gedgoodlife

รักต่างวัย ทำอย่างไรให้สมหวัง และมั่นคง

  ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มใหญ่ไปตกหลุมรักสาวน้อย หนุ่มน้อยไปรักสาวใหญ่… รักต่างวัย เป็นความสัมพันธ์ที่อาจจะไม่ค่อยราบรื่นนัก เนื่องจากความแตกต่างในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการใช้ชีวิต มุมมองความคิด และสังคมรอบข้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ วันนี้เราจึงมีข้อแนะนำมาฝากกันว่า ทำอย่างไร ให้รักต่างวัยของคุณ สมหวัง ราบรื่น และมั่นคง รักต่างวัย กับ 7 วิธี ทำให้รักสมหวัง และมั่นคง 1. ยอมรับ และเรียนรู้ความแตกต่าง ก่อนอื่นเลย เมื่อริจะมี รักต่างวัย ก็ต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า คุณกับคนที่คุณรักนั้นมีต่างกันมากจริงๆ การยอมรับและทำความเข้าใจในความต่างนั้น จะเป็นจุดเริ่มที่ทำให้พวกคุณได้เรียนรู้ และเห็นมุมมองใหม่ๆ ที่ต่างไปจากคนวัยเดียวกัน การเรียนรู้ความต่างนี้ ยังสามารถช่วยเรื่องให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของอีกฝ่ายได้ง่ายและดีขึ้น และยังสามารถช่วยลดความขัดแย้งระหว่างพวกคุณได้อีกด้วย 2. อดทน และปรับตัวเข้าหากัน การที่ฝ่ายหนึ่งอายุมากกว่า อาจจะทำให้อดไม่ได้ที่จะแนะนำสั่งสอน หรือบอกให้ทำในสิ่งที่ตนเองเห็นว่าดี หรืออาจจะหงุดหงิดเมื่ออีกฝ่ายแสดงอารมณ์หรือความต้องการแบบเด็กๆ ออกมาตามวัย จนอาจทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิด กดดัน และอาจรู้สึกว่าตัวเองถูกควบคุมอยู่ ความอดทนที่มีให้กัน และปรับตัวเข้าหากันจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก 3. เว้นระยะห่างบ้าง แม้ว่าคู่รักส่วนใหญ่ รักต่างวัย ทำอย่างไรให้สมหวัง และมั่นคง

เรียนผูกต้องเรียนแก้ แต่ ท้องผูก จะแก้ยังไงดี?

  ท้องผูก อาการอึดอัดที่หลายคนต้องเผชิญนั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นระบบลำไส้ทำงานผิดปกติ การใช้ยา พฤติกรรมการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่ความผิดปกติทางฮอร์โมน ซึ่งอาการท้องผูกนี้ นอกจากจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ปวดท้องแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมากอีกด้วย แต่ก็วิธีมากมายที่สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ได้ ไม่ว่าจะเป็น… • ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดินออกกำลังอย่างน้อย 20 นาที เพื่อช่วยให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว • ดื่มน้ำมาก ๆ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน แต่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มมีคาเฟอีน เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำได้ • ทานผัก และผลไม้เยอะ ๆ เพื่อเพิ่มกากใยอาหาร ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น • ตั้งเวลาขับถ่าย การขับถ่ายเป็นเวลา จะทำให้ร่างกายจดจำเวลาในการขับถ่ายเอาไว้ ทำให้ลำไส้บีบตัวโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลา ควรเป็นช่วงที่คุณมีเวลาว่างพอสมควร จะได้ไม่ต้องรีบร้อน • เอาเก้าอี้มาวางเท้าเวลาขับถ่าย หากห้องน้ำของคุณเป็นแบบชักโครก ให้หาเก้าอี้หรือม้านั่งเตี้ย ๆ มาวางเท้าให้ยกสูงขึ้นจนอยู่ในท่านั่งยอง ๆ การทำแบบนี้จะช่วยให้สะโพก และกระดูเชิงกรานยกสูงขึ้น และอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขับถ่ายมากกว่า เรียนผูกต้องเรียนแก้ แต่ ท้องผูก จะแก้ยังไงดี?

10 โรคร้ายสงกรานต์ สงครามโรค!

  เทศกาลเย็นชุ่มฉ่ำอย่างวันสงกรานต์ นั้น เป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานที่คนจำนวนมากต่างตั้งตารอ แต่ถึงแม้จะสนุกขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องระวังระหว่างการเล่นน้ำ ก็คือ เชื้อโรคต่าง ๆ  และโรคภัยไข้เจ็บที่แฝงมากับช่วงเวลาแห่งความรื่นเริงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 โรคร้าย ที่มักพบในช่วง สงกรานต์ นี้ 10 โรคร้ายสงกรานต์ มีอะไรบ้าง? 1. โรคอาหารเป็นพิษ โรคท้องร่วง โรคอหิวาตกโรค ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อน เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ หรือนม รวมถึงการทานอาหาร หรือน้ำที่ไม่สะอาด ก็อาจทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ โรคท้องร่วง และอหิวาตกโรคได้ทั้งสิ้น ซึ่งโรคเหล่านี้มักมีอาการที่คล้ายกันคือ ถ่ายเหลว ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน หากมีภาวะขาดน้ำรุนแรง อาจทำให้เกิดภาวะช็อค หมดสติ และเสียชีวิตได้ 2. โรคไข้หวัด และปอดอักเสบ การเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเล่นน้ำติดต่อกันตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ทำให้อุณหภูมิของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากร้อนจัดเพราะอากาศ มาเป็นเย็นจัดเพราะน้ำที่สาดเล่น โดย อาการเบื้องต้นเมื่อ เป็นหวัด คือ คัดจมูก น้ำมูกไหล 10 โรคร้ายสงกรานต์ สงครามโรค!

ประวัติความเป็นมาของ… “วันอนามัยโลก”

  องค์การอนามัยโลกหรือ WHO (World Health Organization) ตลอดจนองค์การอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการส่งเสริมให้วันที่ 7 เมษายนของทุกปีเป็น วันอนามัยโลก (World Health Day) หรือวันส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสุขภาพในระดับโลก ซึ่งมีการจัดงานมาตั้งแต่ปี 1950 โดยทาง WHO มีความตั้งใจที่จะดึงความสนใจจากทั่วโลก มาสู่ประเด็นทางสุขภาพที่ได้รับคัดเลือกขึ้นมาในแต่ละปี โดยจะมีการจัดกิจกรรมทั้งในระดับโลก และในระดับภูมิภาค ตามหัวข้อที่เกี่ยวเนื่องในปีนั้น วันอนามัยโลก ได้รับการยอมรับ และความสนใจจากทั้งองค์กรเอกชน และภาครัฐทั่วโลก ในประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องการสาธารณสุข รวมถึงความร่วมมือในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม โดยวันอนามัยโลกยังเป็น 1 ใน 8 แคมเปญหลักด้านสุขภาพ ที่จัดตั้งโดย WHO ซึ่งอีก 7 แคมเปญที่เหลือ ได้แก่ วันวัณโรคโลก สัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก วันมาลาเรียโลก วันงดสูบบุหรี่โลก วันเอดส์โลก วันบริจาคโลหิตโลก และวันโรคตับอักเสบโลก วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์การอนามัยโลก 1. เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วโลกให้มีพลานามัยอยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่สามารถจะทำได้ทั้งร่างกายและจิตใจ 2. เพื่อประสานงานส่งเสริมการอนามัยระหว่างชาติ ประวัติความเป็นมาของ… “วันอนามัยโลก”

มามะ ๆ มาเล่นเกมส์ Germ Crush ขจัดเจ้าเสมหะตัวร้ายกัน

  มามะ ๆ มาเล่นเกมส์ออนไลน์ Germ Crushเกมส์สนุก ๆ เล่นเพลิน ๆ กับเพื่อนเราได้แบบไม่มีเบื่อ ด้วยการช่วยกันบดขยี้เจ้าเสมหะตัวร้ายไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ที่อื่น ๆ กัน เพื่อน ๆ สามารถเล่นเกมส์ Germ Crushได้ที่ลิงก์นี้เลย —> http://germcrush.gedgoodlife.com

ฮีทสโตรก (Heatstroke) ภัยร้ายหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิตได้! สาเหตุ อาการ วิธีปฐมพยาบาล

  แดดเมืองไทยในช่วงหน้าร้อน เห็นแล้วก็จะเป็นลม เพราะมันร้อนระอุทะลุปรอทเหลือเกิน! อากาศที่ร้อนนอกจากจะทำให้ผิวคล้ำลง ยังแฝงมาด้วยโรคที่เกิดจากความร้อน นั่นก็คือ “ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด” วันนี้ GED good life จึงขอฝากความรู้ถึงสาเหตุ อาการ วิธีปฐมพยาบาล และเคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงโรคลมแดดมาฝากทุกคนในหน้าร้อนนี้ 6 โรคผิวหนังหน้าร้อน ที่คนไทยต้องระวัง! พร้อม 10 วิธีดูแลผิวหนังโดยกรมการแพทย์ อากาศร้อนจัดให้ระวังป่วย ไข้หวัดแดด เช็ก! 5 อาการต้องสงสัย 12 วิธีคลายร้อน รับซัมเมอร์สุดHOT !! รู้แล้วต้องแชร์ ให้หายร้อนไปพร้อมกัน ฮีทสโตรก คืออะไร? ฮีทสโตรก (Heatstroke) หรือ “โรคลมแดด” คือภาวะที่อุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป และไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ทันท่วงที เกิดได้จากการออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาในภาวะอากาศร้อนจัด หรืออยู่กลางแดดร้อนเป็นเวลานาน สามารถเกิดขึ้นได้แม้กับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ผู้ป่วยฮีทสโตรกจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดอันตรายต่อสมอง หัวใจ ไต ฮีทสโตรก (Heatstroke) ภัยร้ายหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิตได้! สาเหตุ อาการ วิธีปฐมพยาบาล

แชร์ให้คิด! “20 ข้อธรรม” เปลี่ยนชีวิตให้ดีงาม

  อานิสงส์ของการเผยแผ่ข้อธรรมคำสอนเพื่อเป็นธรรมทานนี้ ถือว่าเป็นบุญใหญ่ แต่บุญที่ใหญ่กว่านั้น คือการนำเอา ข้อธรรม คำสอนจากพระพุทธเจ้า หรือพระอริยสงฆ์ไปปฎิบัติตาม เพื่อให้เกิดประโยชน์ ความสุข แก่ตัวเราเอง และผู้อื่นได้ด้วย “20 ข้อธรรม” เปลี่ยนชีวิตให้ดีงาม 5 ข้อธรรมด้าน “สุขภาพ” การไม่เบียดเบียน ไม่รบกวน หรือไม่ทำอันตรายมนุษย์ และสัตว์โลกด้วยตนเอง หรือสั่งให้ผู้อื่นทำ จะเป็นคนมีโรคน้อย ดังนั้น ทางปฏิบัติเพื่อความมีโรคน้อย คือ เป็นผู้ที่ปกติ ไม่เบียดเบียนฯ สัตว์ฯ– คำสอนจากพระพุทธเจ้า อิทธิบาท ๔ เป็นหลักธรรมที่ทําให้อายุยืนการปฏิบัติตามหลักอายุวัฒนะ สำเร็จได้ ต้องไม่เบียดเบียนการฆ่าสัตว์– คำสอนจากพระพุทธเจ้า บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย บางคนคุ้นเคยกับอาหารดี ๆ ประณีต แต่เมื่อต้องไปรับประทานอาหารที่ไม่ประณีต ก็เป็นเหตุให้ระบบการย่อยทำงานไม่เป็นปกติ หรือไม่ย่อยเพราะไม่คุ้นเคยกับอาหารนั้น บางคนถึงกับเสียชีวิตด้วยเหตุนี้ได้– คำสอนจากพระพุทธเจ้า รู้จักประมาณในสิ่งที่เป็นสัปปายะ คือ การรับประทานอาหารให้พอดีในแต่ละมื้อนั้น พระสารีบุตรกล่าวไว้ว่า “พึงเลิกฉันก่อนอิ่ม 4 – 5 คำ แล้วดื่มน้ำเท่านี้ก็เพียงพอเพื่ออยู่ผาสุกของภิกษุผู้มีใจเด็ดเดี่ยวมุ่ง นิพพาน” แชร์ให้คิด! “20 ข้อธรรม” เปลี่ยนชีวิตให้ดีงาม

รักนี้ปึ๋งปั๋งชัวร์!! ด้วย 6 ผลไม้ไทย เสริมสมรรถภาพทางเพศ

  ประโยชน์ของผลไม้ไทยนั้นมีอยู่มากมาย ตั้งแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคภัยไขเจ็บ ไปจนถึงช่วยในเรื่องของความงาม แต่รู้หรือไม่ว่า ผลไม้ไทย ยังสามารถเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย ช่วยให้ชีวิตรักของคุณมีสีสัน และบางครั้งก็ช่วยแก้ปัญหาเรื่องบนเตียงของคุณได้ ตามมาดูกันเลยว่า 8 ผลไม้ไทย เสริมสมรรถภาพทางเพศ จะมีอะไรบ้าง… 6 ผลไม้ไทย เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำรุงรักให้หวานฉ่ำ! 1. กล้วย (Banana) เรียกได้ว่าชนะตั้งแต่รูปร่าง กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยพลังงาน และโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างพละกำลัง และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กล้วยสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ป้องกันเรื่องนกเขาไม่ขัน และทั้งยังมีเกลือแร่อีกหลายชนิด ที่ช่วยบำรุงความเร่าร้อนของคุณได้เป็นอย่างดี! 2. แตงโม (Watermelon) มีงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่า แตงโมมีฤทธิ์ต่อร่างกายไม่ต่างกับไวอากร้าเท่าไรนัก เพราะนอกจากจะช่วยขยายหลอดเลือก ทำให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น และช่วยให้คุณปึ๋งปั๋งได้ได้ดีขึ้นแล้ว ยังทำให้สเปิร์มแข็งแรงขึ้นอีกด้วย 3. มังคุด (Mangosteen) มังคุด ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” (Queen of Fruits) เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง ทั้งด้านสุขภาพ และด้านความงามสรรพคุณของมังคุดทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังงานเพิ่มขึ้น พร้อมสู้ศึกหนักบนเตียงได้สบาย ๆ รักนี้ปึ๋งปั๋งชัวร์!! ด้วย 6 ผลไม้ไทย เสริมสมรรถภาพทางเพศ

จูบวาเลนไทน์ ดูดดื่มเกินไปเสี่ยงโรคนะเธอ

  วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักที่หนุ่มสาว และคู่รักทั่วโลกต่างนิยมใช้เป็นโอกาสในการแสดงความรัก และหนึ่งในวิธีการที่ใช้แสดงความรู้สึกอันลึกซึ้งนี้ก็คือจูบวาเลนไทน์แต่รู้หรือไม่ว่า การจูบอันดูดดื่มนั้น สามารถทำให้คุณป่วยได้ ซึ่งนอกเหนือจากโรคพื้นฐานอย่างไข้หวัดแล้ว ยังมีโรคติดต่ออีกจำนวนหนึ่ง ที่คุณควรรู้จัก และระมัดระวังเอาไว้ เพราะว่ามันสามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นผ่านการจูบได้นั่นเอง จูบวาเลนไทน์ รู้ทันโรคก่อนจูจุ๊บ! 1. เริม (Herpes simplex) เมื่อติดเชื้อเริมแล้ว คุณก็ต้องอยู่กับโรคนี้ตลอดไป เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่ก็ไม่ได้มีอาการร้ายแรงอะไรเช่นกัน สองในสามของประชากรโลก ต่างก็มีไวรัสชนิดนี้อยู่ในร่างกาย โดยผู้ที่แสดงอาการ จะมีตุ่มน้ำเหลืองขึ้นบริเวณริมฝีปาก หรือภายในช่องปาก หากคุณสัมผัสกับน้ำเหลืองจากตุ่มน้ำของผู้ที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ ก็จะทำให้คุณติดเชื้อไปด้วย แม้ว่าผู้ที่มีเชื้อจะหายจากกอาการเริมแล้วก็ตาม 2. ซิฟิลิส (Syphilis) แม้ว่าการจูบ จะไม่ใช่วิธีแพร่เชื้อซิฟิลิสที่พบได้บ่อยนัก แต่ก็มีรายงานว่า เป็นสาเหตุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากคู่รักของคุณ มีเชื้อซิฟิลิสอยู่ในร่างกาย และมีแผลในช่องปากแล้วละก็ ก็มีโอกาสที่จะคุณติดเชื้อซิฟิลิสอยู่ แต่การไปพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะ ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย 3. โมโนนิวคลีโอซิส (Infectious mononucleosis) โรคโมโนนิวคลีโอซิส หรือโรคโมโน เรียกกันอีกอย่างว่า Kissing disease สามารถถ่ายทอดกันผ่านทางน้ำลาย และเสมหะที่เกิดจาก จูบวาเลนไทน์ ดูดดื่มเกินไปเสี่ยงโรคนะเธอ

พองหนอ ยุบหนอ… การทำสมาธิ ช่วยให้ชีวิตดี สุขภาพดีได้อย่างไร?

  คนทำงานมากมายต่างก็ประสบกับปัญหาเกี่ยวกับความเครียด นอกจากจิตใจจะไม่เป็นสุขแล้ว บ่อยครั้งยังทำให้สุขภาพแย่ลงตามไปด้วย การทำ สมาธิ เป็นหนึ่งในทางเลือกของหลาย ๆ คน เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำจิตใจให้สงบ แต่รู้หรือไม่ว่า การทำสมาธิ นั้น ยังมีผลดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย มีงานวิจัยในต่างประเทศมากมายพิสูจน์แล้วว่า การทำสมาธิ สามารถช่วยในการรักษาโรค ต่าง ๆ ได้ดีทีเดียว ประโยชน์ที่น่าทึ่งของการทำ สมาธิ การทำ สมาธิ ช่วยลดความเครียด ทำให้จิตใจแจ่มใส ประโยชน์อย่างแรก และเป็นประโยชน์ที่เห็นชัดที่สุด ของการทำสมาธิก็คือ การมีสุขภาพจิตดีขึ้น ลดอาการซึมเศร้า เนื่องจากการทำสมาธิเป็นการช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทเซโรโทนินในร่างกาย และกระตุ้นให้สมองยับยั้งการทำงานของสมองส่วนกลาง ที่ทำหน้าที่สร้างอารมณ์ด้านลบ คนที่ทำสมาธิเป็นประจำ จึงมีแนวโน้มที่จะมีอารมณ์ที่มั่นคงกว่าคนที่ไม่ค่อยนั่งสมาธิ หรือไม่เคยนั่งสมาธิเลย รู้สึกกระฉับกระเฉง ไม่อ่อนล้า ขณะทำสมาธิ ระบบไหลเวียนโลหิต และการเผาผลาญอาหารในร่างกายจะทำงานดีขึ้น ทำให้สร้างพลังงานได้เต็มที่ มีเรี่ยวแรงกระฉับกระเฉง ไม่เหนื่อยง่าย มีอารมณ์แจ่มใส สมองไบร์ทขึ้น หลายงานวิจัยที่มีความเห็นตรงกันว่า การทำสมาธิติดต่อกันนาน 8 สัปดาห์ ส่งผลดีต่อสุขภาพสมอง ช่วยให้มีความจำที่ดีขึ้น สามารถจัดการกับอารมณ์ด้านลบได้ดีขึ้น ซึ่งอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ คือสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพสมองให้ถดถอยลงเรื่อย ๆ ช่วยลดความดันโลหิต การทำสมาธิ สามารถช่วยให้ความดันโลหิตลดลงได้ หลาย พองหนอ ยุบหนอ… การทำสมาธิ ช่วยให้ชีวิตดี สุขภาพดีได้อย่างไร?

แนะนำ 5 สถานที่เที่ยว อากาศดี๊ดี ในช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้

  เมื่อกลิ่นลมหนาวเริ่มลอยมาตามลม ก็เปรียบเสมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่า ได้เวลาออกไปเที่ยวสูดอากาศบริสุทธิ์ และชื่นชมภาพความงดงามของ สถานที่เที่ยว ตามธรรมชาติกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทะเลหมอกสีขาว ทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม ฟ้าใสสีคราม หรือทุ่งดอกไม้สีสดใส ต่างก็กำลังรอต้อนรับคุณอยู่ แล้วจะมัวแต่รออะไรกันอยู่ล่ะ… กางแผนที่เปิดปฏิทิน มาวางแผนเตรียมไปเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้กันเลยดีกว่า! 5 สถานที่เที่ยว อากาศดี๊ดี 1. ภูกระดึง จ. เลย ยังคงเป็นสถานที่เที่ยว ที่ได้รับความนิยมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยความงดงามของทิวทัศน์ บวกกับสภาพธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์อยู่ มีทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตก และหน้าผาสำหรับชมทิวทัศน์อันงดงาม รวมไปถึงความยากลำบากในการขึ้นยอดภู ที่ท้าทายให้ใครหลายคนอยากลองพิชิตภูกระดึงด้วยตนเองสักครั้งในชีวิต ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะปิดระหว่างช่วงเดือนมิถุนายน ถึงกันยายนของทุกปีเพื่อฟื้นสภาพธรรมชาติ และปรับปรุงสถานที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ 2. ดอยอ่างขาง จ. เชียงใหม่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยโครงการหลวงแห่งแรก บนเทือกเขาตะนาวศรี ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว เพื่อสร้างรายให้แก่ชาวเขาในพื้นที่ อากาศบนดอยอ่างขางเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ราว 17องศาเซลเซียส ทำให้สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน โดยช่วงเดือนธันวาคม แนะนำ 5 สถานที่เที่ยว อากาศดี๊ดี ในช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้

7 พฤติกรรมแย่ ๆ ที่ทำให้ผู้ชาย เซ็กซ์เสื่อม!

  โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือเรียกกันบ้าน ๆ ว่าเซ็กส์เสื่อมเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับผู้ชายทุกคน และควรรีบแก้ไขโดยด่วนที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่า ความจริงแล้ว พฤติกรรมบางอย่างที่ดูไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องบนเตียงของคุณเลยนั้น ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเซ็กส์เสื่อมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยดีกว่า 7 พฤติกรรมแย่ ๆ ทำคุณผู้ชาย เซ็กส์เสื่อม 1. สูบบุหรี่จัดเกินไป ข้อนี้สิงห์อมควันหลายคนรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าการสูบบุหรี่ทำร้ายร่างกายในหลาย ๆ ด้าน ยิ่งซองบุหรี่สมัยนี้ ก็แสดงเป็นภาพที่แสนน่ากลัวไว้อย่างชัดเจนว่า นิโคตินในบุหรี่นั้นทำร้ายร่างกายเรายังไงบ้าง…และยังมีผลการศึกษาของ British Journal of Urology Study ประเทศอังกฤษ ได้นำผู้ชายติดบุหรี่เข้าโปรแกรมเลิกบุหรี่เป็นเวลา 8 สัปดาห์ แล้วทำการทดสอบการแข็งตัวขององคชาติ โดยระหว่างที่เข้าโปรแกรมดังกล่าวกลุ่มตัวอย่าง 20 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่าพวกเขามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย นอกจากนี้ยังได้มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยการวิเคราะห์สเปิร์มตัวอย่างของคนที่สูบบุหรี่ พบว่าสเปิร์มอย่างน้อย 4 เปอร์เซ็นต์ ไม่แข็งแรงพอที่จะสืบพันธุ์…มีทั้งงานวิจัย และคำเตือนจากซองบุหรี่แล้ว ถ้ายังไม่เลิกดูดบุหรี่อีก ก็อาจจะสูญพันธ์ุได้เลยนะ! 2. ออกกำลังกายไม่เพียงพอ การออกกำลังกายทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแข็งแรง ช่วยให้ระบบการหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น และทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ตามต้องการ ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ 7 พฤติกรรมแย่ ๆ ที่ทำให้ผู้ชาย เซ็กซ์เสื่อม!

8 เคล็ดลับจิตใจดี สุขภาพดี ต้อนรับปีใหม่

  ปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว! ถึงเวลาเตรียมตัวเตรียมใจให้สดใสซาบซ่ารับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาเยือนในชีวิต… ลองมาเริ่มกันที่ทำจิตใจดี สุขภาพดี รับปีใหม่ จะได้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตก็น่าสนใจนะ วันนี้เราจึงมี 8 เคล็ดลับเพื่อจิตใจดี สุขภาพดี สำหรับต้อนรับปีใหม่มาฝากทุกคนกันด้วย อย่างที่ใคร ๆ เค้าว่ากัน “ถ้าจิตใจดี ร่างกายก็จะดีไปด้วย” 1. มาออกกำลังกายกัน! กินขนมอร่อยๆ นี่มันดีต่อใจ แต่อาจไม่ดีต่อไขมันในร่างกายสักเท่าไหร่ ลองเปลี่ยนมาเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ขยับตัวเล็กๆน้อยๆ วันละ 30 นาที ก็จะช่วยให้สุขภาพเราดีกว่าในระยะยาวเนอะ 2. ดื่มน้ำวันละ 8 – 10 แก้ว ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้ว ยังช่วยให้ผิวเรานุ่มชุ่มชื้น บอกลาปัญหาผิวแตกแห้งได้ด้วยนะ 3. ตรวจสุขภาพประจำปี จะวัยไหนๆ ก็ควรตรวจสุขภาพกันทั้งนั้น ไม่ใช่เพื่อหาอาการเจ็บป่วย แต่เพื่อให้มั่นใจว่า “เนี่ย ฉันยังแข็งแรงดีอยู่!” ถ้าเกิดเริ่มมีอาการอะไรเข้ามารบกวนร่างกาย เราจะได้รักษาทัน! 4. ออกไปท่องเที่ยว ไปสัมผัสธรรมชาติ เดือนละครั้ง 8 เคล็ดลับจิตใจดี สุขภาพดี ต้อนรับปีใหม่

มีจริงหรือนี่! โรคหัวใจสลาย อกหักก็มีสิทธิ์ตายได้!

  ใครจะไปเชื่อว่าคนเราจะตายเพราะ โรคหัวใจสลาย ได้ แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว เวลาอกหัก โดนบอกเลิก หรือได้รับข่าวร้ายที่ทำให้เสียใจมาก ๆ อย่างกะทันหัน เช่น คนในครอบครัวเสียชีวิตกะทันหัน อาจทำให้คุณรู้สึกเจ็บที่หน้าอก หรือหายใจไม่ออกได้ เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องเศร้าธรรมดา ๆ แต่เป็นเรื่องของคนอกหักที่เข้าใจกัน และบางรายเสียใจมาก ๆ อาการอาจหนักจนถึงตายได้เลยทีเดียวนะเนี่ย โรคหัวใจสลาย คืออะไร? โรคหัวใจสลาย (broken heart syndrome) หรือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติทาโคสึโบะ (Takotsubo cardiomyopathy)ตั้งตามชื่อของแพทย์ชาวญี่ปุ่นที่เป็นผู้ค้นพบโรคนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 เป็นโรคหัวใจชนิดหนึ่ง ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด สามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าคุณจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีก็ตาม มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรงอย่างกะทันหัน โดยมีสาเหตุจากเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียดทางอารมณ์สูง ไม่ว่าจะเป็น การพลัดพรากจากคนที่รัก ถูกปฏิเสธความสัมพันธ์ ประสบอุบัติเหตุ หรือมีปัญหาทางการเงิน เป็นต้น จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณหัวใจสลาย? เมื่อคุณมีอาการของโรคหัวใจสลาย กล้ามเนื้อหัวใจส่วนหนึ่งจะอ่อนแรงลงอย่างกะทันหัน การสูบฉีดเลือดจะชะงักลง กล้ามเนื้อหัวใจเกิดการกระตุก ทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง และลมหายใจขาดห้วง และยังอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น หน้ามืดเป็นลม คลื่นไส้ ความดันโลหิตต่ำ มีจริงหรือนี่! โรคหัวใจสลาย อกหักก็มีสิทธิ์ตายได้!

9 ข้อคิดในการใช้ชีวิต (พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙)

  Gedgoodlife ขอน้อมนำพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) ที่เป็น ข้อคิดในการใช้ชีวิต ให้กับประชาชนชาวไทยได้เดินหน้าในการใช้ชีวิต และการทำงาน พร้อมทั้งร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ 9 ข้อคิดในการใช้ชีวิต (คำสอนในหลวงรัชกาลที่ ๙) 1. คนดี “ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้” (พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512) 2. ความดี “การทำดีนั้นทำยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจ และเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี” (พระบรมราโชวาทพระราชทาน แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สวนอัมพร 14 สิงหาคม 2525) 3. การทำงาน 9 ข้อคิดในการใช้ชีวิต (พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙)

“โยคะหัวเราะ” ผิวสวยสุขภาพดีง่าย ๆ ด้วยรอยยิ้ม

  ความเครียด เป็นบ่อเกิดแห่งโรคร้าย ทำให้ทั้งเป็นทุกข์ และสุขภาพใจสุขภาพกายอ่อนแอลงได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีการคิดค้นศาสตร์แขนงต่าง ๆ มากมายเพื่อบำบัดความเครียด และเยียวยาจิตใจ หนึ่งในนั้นคือโยคะหัวเราะ ศาสตร์ที่เน้นในเรื่องของการหายใจที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ปราณยามะ หรือการหัวเราะอย่างไม่มีเงื่อนไข ที่ผสมผสานการหายใจแบบโยคะเข้าไว้ด้วยกัน โยคะหัวเราะ ดียังไง? ทำไมแค่หัวเราะก็หายเครียดได้? ความพิเศษที่สำคัญอย่างหนึ่งของ โยคะหัวเราะ ก็คือ เป็นยารักษาโรคที่ดี มีประสิทธิภาพ และมีราคาถูกที่สุด เนื่องจากระหว่างที่ฝึก ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยระงับความเจ็บปวดออกมาถึง 3 ชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน ช่วยลดความเจ็บปวด และรู้สึกผ่อนคลาย ฮอร์โมนโดพามีน ช่วยควบคุมอารมณ์ เพิ่มประสิทธิภาพความจำและการเรียนรู้ กระตุ้นการตื่นตัวของสมอง ฮอร์โมนซีโรโทนิน ช่วยลดความเครียด และกระตุ้นความสุข นอกจากนี้ การหัวเราะยังส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายหัวใจที่ดีที่สุด มีประโยชน์ต่อการหมุนเวียนของเลือด การผ่อนคลายกล้าเนื้อ ลดความดันโลหิต โรคหอบหืด ภูมิแพ้ สารเอนโดรฟินที่หลั่งออกมายังทำให้รู้สึกอารมณ์ดี มีความคิดปลอดโปร่งแจ่มใส ต้านความเครียด ลดความรู้สึกหดหู่ และช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองได้อีกด้วย การฝึกโยคะหัวเราะ สามารถฝึกได้ตั้งแต่เดือนละ 2 ครั้ง ไปจนถึงวันละครั้ง ตามความสะดวกของผู้ฝึก โดยแต่ละครั้งควรใช้เวลาในการฝึก “โยคะหัวเราะ” ผิวสวยสุขภาพดีง่าย ๆ ด้วยรอยยิ้ม

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save