงินอย่างไรให้อู้ฟู้ ฉบับมนุษย์เงินเดือน

แพทย์เตือน! โรคยอดฮิตในฤดูหนาว

  ลมหนาวเริ่มพัดมาแล้ว เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว นอกจากลมหนาวที่ทุกคนตั้งตารอ สิ่งที่มาพร้อมกับอากาศที่แสนจะเย็นสบายก็คือ โรคในฤดูหนาว เนื่องจากอากาศเย็นเอื้อต่อการเกิดและการแพร่กระจายของไวรัส ทำให้หลายคนป่วยกันได้ง่าย มาดูกันดีกว่าว่า โรคที่พบได้บ่อยในฤดูหนาวนั้นมีโรคอะไรบ้าง • ไข้หวัด  เริ่มจากอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไอ ควรนอนพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ ไข้หวัดสามารถติดต่อกันได้ทางการหายใจ ไอหรือจามรดกัน มักแพร่กระจายในสถานที่ที่ไม่มีอากาศถ่ายเท เช่น โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด ห้องเรียน • ไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่มักมีการแพร่ระบาดอย่างมากในช่วงฤดูหนาว มีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่จะรุนแรงกว่าและอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ของระบบทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลัน ทำให้มีอาการหนาวสั่น ไข้ขึ้นสูง เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและศีรษะอย่างรุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย • ปอดบวม ปอดบวม คือ ภาวะปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส อาการโดยทั่วไปคือ ไอ จาม มีเสมหะมาก แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก คัดจมูก มีไข้สูงเกิน 2 วัน สามารถทำการวินิจฉัยได้โดยการฉายรังสีเอกซ์และตรวจเสมหะ หากมีอาการรุนแรงต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เนื่องจากเป็นสาเหตุการอันดับหนึ่งในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า แพทย์เตือน! โรคยอดฮิตในฤดูหนาว

“หลับสนิท ชีวิตเป็นสุข” นอนอย่างไรให้สุขภาพดี?

  เพราะการพักผ่อนที่เติมเต็มพลังชีวิตได้ดีที่สุด คือ การนอน การนอนที่ถูกต้อง นอกจากจะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว ยังสามารถทำให้คุณมีสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย แต่การนอนที่ดีก็ไม่ได้หมายถึงการสักแต่ได้นอน การนอนหลับไม่สนิท หรือหลับตื้นนั้น กลับจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้นกว่าเดิม วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ หลับสนิท และตื่นขึ้นอย่างสดชื่นแจ่มใสมาฝากกัน 1. เลือกเวลานอน ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และนอนก่อน 22.00 น. การหลับลึกช่วง 22.00 น.- 3.00 น. จะทำให้สมองทำงานได้ดี เพราะ Growth Hormone ที่หลั่งออกมาในช่วงหลับลึก มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมเซลที่ซึกหรอของร่างกาย ความอ่อนล้าจากการทำงาน รวมถึงอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมอื่นๆ ได้ 2. สังเกตอากาศในห้องนอน อากาศภายในห้องนอนต้องสะอาดบริสุทธิ์ เนื่องจากช่วงเวลาพักผ่อน ระบบต่างๆ ภายในร่างกายจะทำงานช้าลง เพื่อรอการซ่อมแซมจาก Growth Hormone อากาศในห้องจึงไม่ควรมีสิ่งสกปรกปนเปื้อน เพื่อให้การซ่อมแซมร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 3. จัดสภาพแวดล้อมในห้องนอน ควรจัดห้องนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายและทั่วถึง สีของห้องนอนไม่ควรฉูดฉาด เพราะจะผลต่อความรู้สึก ทำให้รู้สึกตื่นเต้น “หลับสนิท ชีวิตเป็นสุข” นอนอย่างไรให้สุขภาพดี?

ไอ เจ็บคอ ควรกินอะไรให้หายไวไว?

  ไอ เจ็บคอ อาการอักเสบ และระคายเคืองที่มีผลมาจากการไอ ไม่ว่าจะป่วยเป็นไข้หวัด หรือมีอาการภูมิแพ้ก็ตาม ส่วนมากแล้ววิธีรักษาอาการไอที่นิยมกันมาก คือ การรับประทานยาแก้ไอ แล้วอาการเจ็บคอที่ตามมาด้วยล่ะ เราควรทานยาอะไรเพื่อบรรเทาอาการ? วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน 1. ทานยาแก้ไอให้ตรงตามอาการ ยาแก้ไอหลายชนิดอาจไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ แต่การทานยาแก้ไอที่ตรงกับอาการ จะช่วยให้การไอทุเลาลงได้ และเมื่อไอน้อยลง คุณก็จะเจ็บคอน้อยลงตามไปด้วย นอกจากนี้ยาแก้ไอยังมีผลทำให้คนไข้รู้สึกชุ่มคอ ยาแก้ไอบางชนิดก็ช่วยลดน้ำมูก และอาการแพ้ต่าง ๆ ได้ด้วย เพราะผู้ผลิตมักนิยมใส่ตัวยาแก้แพ้ยาลดน้ำมูก 2. น้ำอุ่น การดื่มน้ำอุ่น จะช่วยลดการระคายเคือง และทำให้รู้สึกสบายคอ ช่วยลดการอักเสบลงได้ เพราะเมื่อร่างการได้รับน้ำอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นเพียงพอ สามารถต่อสู้กับแบคทีเรียได้ดีขึ้นนั่นเอง 3. ซุปไก่ อาหารยอดฮิตสำหรับการรักษาอาการเจ็บคอ ในซุปไก่อุดมไปด้วยโซเดียม ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการอักเสบลงได้ แถมยังรับประทานได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่มีอาการเจ็บคอมาก ๆ อีกด้วยล่ะ 4. ข้าวโอ๊ต ข้าวโอ๊ต นอกจากจะเป็นอาหารที่อ่อนโยนต่อคอที่กำลังเจ็บปวดของคุณแล้ว ยังมีสารอาหาร และไฟเบอร์มากมาย ที่ช่วยให้ร่างกายของคุณกลับมาแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย 5. ชาเชียวอุ่น ๆ ไอ เจ็บคอ ควรกินอะไรให้หายไวไว?

4 ท่าหายใจ ฟื้นฟูสมรรถภาพปอด สู้โควิด-19 !

  สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) หรือผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ที่มีอาการไม่รุนแรง สามารถฝึกหายใจ ฟื้นฟูสมรรถภาพปอด ได้ตามภาพอินโฟกราฟิกนี้เลย! 4 ท่าหายใจ ฟื้นฟูสมรรถภาพปอด ท่าที่ 1. หายใจแบบใช้กล้ามเนื้อกระบังลม วิธีทำ หายใจเข้าท้องป่อง มือที่หน้าท้องถูกดันออก ท่าที่ 2. การหายใจแบบเป่าปาก วิธีทำ หายใจเข้าท้องป้องแล้วเป่าลมออกทางปากช้า ๆ ท่าที่ 3. การไออย่างมีประสิทธิภาพ วิธีทำ หายใจเข้าลีกกลั้นไว้ 2 วินาทีไอออกให้เร็วและแรง ท่าที่ 4. การฝึกหายใจร่วมกับการเคลื่อนไหวทรวงอก วิธีทำ ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะพร้อมหายใจเข้า เอามือลงพร้อมหายใจออก ประโยชน์ของการฝึกหายใจ ฟื้นฟูสมรรถภาพปอด : 1. ช่วยลดอาการหายใจเหนื่อย 2. เพิ่มประสิทธิภาพการหายใจ 3. ช่วยขับเสมหะ ไออย่างมีประสิทธิภาพ 4. ป้องกันภาวะปอดแฟบได้ ข้อควรรู้ : โควิดทำร้ายปอดอย่างไร? การติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ปอดอักเสบ และมีเสมหะ อุดกั้นถุงลมปอด ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนออกชิจนลดลงเกิดอาการเหนื่อยหอบไปจนถึงภาวะหายใจล้มเหลวได้ อ้างอิง : 4 ท่าหายใจ ฟื้นฟูสมรรถภาพปอด สู้โควิด-19 !

น้ำมูกอุดตัน หายใจไม่ออก ทำยังไงดีนะ?

  เคยไหมที่มี น้ำมูกอุดตัน จนทำให้หายใจไม่ออก รู้สึกทรมาน จนต้องควานหายาลดน้ำมูกทันที… ถึงแม้ยาลดน้ำมูกจะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็อาจจะไม่เพียงพอ วันนี้เราจึงมีวิธีการดี ๆ ที่จะช่วยให้น้ำมูกลดลง ไม่มาอุดตันจมูกของคุณจนหายใจได้ยากอีกต่อไป มาลองทำตามวิธีการเหล่านี้กันดีกว่า! 1. กดจุดช่วยได้ เชื่อหรือไม่ว่า แค่การกดจุดธรรมดา ๆ ก็สามารถช่วยลดน้ำมูกได้ ให้ใช้นิ้วกดลงตรงด้านข้างปีกจมูกทั้ง 2 ข้าง โดยกดค้างประมาณ 2 วินาทีเท่านั้น! ก่อนจะปล่อยมือ ทำซ้ำประมาณ 20 – 30 ครั้ง เพียงแค่นี้ คุณก็จะเริ่มรู้สึกว่าหายใจสะดวกขึ้นมากทีเดียว 2. สูดไอน้ำร้อน การสูดไอน้ำร้อน จะทำให้เยื่อบุจมูกที่บวมอยู่คลายตัว และทำให้เราหายใจได้สะดวกขึ้น เพียงแค่นำน้ำร้อนใส่ในภาชนะ แล้วคลุมโปงศีรษะด้วยผ้าขนหนู เอาหน้าไปอังด้านบนภาชนะเพื่อสูดไอความร้อนทีละนิด โดยให้ใบหน้าอยู่ห่างจากน้ำร้อนในระยะที่พอเหมาะ ใช้ชายผ้าขนหนู ช่วยกันไอความร้อนให้วนอยู่บริเวณใบหน้าของคุณ อาจใส่สมุนไพร เช่น หอมแดง หรือขิง ในน้ำร้อนด้วยก็ได้ เพราะสมุนไพรเหล่านี้ มีคุณสมบัติที่ช่วยให้เราหายใจได้สะดวกขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น เวลาทำวิธีนี้ ระวังน้ำร้อนลวกด้วยนะคะ 3. น้ำมูกอุดตัน หายใจไม่ออก ทำยังไงดีนะ?

ติดโควิดทำให้ ผมร่วง ได้ถึงวันละ 300 เส้น นาน 6 เดือน!

  เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 เพจหมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงอาการผมร่วงจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยผมอาจร่วงได้ถึงวันละ 300 เส้น ตลอดระยะเวลา 6 เดือน เลยทีเดียว! “ผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลาย ๆ คน มีปัญหาผมร่วงหลังจากที่หายป่วยไปแล้ว 2-3 เดือน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากไวรัสโดยตรง แต่เป็นผลพวงจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากเชื้อไวรัส เช่น ไข้สูง ความเครียด ความวิดกกังวล ที่เป็นอาการที่พบได้จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยปกติแล้วเส้นผมคนเราจะร่วงวันละประมาณ 100 เส้น หลังจากหายป่วยจากโรคโควิด 2-3 เดือน ผมอาจร่วงได้ถึงวันละ 300 เส้น ตลอดระยะเวลา 6 เดือนเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ผมที่ร่วงไปก็จะค่อย ๆ งอกกลับมาใหม่อีกครั้ง และกลับมามีผมเหมือนก่อนป่วยในเวลา 6-9 เดือน ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 65 ปี ป่วยเป็นโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 มีไข้สูง ไอ ติดโควิดทำให้ ผมร่วง ได้ถึงวันละ 300 เส้น นาน 6 เดือน!

“กำจัดอาการไอ” เริ่มชีวิตใหม่ที่สดใสซาบซ่าตั้งแต่ต้นปี

  บริษัท ดีคอลเจน จำกัด ได้จับมือกับ ผศ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จัดเสวนาให้ความรู้ภายใต้หัวข้อ “ กำจัดอาการไอ เริ่มชีวิตใหม่ที่สดใสซาบซ่าตั้งแต่ต้นปี ” ผศ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ผศ.นพ.มานพชัย กล่าวว่า ทุกวันนี้คนไทยมีปัญหาเรื่องอาการไอกันมาก เพราะอากาศ และมลภาวะทางอากาศที่เลวร้าย รวมถึงการใช้ชีวิตที่สมบุกสมบัน อาการไอนี้ นอกจากจะบั่นทอนสุขภาพแล้ว หากปล่อยให้เป็น ๆ หาย ๆ หรือเรื้อรัง จะส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพ ความมั่นใจ ทั้งเสียงไอแบบการมีเสมหะ เป็นสิ่งรบกวน และเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้จึงเป็นอุปสรรคท้าทายต่อหนุ่มสาววัยทำงาน ดังนั้น ควรเริ่มต้นเรียนรู้เข้าใจสาเหตุ และกลไกการไอ และรักษาดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกันโดยด่วน อาการไอ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ จึงต้องฉลาดเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับอาการ มิฉะนั้นก็จะไม่หาย หรือกลายเป็นอาการเรื้อรัง ลักษณะของการไอบางครั้งช่วยบอกสาเหตุได้ เช่น 1. ไอแบบแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ มักเกิดจากการระคายเคืองมลภาวะต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง 2. ไอ “กำจัดอาการไอ” เริ่มชีวิตใหม่ที่สดใสซาบซ่าตั้งแต่ต้นปี

พระอัจฉริยภาพด้าน กีฬา ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระปรีชาสามารถด้าน กีฬา ทรงส่งเสริมให้ประชาชนเห็นคุณค่าของกีฬา ดังพระราชดำรัสที่ว่า “…การกีฬานั้นนับเป็นอุปกรณ์การศึกษาที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นการกล่อมเกลาให้เด็กมีจิตใจอดทน กล้าหาญ รู้แพ้รู้ชนะ ปลูกฝังพลานามัยให้แข็งแรง เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เด็กเป็นผู้มีสมรรถภาพ ทั้งในทางจิตใจ และร่างกายเป็นผลสืบเนื่องไปถึงการเป็นพลเมืองของชาติอันเป็นยอดแห่งความปราถนา…” พระบรมราโชวาท ในวันเปิดการแข่งขันกรีฑานักเรียนประจำปี วันที่ ๒๘ พฤศจิกายนพ.ศ. ๒๕๐๔ พระราชดำรัสนี้แสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานในเรื่องการส่งเสริมการกีฬาว่าเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาบุคคล และประเทศชาติ จึงทรงส่งเสริมกีฬาทุกประเภท พร้อมทั้งทรงกีฬามากมายหลายประเภทเช่นกัน เมื่อย้อนกลับไปดูพระราชจริยาวัตรด้านกีฬาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น จะพบว่าทรงโปรดการกีฬามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อครั้งยังประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ทรงเล่นสกีน้ำแข็งบ่อยครั้ง ต่อมายังสนพระทัยในกีฬาหลายประเภท เช่น สกีน้ำ ว่ายน้ำ เรือกรรเชียง เรือพาย แบดมินตัน ยิงปืน กอล์ฟเล็ก การแข่งขันรถเล็ก เครื่องร่อน ฯลฯ ทรงศึกษาข้อมูลของกีฬาแต่ละประเภทอย่างละเอียด และทรงฝึกฝนจนปฏิบัติได้ดี นับเป็นแบบอย่างที่ดีของนักกีฬา เป็นที่เห็นได้ชัดว่ากีฬาที่โปรดมักเป็นกีฬาที่ไม่ได้ใช้แต่พละกำลังเพียงอย่างเดียว คือต้องอาศัยความรู้รอบตัว และเทคนิคไหวพริบ ผนวกกับความรู้ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในกีฬานั้นๆ ซึ่งทรงพอพระทัยกับการเผชิญความท้าทายในเกมกีฬาเป็นอย่างมาก เช่น เทนนิส เรือใบ เป็นต้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคารพกฎกติกาของการกีฬาที่ทรงเล่น และมักจะทรงเน้นย้ำให้นักกีฬาทั้งหลายมีวินัยตลอดเวลา ทรงให้ความสำคัญต่อการฝึกซ้อมเป็นอันมาก ทรงสนพระทัยกีฬาที่มีโอกาสได้ฝึกซ้อม พระอัจฉริยภาพด้าน กีฬา ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ฉลากโภชนาการ อ่านให้เป็น ยิ่งควบคุมน้ำหนักง่าย

  สาว ๆ คงรู้กันอยู่แล้วว่า การอ่านฉลากอาหารช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ก็เรารู้ว่าเราจะทานอะไรเข้าไปนี่นะ แต่บางครั้งเวลาจะอ่านก็มึนเหลือเกิน เดี๋ยวนี้เค้ามีการคิดค้น ฉลากโภชนาการ แบบจีดีเอ (Guideline Daily Amount) เป็นฉลากโภชนาการหวาน มัน เค็ม ช่วยให้สาว ๆ อ่านฉลากอาหารได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องยืนหน้ามึนอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ฉลากโภชนาการ คืออะไร? ฉลากโภชนาการ คือ ตัวช่วยให้เราดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ซึ่งจะแปะอยู่ข้างกล่อง ข้างซองของกินทุกอย่าง ที่โฆษณาว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือเป็นของที่โลว์แคลอรี่ เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าที่บอกว่าโลว์น่ะ โลว์จริงมั้ย แล้วพอโลว์แล้ว “เหลือ” เท่าไหร่ มีคุณค่าสารอาหารอะไรบ้าง บางทีเขียนตัวใหญ่ ๆ ว่ามีสารนู่นนี่มากมาย เอาเข้าจริงอาจมีสารที่ว่าแค่ 0.001% เองก็ได้ ซึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เราเห็นนี่ก็มาจากการคำนวณว่าปริมาณสารที่เราได้รับจากการกินของชิ้นนั้นเข้าไป คิดเป็นเท่าไหร่จากที่เราควรได้รับต่อวัน ดังนั้น เฮลท์ตี้เกิร์ลทั้งหลายถ้าไม่อยากถูกหลอกง่าย ๆ ก็ต้องรักการอ่านกันหน่อยนะจ๊ะ ยิ่งป่วยยิ่งต้องอ่านให้เป็น เคยได้ยินมั้ยคะที่เขาว่าอาหารรักษาโรค แต่อาหารก็ทำให้เกิดโรคได้เหมือนกัน เน้นย้ำว่าฉลากโภชนาการ คือผู้ช่วยคนสำคัญที่ห้ามมองข้าม โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ควรรู้ว่าตัวเองต้องเลี่ยงอะไร เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวานควรเน้นดูที่ปริมาณน้ำตาล ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรเน้นดูที่ปริมาณเกลือ และโซเดียม ฉลากโภชนาการ อ่านให้เป็น ยิ่งควบคุมน้ำหนักง่าย

หลักการใช้ยา 5 ถูก ใช้ถูก ใช้เป็น โรคภัยหายอย่างปลอดภัย

  การใช้ยารักษาโรคต่าง ๆ จำเป็นต้องมีความรู้ในการใช้ยาอย่างถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ เมื่อต้องใช้ยา เพื่อความปลอดภัย 1. ถูกโรค – ใช้ยาให้ตรงกับโรค เช่น เป็นไข้หวัด ควรใช้ ยาบรรเทาหวัด ลดไข้ เมื่อไอมีเสมหะ ควรใช้ ยาแก้ไอละลายเสมหะ มีอาการภูมิแพ้ ควรใช้ ยาแก้แพ้ มีอาการกรดไหลย้อน ควรใช้ ยาลดกรดไหลย้อน ยาปฏิชีวนะ เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ ใช้รักษาอาการ เช่น ตุ่ม ฝี หนอง ยาแก้อักเสบ ใช้รักษาอาการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไข้ ปวด บวม 2. ถูกคน – ใช้ยาให้ถูกเพศ อายุ วัย และหญิงตั้งครรภ์ 3. ถูกขนาด – ใช้ยาตามแพทย์สั่ง หรือตามเภสัชกร โดยกินยาให้ถูกขนาดตามสั่ง 4. ถูกเวลา – ใช้ยาถูกเวลาตามฉลาก เช่น ยาก่อนอาหาร ควรกินก่อนอาหาร 15-30 นาที ถ้ากินหลังอาหาร ตัวยาอาจถูกน้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำลาย และถูกรบกวนการดูดซึมได้ หลักการใช้ยา 5 ถูก ใช้ถูก ใช้เป็น โรคภัยหายอย่างปลอดภัย

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save