คันจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด หรือภูมิแพ้กันแน่

เภสัชกร โชติมา หาญณรงค์
ผู้ชำนาญการด้านเภสัชกรรม

 การแยกระหว่างหวัด ภูมิแพ้ และอาการคันจมูก น้ำมูกไหล อาจทำได้ยาก เนื่องจากมีอาการบางประการที่คล้ายคลึงกัน การแยกระหว่างหวัดและภูมิแพ้จากอาการคันจมูก น้ำมูกไหล ทั้งหวัดและภูมิแพ้ต่างก็ทำให้เกิดอาการคันจมูก น้ำมูกไหล แต่มีรายละเอียดบางประการที่ช่วยแยกความแตกต่างระหว่างสองโรคนี้ได้ดังนี้:

หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส อาการมักปรากฏหลังจากสัมผัสกับผู้ป่วยเป็นหวัด 1-3 วัน อาการทั่วไป ได้แก่ คันจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ บางครั้งอาจมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย อาการมักหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

ภูมิแพ้ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ อาการทั่วไป ได้แก่ คันจมูก น้ำมูกไหล จาม คันตา คันจมูกบางครั้งอาจมีน้ำตาไหลและคัดจมูก อาการมักไม่หายเอง จำเป็นต้องรักษาด้วยยาหรือหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

ปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยแยก

อาการ หวัด ภูมิแพ้
ระยะเวลา อาการหวัดมักปรากฏชั่วคราว มักเกิดขึ้นเฉียบพลัน  โดยทั่วไปจะหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ อาการภูมิแพ้มักเป็นเรื้อรังหรือเป็นๆ หายๆ ขึ้นอยู่กับการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เป็นๆ หายๆ  ตลอดทั้งปี
ไข้ ไข้เป็นอาการที่พบบ่อยในหวัด ไม่ค่อยพบในภูมิแพ้
สีของน้ำมูก ใสหรือเหลืองข้น  อาจเป็นสีเขียวในบางกรณี ใส  บางครั้งน้ำมูกอาจเป็นสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองหรือมีน้ำมูกข้นเหนียว
อาการอื่นๆ ไอ  เจ็บคอ  ไข้ (บางราย)  ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  อ่อนเพลีย คันตา  น้ำตาไหล  คัดจมูก  จาม  หายใจเสียงหวีด  หอบหืด (บางราย)
ปัจจัยกระตุ้น อากาศเย็น  การสัมผัสกับผู้ป่วย  ความเครียด  การอดนอน สารก่อภูมิแพ้ เช่น เกสรดอกไม้  ไรฝุ่น  ขนสัตว์  เชื้อรา  ฝุ่นละออง  ควัน
การรักษา พักผ่อน  ดื่มน้ำมากๆ  ใช้ยาแก้ไอ  ยาแก้คัดจมูก  ยาแก้ไข้ (ตามอาการ) หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้  ใช้ยาแก้แพ้  ยาพ่นจมูก  ยาหยอดตา  (ตามแพทย์สั่ง)

 สาเหตุที่พบบ่อย

หวัด: สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ระยะเวลามักมีอาการอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการอื่นๆ มักมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำมูก มักเริ่มเป็นน้ำใส เปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือเหลืองเมื่อเวลาผ่านไป

ภูมิแพ้: สาเหตุเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น แพ้อากาศ แพ้อาหาร หรือ แพ้ขนสัตว์ ระยะเวลามักมีอาการเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ ขึ้นอยู่กับสารก่อภูมิแพ้ อาการอื่นๆ มักมีคันตา น้ำตาไหล คัดจมูก จาม หายใจลำบาก หายใจเสียงหวีด น้ำมูก มักเป็นน้ำใส

อาการคันจมูก น้ำมูกไหล อาจเกิดจาก  หวัด ภูมิแพ้ หรือ สาเหตุอื่นๆ เช่น การสัมผัสกับมลพิษทางอากาศ อากาศแห้ง อาหารบางชนิด ยาบางชนิดจำเป็นต้องสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อประกอบการวินิจฉัย

แนวทางการวินิจฉัยที่แน่ชัด

การปรึกษาแพทย์ แพทย์จะซักถามประวัติอาการ ตรวจร่างกาย และอาจส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การทดสอบภูมิแพ้ การทดสอบภูมิแพ้ เป็นการทดสอบเพื่อหาสารที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้

การรักษา

หวัด มักรักษาตามอาการ เช่น ทานยาแก้ปวด ยาลดไข้ หรือยาแก้ปวดลดไข้สูตรผสมหากมีอาการร่วม ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ พักผ่อนให้เพียงพอ

ภูมิแพ้ แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ พร้อมแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ในการทานยาแก้แพ้ หรือ ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines) เพื่อบรรเทาอาการแพ้ต่างๆ เช่น น้ำมูกไหล คันจมูก คันตา ผื่นคัน ลมพิษ โดยยาแก้แพ้กลุ่มไม่ง่วง (Non-sedating antihistamines) เช่น Loratadine พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันอาการกำเริบ อาจแนะนำยาพ่นจมูก หรือใช้ยาหยอดจมูก หากมีอาการร่วมด้วย

การดูแลตัวเองเมื่อเป็นหวัดที่มีอาการคันจมูก น้ำมูกไหล

1. การพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายที่พักผ่อนเพียงพอจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นและต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นและช่วยขับเสมหะ

3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง กะหล่ำปลี

4. ใช้น้ำเกลือล้างจมูก น้ำเกลือช่วยลดอาการคัดจมูกและช่วยชะล้างสิ่งสกปรกในโพรงจมูก

5. ประคบน้ำอุ่น การประคบน้ำอุ่นที่บริเวณใบหน้าหรือลำคอช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและเจ็บคอ

6. สูดดมไอน้ำ การสูดดมไอน้ำจากน้ำร้อนผสมเกลือหรือน้ำมันหอมระเหยช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก

7. ใช้ยาลดอาการ ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยาลดไข้ สามารถช่วยบรรเทาอาการหวัดได้

การดูแลตัวเองเมื่อมีอาการคันจมูก น้ำมูกไหล จากภูมิแพ้

การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันและลดอาการภูมิแพ้ โดยเฉพาะสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ เชื้อรา ควันบุหรี่ มลพิษทางอากาศ

แนวทางการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

1. ทำความสะอาดบ้าน: ดูดฝุ่นและเช็ดถูพื้นเป็นประจำ ล้างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าม่าน ตุ๊กตาบ่อยๆ

2. สวมหน้ากาก: สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกไปข้างนอก โดยเฉพาะในที่มีฝุ่นละอองหรือมลพิษทางอากาศสูง

3. อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า: อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากกลับมาจากข้างนอก

4. ไม่สูบบุหรี่: หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และควันบุหรี่

5. ดูแลสัตว์เลี้ยง: อาบน้ำสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ เก็บขนสัตว์ออกจากห้องนอน

6. ใช้เครื่องฟอกอากาศควบคุมความชื้น: เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA filter และรักษาความชื้นในบ้าน

7. ใช้ยาลดอาการ ยาแก้แพ้หรือ ยาต้านฮีสตามีน เพื่อบรรเทาอาการแพ้ต่างๆ เช่น น้ำมูกไหล คันจมูก คันตา ผื่นคัน

อาการคันจมูก น้ำมูกไหล ที่ควรพบแพทย์

โดยทั่วไปแล้ว อาการคันจมูก น้ำมูกไหล มักเกิดจากหวัดหรือภูมิแพ้ ซึ่งสามารถรักษาด้วยตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ควรไปพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้

1. อาการไม่ดีขึ้น: อาการคันจมูก น้ำมูกไหล ไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการรุนแรงขึ้น

2. มีไข้สูง: อุณหภูมิร่างกายมากกว่า 38 องศาเซลเซียส

3. มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย: เจ็บคอ ปวดหู ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ไอมีเสมหะเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง

4. มีอาการไซนัสอักเสบ: ปวดบริเวณใบหน้าหรือรอบดวงตา บวมแดง มีเสมหะเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง

5. มีภาวะแทรกซ้อน: หายใจลำบาก หายใจเป็นเสียงหวีด หูอื้อ ปวดหู

6. เป็นกลุ่มเสี่ยง: เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคไต

นอกจากนี้ ควรปรึกษาแพทย์หากเป็นเรื้อรัง ไม่แน่ใจว่าเป็นหวัดหรือภูมิแพ้ และ ต้องการทราบสาเหตุของอาการคันจมูก น้ำมูกไหล เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง

เอกสารอ้างอิง

1. Lexicomp. (n.d.). Loratadine: Drug information. UpToDate. Retrieved January 31, 2024.

2. Matzke GR, Halstenson CE, Opsahl JA, Hilbert J, Perentesis G, Radwanski E, Zampaglione N. Pharmacokinetics of loratadine in patients with renal insufficiency. J Clin Pharmacol. 1990 Apr;30(4):364-71. doi: 10.1002/j.1552-4604.1990.tb03607.x. PMID: 2140371.

3. Hilbert J, Radwanski E, Affrime MB, Perentesis G, Symchowicz S, Zampaglione N. Excretion of loratadine in human breast milk. J Clin Pharmacol. 1988 Mar;28(3):234-9. doi: 10.1002/j.1552-4604.1988.tb03138.x. PMID: 2966185.

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscription

  • This field is for validation purposes and should be left unchanged.
Ask the Expert Close