gedgoodlife

กรดไหลย้อน กับ 8 ต้นเหตุสำคัญ ที่ควรรู้ไว้!

  1. โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes Mellitus) 2. โรคหอบหืด (Asthma) 3. อายุเพิ่มมากขึ้น (Aging) 4. ยารักษาโรค และอาหารเสริม (Medications and dietary supplements) 5. มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อน 6. โรคอ้วน (Obesity) 7. ผู้หญิงตั้งครรภ์ 8. ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ (Weak immune system) ปรับ 5 พฤติกรรมรักษาโรคกรดไหลย้อน 1. เสี่ยงอาหารรสจัด ไขมันสูง 2. งดบุหรี่ สุรา และเครื่องดื่มคาเฟอีน 3. ไม่กินแล้วนอนทันที 4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 5. ลดความเครียด อ่านบทความฉบับเต็มที่นี่ -> 8 ต้นเหตุโรคกรดไหลย้อน รู้เท่าทัน ป้องกันได้! ปรึกษาปัญหาสุขภาพ กรดไหลย้อน กับ 8 ต้นเหตุสำคัญ ที่ควรรู้ไว้!

โรคหลอดลมอักเสบ มีกี่ชนิด อาการ และวิธีป้องกันโรค

  โรคหลอดลมอักเสบ เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุหลอดลม ซึ่งเป็นท่อที่นำลม หรืออากาศหายใจเข้าสู่ปอด เมื่อเยื่อบุหลอดลมบวมมีเสมหะ ส่งผลให้อากาศไหลผ่านหลอดลมเข้าสู่ปอดได้ไม่ดี หายใจลำบากทำให้เกิดอาการไอได้ โรคหลอดลมอักเสบ มี 2 ชนิด ได้แก่ 1. โรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน เป็นภาวะปอดติดเชื้อที่พบได้บ่อยที่สุด และเป็น 1 ใน 5 สาเหตุ ที่ทำให้ต้องไปพบแพทย์มากที่สุดมีอาการไม่เกิน 3 สัปดาห์ สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส เหมือนไข้หวัด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากมีอาการไข้หวัด ทำให้มีอาการไอ ไอมีเสมหะ 2. โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง มีอาการไอเรื้องรังเกิน 3 สัปดาห์ เกิดจากโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหืด, สูบบุหรี่เป็นระยะเวลานาน, สัมผัสกับมลภาวะ ฝุ่น ควัน สารเคมี สารระคายเคือง ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาการของโรค ไอมีเสมหะ อาจไอแห้ง ไอเป็นเลือดได้ อ่อนเพลีย หอบเหนื่อย หอบหืด มีไข้ต่ำ หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวัด น้ำมูกไหล คัดจมูก โรคหลอดลมอักเสบ มีกี่ชนิด อาการ และวิธีป้องกันโรค

รู้จักอาการหวัดลงคอ พร้อมวิธีแก้หวัดลงคอแบบธรรมชาติให้หายเร็ว

บทความโดย เภสัชกร ฐิตาภา ภาษานนท์ เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย พักผ่อนไม่เพียงพอ มักพบอาการคัดจมูก เจ็บคอ น้ำมูกไหล หรืออาการหวัดลงคอ สาเหตุของอาการเหล่านี้ เกิดจากอะไรได้บ้าง วันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักอาการหวัดลงคอ พร้อมวิธีแก้ไข้หวัดลงคอแบบธรรมชาติให้หายเร็ว หวัดลงคอ คืออะไร หวัดลงคอ คือลักษณะอาการเจ็บป่วยที่ปรากฏขึ้นภายในลำคอ ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายผลิตสารคัดหลั่งขึ้นมาในภายในบริเวณลำคอและจมูก เพื่อดักจับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเมื่อมีการผลิตสารคัดหลั่งออกมามากเกินอาจก่อให้เกิดอาการของหวัดลงคอได้ รู้จักอาการของหวัดลงคอ หวัดลงคอ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บคอ คันคอ ระคายเคืองในลำคอ ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ บางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล เสียงแหบ หรือมีไข้ต่ำ โดยอาการมักเป็นอยู่ไม่เกิน 7-10 วัน และสามารถบรรเทาได้ด้วยการดูแลตัวเอง เช่น ดื่มน้ำอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการใช้เสียงมากเกินไป   [H2] อาการหวัดลงคอ มีแบบไหนบ้าง อาการหวัดลงคอแบ่งออกเป็นสองลักษณะได้แก่ 1.อาการหวัดลงคอจากโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ 2.อาการหวัดลงคอจากคออักเสบ  1. รู้จักอาการหวัดลงคอ พร้อมวิธีแก้หวัดลงคอแบบธรรมชาติให้หายเร็ว

รู้จักอาการไอ และการเลือก ยาแก้ไอ แบบต่าง ๆ

  ไอไม่มีเสมหะ ไอแห้ง ๆ แต่ไม่มีเสมหะ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อากาศ มลภาวะ ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง เป็นอาการไอที่ต้องปรึกษาคุณหมอว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนใหญ่จะได้รับยาที่กดอาการ หรือยับยั้งอาการไอ การเลือกใช้ยาแก้ไอยับยั้งการไอ ถ้าไอไม่มีเสมหะ อาจจะต้องใช้ยาแก้ไอที่ช่วยออกฤทธิ์ยับยั้งการไอ เป็นยาที่ใช้ในกรณีที่ไอไม่มีเสมหะ ซึ่งเป็นยาอันตรายที่ต้องปรึกษาคุณหมอ หรือเภสัชกรก่อนใช้ทุกครั้ง ตัวอย่าง เช่น ยา Dextromethophan ซึ่งหากใช้ผิด หรือใช้เกินขนาดอาจส่งผลข้างเคียงรุนแรงได้ ไอแบบมีเสมหะ การไอแบบมีเสมหะ เป็นกลไกของร่างกายที่พยายามกำจัดของเสียหรือสิ่งแปลกปลอมที่สร้างความระคายเคือง ซึ่งก็คือเสมหะ ให้ออกไปจากหลอดลม เป็นอาการไอที่เจอกันได้บ่อย ๆ ภูมิแพ้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไอมีเสมหะ การเลือกใช้ยาแก้ไอขับเสมหะ ยาขับเสมหะจะเป็นยาที่ไปทำให้กระเพาะระคายเคืองและหลั่งสารที่มีน้ำออกมา ทำให้เสมหะขับออกมาได้ง่ายขึ้น แต่ใช้แรก ๆ จะทำให้มีเสมหะมากขึ้น แต่ก็มีอาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน การเลือกใช้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ยาแก้ไอละลายเสมหะ เป็นยาที่อันตรายน้อยกว่า ยาแก้ไอขับเสมหะ โดยยาจะทำให้ความข้นหนืดของเสมหะลดลง เราจึงไอเอาเสมหะออกได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างของยาละลายเสมหะ คือ Carbocisteine อาการข้างเคียงจากยากลุ่มนี้น้อยมาก ซึ่งยาแก้ไอละลายเสมหะ รู้จักอาการไอ และการเลือก ยาแก้ไอ แบบต่าง ๆ

เจ็บคอมีเสมหะ ไอแล้วเจ็บคอ บอกโรคอะไรได้บ้าง แบบไหนต้องระวัง

ไอ เจ็บคอมีเสมหะ คืออะไร อาการไอแล้วเจ็บคอ เจ็บคอมีเสมหะ เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น กรดไหลย้อน หรือสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีดูแลตัวเอง จะช่วยให้สามารถจัดการกับอาการได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เจ็บคอ จะมีอาการอย่างไร รู้สึกระคายเคืองในลำคอ: อาจรู้สึกคันหรือเหมือนมีอะไรติดอยู่ในคอ ทำให้ต้องกระแอมบ่อยๆ ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ: บางคนอาจมีอาการไอแห้งจากการระคายเคือง หรือไอแบบมีเสมหะหากมีการติดเชื้อในทางเดินหายใจ กลืนลำบากหรือมีอาการแสบคอ: อาจรู้สึกเจ็บขณะกลืนอาหารหรือน้ำ และอาจมีอาการแสบคอร่วมด้วย คอแห้งและเสียงแหบ: ความแห้งในลำคออาจทำให้เสียงแหบหรือสูญเสียเสียงชั่วคราว โดยเฉพาะหลังจากใช้เสียงมาก อาการเจ็บคอไอ มีกี่ประเภท อาการเจ็บคอ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ เจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อ และ เจ็บคอที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่ละประเภทมีสาเหตุและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันไป การทำความเข้าใจประเภทของอาการเจ็บคอจะช่วยให้เราสามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง 1. เจ็บคอ ที่เกิดจากการติดเชื้อ อาการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อมักมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ไข้ น้ำมูก หรือไอ สามารถแบ่งออกได้ตามชนิดของเชื้อที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส เช่น เจ็บคอมีเสมหะ ไอแล้วเจ็บคอ บอกโรคอะไรได้บ้าง แบบไหนต้องระวัง

7 อาหารบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และความจำเสื่อม

  อาหารบางอย่างไม่ได้แค่ช่วยให้สุขภาพดีเท่านั้น แต่ยังมี อาหารบำรุงสมอง ด้วยนะ โรคเรื้อรังอย่างอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อมไปไกล ๆ เลย เมนู อาหารบำรุงสมอง น้ำสลัดที่มีส่วนประกอบของน้ำมันจากพืช Martha Clare Morris ผู้อำนวยการฝ่ายโภชนาการ และระบาดวิทยา แห่งมหาวิทยาลัย Rush ในชิคาโก ระบุว่าการบริโภคอาหารที่อุดมด้วยวิตามินอีสูง (แต่ไม่นับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินอี) เช่น น้ำสลัดที่มีส่วนประกอบพื้นฐานของน้ำมันผักอย่างน้ำมันมะกอก เมล็ดพืช ถั่ว และธัญพืช จะประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทได้ กินปลาได้ไขมันดี ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน, ปลาแมคคาเรล, ทูน่า และปลาชนิดอื่น ๆ ที่ให้กรดไขมันโอเมก้า 3  และมีกรดไขมัน DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ต่างก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะส่วนของความจำ และการเรียนรู้ ซึ่งกรดไขมัน DHA พบว่าเป็นไขมันที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์สมองถึง 65% และร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากการบริโภคปลา พืชผักใบเขียว ทั้งผักแคล (Kale), คะน้า, 7 อาหารบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และความจำเสื่อม

เคยไหม… ตื่นเช้ามาก็ ปวดหัว ปวดขมับข้างเดียว เป็นเพราะอะไรกันนะ?

  ปวดหัว เป็นอาการที่เราทุกคนล้วนต้องเคยสัมผัสพบเจอกันมาบ้าง การแก้ไขส่วนใหญ่ทำได้โดยการกินยาแก้ปวด บรรเทาอาการปวด อาการก็มักจะทุเลาลง แต่ถ้าอาการปวดหัวมาเจอเราในทุก ๆ เช้า คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากใครที่ตื่นนอนตอนเช้าไม่สดชื่น มีอาการปวดหัวข้างเดียว ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการตุบ ๆ บางวันปวดด้านซ้าย อีกวันย้ายมาข้างขวา อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งทั้งหมดส่งผลให้มีอาการปวดหัวข้างเดียวได้ ปวดหัวจากท่านอนที่ไม่ถูกต้อง ท่านอนที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้การนอนหลับไม่มีคุณภาพ นอนหลับไม่สนิทซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวเมื่อตื่นขึ้นมาได้ ปวดหัวเกิดจากความเครียด ความเครียดมักเป็นสาเหตุหลักของผู้คนในปัจจุบัน ซึ่งความเครียดส่งผลให้มีอาการปวดหัวได้ และยังอาจเป็นอาการเริ่มต้นของไมเกรนได้ หลายคนเก็บเอาความเครียด เรื่องงาน ปัญหาชีวิต คิดฟุ้งซ่านจนหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็ทำให้มีอาการปวดหัว ปวดหัวเพราะช่วงมีรอบเดือน นอกจากปวดท้องแล้ว ในช่วงมีรอบเดือน ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการปวดหัวข้างเดียว เหมือนกับอาการไมเกรนได้เช่นกัน ปวดหัวจากภาวะความดันในกระโหลกศีรษะสูง อาการปวดหัวในตอนเช้าเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะ ความดันในกระโหลกศีรษะสูงขึ้น ทำให้มีอาการปวดหัวได้ ปวดหัวเพราะนอนหลับไม่พอ ในวันที่เรานอนหลับไม่เพียงพอ นอนน้อย หรือนอนดึกเมื่อตื่นเช้าก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน อาการปวดหัวมักเป็น ๆ หาย ๆ แต่ว่าส่งผลมากกับการดำเนินชีวิต เพราะเมื่อมีอาการปวดหัว มักทำให้เราไม่มีสมาธิ หลายคนปวดจนไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งนอกจากสาเหตุข้างต้นแล้ว อาการ ปวดหัว อาจเป็นสัญญาณบ่งบอก โรคที่เกี่ยวข้องกับสมองของเราได้ ดังนั้น หากมีอาการปวดหัวข้างเดียว เคยไหม… ตื่นเช้ามาก็ ปวดหัว ปวดขมับข้างเดียว เป็นเพราะอะไรกันนะ?

กลาก เกลื้อน โรคผิวหนังยอดฮิตในหน้าฝน ที่คนเข้าใจผิดคิดว่าโรคเดียวกัน

  หน้าฝนนอกจากจะทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดได้ง่ายแล้ว ยังนำพาโรคผิวหนังต่าง ๆ ตามมาด้วย โดยเฉพาะ “กลาก เกลื้อน” ซึ่งจัดเป็นโรคผิวหนังจากเชื้อราที่พบได้บ่อยในหน้าฝน ทั้งนี้หลายคนเข้าใจว่า กลาก กับ เกลื้อน เป็นโรคเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่โรคเดียวกัน… 2 โรคนี้จะแตกต่างกันยังไง มีสาเหตุ อาการ วิธีรักษาอย่างไร  บทความนี้มีคำตอบ มาติดตามกันเลย! เชื้อราแมว สามารถติดต่อสู่คน ทำป่วยโรคผิวหนังได้ แพทย์เตือน! เชื้อราหน้าฝน ทำป่วยภูมิแพ้และโรคผิวหนังได้ พร้อมแนะวิธีกำจัดเชื้อรา 7 โรคผิวหนัง ต้องระวัง! ในฤดูฝน พร้อมวิธีป้องกันจากแพทย์ผิวหนัง รู้จักกับ กลาก เกลื้อน โรคผิวหนังยอดฮิตในหน้าฝน กลาก เกลื้อน คือโรคผื่นผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเชื้อราเหมือนกัน แต่เป็นเชื้อราต่างชนิดกัน ส่วนความแตกต่างกัน คือ ลักษณะรอยโรคและตำแหน่งที่เป็น  ทั้ง 2 โรคนี้สามารถพบได้บ่อยได้ฤดูฝน รวมถึงฤดูร้อน เพราะ ทำให้เหงื่อออกมาก โดยเฉพาะโรคเกลื้อนมักพบบ่อยในฤดูร้อน กลาก (Ring worm / Dermatophytosis) กลาก เกลื้อน โรคผิวหนังยอดฮิตในหน้าฝน ที่คนเข้าใจผิดคิดว่าโรคเดียวกัน

ลูกไข้สูงไม่ลด สาเหตุเกิดจากอะไร ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด รับมือยังไงดี

ลูกไข้สูงไม่ลด สาเหตุเกิดจากอะไร อาการลูกไข้สูงไม่ลดและอาการตัวร้อนในเด็กเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองและเกิดการเพิ่มอุณหภูมิขึ้นเพื่อขัดขวางการเจริญเติบโตของเชื้อ หากเด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ไข้ก็อาจเกิดขึ้นได้บ่อยขึ้น โดยทั่วไปอุณหภูมิร่างกายปกติของเด็กอยู่ที่ประมาณ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส และหากอุณหภูมิสูงเกินไปก็อาจเป็นสัญญาณของไข้ การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หรือโรคมือเท้าปาก ซึ่งมักทำให้ไข้สูงและไม่ลดลง การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น คออักเสบจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส ปอดอักเสบ หรือทางเดินปัสสาวะอักเสบ ที่อาจทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาการอักเสบ โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน หรือการอักเสบของร่างกาย เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน มักเกิดอาการไข้สูงชั่วคราว แต่หากมีไข้ต่อเนื่องหรือมีอาการแทรกซ้อน ควรพบแพทย์ทันที วิธีวัดไข้เด็กเมื่อลูกมีไข้สูงที่คุณแม่ควรรู้ ไข้ต่ำ: อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 6-38.3 องศาเซลเซียส ไข้ปานกลาง: อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 4-39.9 องศาเซลเซียส ไข้สูง: อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย อาการแบบไหนที่บอกว่าลูกไม่สบาย 1. มีอาการหงุดหงิด หรือร้องไห้ต่อเนื่อง ลูกอาจมีความรู้สึกไม่สบายตัวจากไข้ ปวดหัว หรืออาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ทำให้ร้องไห้หรือหงุดหงิดผิดปกติ 2. ลูกไข้สูงไม่ลด สาเหตุเกิดจากอะไร ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด รับมือยังไงดี

หิวบ่อย อยากกินตลอด เป็นเพราะอะไร ทำยังไงให้หยุดหิว?

  ความหิวเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เรา ใคร ๆ ก็ต้องรู้สึกหิวกันทุกคน แต่ถ้าใครรู้สึกว่า หิวบ่อย หิวตลอด อยากกินนั่นนี่ตลอดเวลา อันนี้คงต้องมาเช็กสาเหตุกันหน่อยแล้วว่าอาการหิวบ่อยของเราเป็นเรื่องปกติ หรือเป็นโรคกันแน่? แล้วมีวิธีไหนที่จะช่วยให้หยุดหิวได้บ้าง… ทำความเข้าใจกับ “กลไกความหิว” ของร่างกายเรากันก่อน อาการหิว ถือเป็นสัญญาณทางประสาท เพื่อเตือนว่าร่างกายต้องการอาหารนำมาใช้เป็นพลังงาน และเมื่อท้องว่าง ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า “เกรลิน” (Ghrelin) หรือ ฮอร์โมนหิว ที่ถูกสร้างจากเซลล์กระเพาะอาหารออกมา เพื่อส่งสัญญาณให้เราได้รับรู้ว่าถึงเวลากินอาหาร หรือ อยากอาหาร แล้ว ช่วงก่อนมื้ออาหารประจำของเรา เป็นช่วงที่ระดับของเกรลินจะเพิ่มขึ้นสูง และเมื่อกินอาหารแล้ว ระดับของเกรลินก็จะลดลงไปนานราว 3 ชั่วโมง ก่อนจะเพิ่มปริมาณขึ้นจนทำให้เรารู้สึกหิวอีกครั้ง… นอกจากความหิวตามกลไกของร่างกายแล้ว ความหิวอาจมาจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก ทั้งปัจจัยทางสุขภาพ อารมณ์ และสังคม ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเกรลินออกมามากกว่าปกติ คือ ร่างกายทำงานหนัก การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ความเหงา และความวิตกกังวล ฉะนั้น วิธีการที่จะจัดการกับความหิว คือ พยายามควบคุมฮอร์โมนเกรลิน ไม่ให้สูงเกินไป ควบคุมสุขภาพ และอารมณ์จากการใช้ชีวิตประจำวัน หิวบ่อย อยากกินตลอด เป็นเพราะอะไร ทำยังไงให้หยุดหิว?

หน้าฝนพ่อแม่ระวัง! ไข้เลือดออกในเด็ก ภัยจากยุงลายทำร้ายลูก

  เมื่อถึงฤดูฝน มักจะมีโรคระบาดเกิดขึ้นหลายโรค และหนึ่งในนั้นคือ “โรคไข้เลือดออก” โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก มักจะเป็นโรคนี้กันได้ง่าย ฉะนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรระวังโรคนี้เป็นพิเศษ เพราะ เมื่อลูกเป็นแล้วจะมีอาการหนัก ถ้าถึงมือแพทย์ช้า อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ มาดูกันว่า “ไข้เลือดออกในเด็ก” มีอาการอย่างไร และควรรับมือยังไงดี? ไข้เลือดออกในเด็ก โรคร้ายที่มากับ “ยุงลาย” ไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจาก “เดงกีไวรัส (Dengue virus)” ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ คือ เดงกี 1 2 3 4 แต่ละสายพันธุ์มีระดับความรุนแรงของโรคต่างกันไป เมื่อผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเดงกีชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกีชนิดนั้นตลอดไป การติดต่อของโรคนี้ มี “ยุงลายตัวเมีย” เป็นพาหะนำโรคมาสู่คน พบมากในฤดูฝน เพราะ เป็นฤดูกาลแพร่พันธุ์ของยุงลาย เมื่อยุงลายตัวเมียดูดเลือดจากผู้ป่วยที่มีเชื้อเดงกีเข้าไป เชื้อไวรัสเดงกีในยุงจะเพิ่มจำนวน และกระจายเชื้อเข้าไปสู่ต่อมน้ำลายของยุง เตรียมพร้อมที่จะปล่อยเชื้อให้กับคนที่ถูกกัดครั้งต่อไปได้ตลอดอายุของยุง ซึ่งอยู่ได้นาน 1-2 เดือน อนึ่ง โรคไข้เลือดออกไม่ติดต่อทางการสัมผัส หรือรับประทานอาหารร่วมกัน สถิติชี้! เด็กอายุ 5-14 หน้าฝนพ่อแม่ระวัง! ไข้เลือดออกในเด็ก ภัยจากยุงลายทำร้ายลูก

กรมควบคุมโรคเตือน! 4 กลุ่มโรคติดต่อในฤดูฝน ที่คนไทยต้องระวังและดูแลตัวเองให้ดี

  กรมควบคุมโรคแจ้งเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพอนามัย และป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้บ่อยในฤดูฝน เนื่องจากฤดูฝนทำให้เกิดฝนตกหนัก เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันได้ หากไม่ดูแลสุขอนามัยให้ดีก็อาจทำให้เกิดเจ็บป่วยได้ง่าย มาดูกันว่า “4 กลุ่มโรคติดต่อในฤดูฝน” ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง? 14 โรคติดต่ออันตราย! ภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 รวมโรคติดต่อยอดฮิตในออฟฟิศ ป้องกันสักนิด ก่อนป่วยยกแก๊งค์ ระวัง! 5 ไวรัสหน้าฝน ทำติดเชื้อทางเดินหายใจ ก่อโรคหวัด ไข้ขึ้นสูง! กรมควบคุมโรคเตือน! 4 กลุ่มโรคติดต่อในฤดูฝน ที่ต้องระวัง กลุ่มที่ 1 โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เกิดจากการติดเชื้อโรคของระบบทางเดินหายใจ เริ่มตั้งแต่จมูก คอ หลอดลม ไปจนถึงปอด โรคทางเดินหายใจส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากเชื้อไวรัส แต่บางโรคก็อาจเกิดได้จากแบคทีเรีย ซึ่งจะมีอันตรายกว่าโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส โรคติดต่อทางเดินหายใจที่ควรระวังในหน้าฝน ได้แก่ โรคไข้หวัดทั่วไป (Common cold หรือ Acute rhinitis) โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) โรคปอดบวม หรือ ปอดอักเสบ (Pneumonia) คออักเสบ หรือ กรมควบคุมโรคเตือน! 4 กลุ่มโรคติดต่อในฤดูฝน ที่คนไทยต้องระวังและดูแลตัวเองให้ดี

กรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์ ควรดูแลอย่างไร?

  รู้หรือไม่ อาการกรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ถึง 80% เลยทีเดียว ฉะนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ต้องเตรียมรับมือให้ดี โดยเฉพาะช่วงแพ้ท้อง… มาดูกันว่า “กรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์” จะมีสาเหตุ และวิธีรับมืออย่างไร โรคกรดไหลย้อน กับ โรคแพนิค สัมพันธ์กันอย่างไร ปรับชีวิตยังไงดี? เช็กอาการ! กรดไหลย้อน 4 ระยะ มีอาการ และวิธีรักษาอย่างไร? ยาลดกรด ยารักษากรดไหลย้อน คืออะไร มีกี่ชนิด ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง? การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ ส่งผลต่ออาการกรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์ได้ การตั้งครรภ์ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายวิภาค และสรีรวิทยาของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยระหว่างตั้งครรภ์จะมี “ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)” ส่งผลกระตุ้นการคลายตัวของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง หรือมีการหลั่งกรดมากขึ้นในกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร หรือช่องปาก ส่งผลให้มีอาการระคายบริเวณลำคอ และหลอดอาหาร แม่ตั้งครรภ์อาจรู้สึกแสบในช่องอกและหลอดอาหาร หรือจุกเสียดบริเวณใต้ลิ้นปี่ รวมทั้งมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อร่วมด้วย คล้าย ๆ กับอาการของโรคกระเพาอาหาร ปัจจัยที่ทำให้เกิด กรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง? อายุครรภ์ การมีประวัติโรคกรดไหลย้อนก่อนการตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์หลายครั้ง ดัชนีมวลกายก่อนการตั้งครรภ์ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ กรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์ ควรดูแลอย่างไร?

มีไข้ อ่อนเพลีย ตาเหลือง ระวัง! ไวรัสตับอักเสบบี ตัวการร้ายก่อมะเร็งตับ

  รู้หรือไม่… ประชากรเกือบ 1 ใน 3 ของโลกเคยได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และประมาณ 400 ล้านคนกลายเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีชนิดเรื้อรัง! จะเห็นได้ว่าโรคนี้เป็นภัยเงียบที่คุกคามมนุษย์เรามาโดยตลอด ผู้ป่วยหลายคนกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ ก็อาจสายเกินแก้เสียแล้ว ฉะนั้นอย่าประมาทไป มาเรียนรู้กันว่า ไวรัสตับอักเสบบี มีสาเหตุ อาการ วิธีรักษา และป้องกัน อย่างไร… รู้จักกับโรคติดต่อ “ไวรัสตับอักเสบบี” สาเหตุสำคัญที่สุดของการเกิดมะเร็งตับ! ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B virus : HBV) คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ทำให้เซลล์ตับเกิดการอักเสบแบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรังได้ หากเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด ตับแข็ง และร้ายแรงสุดคือเป็น มะเร็งตับ (Lung cancer) ซึ่งพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับส่วนใหญ่ 90% มีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบมาก่อน เชื้อไวรัสชนิดนี้จะอยู่ในเลือด และสารคัดหลั่งต่าง ๆ ของผู้ป่วย หรือผู้ที่เป็นพาหะ และสามารถถ่ายทอดเชื้อไปยังผู้อื่นได้ เชื้อไวรัสตับอักเสบบีมีระยะฟักตัวเฉลี่ยประมาณ 75 วัน (30-180 วัน) เชื้อสามารถแบ่งตัวได้ภายใน 30-60 มีไข้ อ่อนเพลีย ตาเหลือง ระวัง! ไวรัสตับอักเสบบี ตัวการร้ายก่อมะเร็งตับ

แบบประเมินความสุข 15 คำถาม

  แบบประเมินความสุข เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยวัดระดับความสุขของท่าน ว่ามีความสุขอยู่ในระดับใด มาเริ่มทำกันเลย! ชื่อเล่น* First อีเมล์* อายุ* กรุณาเลือก0 – 12 ปี13 – 19 ปี20 – 25 ปี26 – 39 ปี40 – 59 ปี60 ปีขึ้นไป 1. ท่านรู้สึกพึงพอใจในชีวิต*  ไม่เลย  เล็กน้อย  มาก  มากที่สุด 2. ท่านรู้สึกสบายใจ*  ไม่เลย  เล็กน้อย  มาก  มากที่สุด 3. ท่านรู้สึกเบื่อหน่ายท้อแท้กับการดำเนินชีวิตประจำวัน*  ไม่เลย  เล็กน้อย  มาก  มากที่สุด 4. ท่านรู้สึกผิดหวังในตัวเอง*  ไม่เลย  เล็กน้อย  มาก  มากที่สุด 5. ท่านรู้สึกว่าชีวิตของท่านมีแต่ความทุกข์*  ไม่เลย  เล็กน้อย  มาก แบบประเมินความสุข 15 คำถาม

เฮอร์แปงไจน่า โรคระบาดในเด็ก ที่กำลังทำพ่อแม่ว้าวุ่นกันไปหมด!

  หน้าฝน หลายโรคร้ายรุมเร้าเด็ก ๆ ไม่แผ่วเลย!! นอกจากจะต้องระวัง ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่แล้ว แพทย์ยังเตือน! ให้ระวัง “เฮอร์แปงไจน่า” โรคติดเชื้อไวรัส (คล้ายกับโรคมือเท้าปาก) ที่กำลังระบาดในกลุ่มเด็กเล็กอยู่ ณ ขณะนี้! มาดูกันว่า “เฮอร์แปงไจน่า” เกิดจากอะไร มีอาการ และวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง พ่อแม่ผู้ปกครองห้ามพลาด! รู้จักกับ เฮอร์แปงไจน่า โรคระบาดในหน้าฝน โรคเฮอร์แปงไจน่า หรือ โรคตุ่มแผลในปากเด็ก เป็นโรคที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส ในกลุ่มคอกซากีไวรัสกรุ๊ปเอ (Coxsackie viruses A sero type 1 – 10, 16 และ 22) และเอ็นเทอร์โรไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับ โรคมือ เท้า ปาก (แต่เฮอร์แปงไจน่าจะมีแผลเฉพาะที่ปากเท่านั้น) มักระบาดในช่วงฤดูฝน การป่วยเป็นโรคนี้แล้วครั้งหนึ่ง ก็จะทำให้มีภูมิคุ้มกัน และไม่เป็นโรคจากไวรัสสายพันธุ์เดิมนี้อีกตลอดชีวิต แต่ก็มีโอกาสเป็นซ้ำจากการติดไวรัสสายพันธุ์อื่น ติดต่อกันได้อย่างไร และมักพบในวัยไหน? โรคเฮอร์แปงไจน่าสามารถติดต่อได้ง่ายมาก ด้วยการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย ไอจามใส่กัน เอามือเข้าปาก และจากอุจจาระของผู้ป่วย เฮอร์แปงไจน่า โรคระบาดในเด็ก ที่กำลังทำพ่อแม่ว้าวุ่นกันไปหมด!

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save