เตือนภัยฝุ่นPM2.5 !! ทำป่วยแล้วกว่าแสนราย ใส่หน้ากาก พกยาแก้แพ้ไว้เลย!

28 มิ.ย. 24

เตือนภัยฝุ่นPM2.5

 

เตือนภัยฝุ่นPM2.5 ! นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น พบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศกว่าแสนรายแล้ว GED good life ขอแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยชนิด N95 (หรือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ก็ได้) พร้อมพกยาแก้แพ้ เพื่อบรรเทาอาการแพ้จากฝุ่น PM2.5 อย่างทันท่วงที

อัลเลอร์นิค ชนิดเม็ด (Allernix™ tablet) ยาบรรเทาอาการแพ้

สธ. เผย! มีผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ รวม 212,674 ราย

ข้อมูลจากระบบรายงานสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 24 มกราคม 2566 พบว่า มีผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ รวม 212,674 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ ซึ่งได้ให้สถานพยาบาลทุกแห่งเตรียมความพร้อม ยาและเวชภัณฑ์ เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยจากปัญหามลพิษทางอากาศแล้ว

นายแพทย์โอภาส จึงกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากจังหวัดใดที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกิน 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันเกิน 3 วัน ให้พิจารณาเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Public Health Emergency Operation Center : PHEOC) เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างเป็นระบบ

เตือนภัยฝุ่นPM2.5! ช่วงวันที่ 22 – 28 ม.ค. 66 อัตราการระบายค่อนข้างอ่อน

คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ตั้งแต่ช่วงวันที่ 22 – 28 ม.ค. 66 อัตราการระบายค่อนข้างอ่อน (น้อยกว่า2,000-4,000m2/s) (ยกเว้นวันที่ 28 อัตราการระบายอากาศดีมาก) แต่เนื่องจากเกิดสภาวะอากาศปิดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มค่อนข้างทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย และวันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา

และช่วงวันที่ 27-28 มกราคม 2566 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ประกอบกับมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เข้ามา โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่พื้นที่ กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้

 

 

4 อาการร้ายเงียบของฝุ่นPM2.5 ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน!

ผลกระทบจากฝุ่นพิษ PM 2.5 ใคร ๆ ก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า จะทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น น้ำมูกไหล ไอ จาม คันจมูก คันตา เป็นต้น แต่ยังมีผลกระทบร้ายแรงที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ และมีผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจโดยตรง ดังต่อไปนี้

1. ซึมเศร้า

PM2.5 เป็นพิษต่อระบบประสาท อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตายได้ โดยมีรายงานผลการศึกษาข้อมูลทั่วโลกล่าสุดของแพทย์หญิง อิโซเบล เบรทเวต (Dr Isobel Braithwaite) จาก University College London หัวหน้าคณะวิจัยพบว่า คนที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางมลพิษทางอากาศมีอัตราการเป็นโรคซึมเศร้า และฆ่าตัวตายสูงขึ้น

ทำแบบประเมินโรคซึมเศร้า -> คลิกที่นี่

2. สติปัญญาด้อยลง

PM2.5 ทำให้สมองอักเสบ สมองเสื่อมเร็วกว่าปกติ มีผลทำให้เกิดภาวะสมาธิสั้น สติปัญญาด้อยลง

3. คลอดก่อนกำหนด

เด็กที่ออกมามีขนาดเล็ก น้ำหนักน้อยกว่าปกติ มีโอกาสเป็นออทิสติกสูงขึ้น ฉะนั้นสตรีตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์เพื่อป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษ

4. ผิวหนังแก่เร็ว

การสัมผัสกับฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวเสื่อมชราได้เร็วยิ่งขึ้น ฝุ่นทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายผิวหนัง รวมถึงจุดด่างดำบนชั้นผิวหนังด้วย และเสี่ยงเป็นโรคกลุ่มมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงมาก เราทุกคนควรปกป้องผิวหนังให้สัมผัสกับฝุ่นดังกล่าวให้น้อยที่สุด เช่น การใส่เสื้อแขนยาว การทาครีมปกป้องผิว เป็นต้น ยิ่งในคนที่มีโรคผิวหนังอยู่เดิมควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบมากยิ่งขึ้น

ปัญหาแพ้ฝุ่นจบได้ด้วย ยาแก้แพ้ “ลอราทาดีน” ไม่ทำให้ง่วงนอน

ลอราทาดีน (Loratadine) เป็นยารักษาภูมิแพ้กลุ่มใหม่ หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่ายาต้านอีสทามีน กลุ่มที่ ไม่ทําให้ง่วงนอน (non-sedating antihistamines) ออกฤทธิ์นานถึง 24 ชั่วโมง ใช้ลดอาการที่เกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ เช่น คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คันตา บรรเทาอาการน้ำมูกไหล ใช้รักษาลมพิษ และโรคผิวหนังที่เกิดจากภูมิแพ้

ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยาต้านฮีสตามีนกลุ่มดั้งเดิม แต่ยาในกลุ่มนี้ผ่านเข้าสมองได้น้อยมาก จึงทําให้อาการข้างเคียง เช่น อาการง่วงนอน พบได้น้อย หรือผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการง่วงนอนเลยหลังจากกินยานี้ ทําให้ไม่ส่งผลเสียในการดําเนินชีวิตประจําวัน

รูปแบบ และ ปริมาณการใช้ยา ลอราทาดีน

– เด็กอายุ 2-5 ปี รับประทานชนิดน้ำ 5 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง โดยยาน้ำส่วนใหญ่จะมีความเข้มข้น 5 มิลลิกรัม ต่อ 5 มิลลิลิตร

– เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป รับประทานยา 10 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง สามารถใช้ได้ทั้งยารูปแบบเม็ด และแคปซูล

– ผู้ใหญ่ รับประทานยา 10 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ดังนั้นยา Loratadine ชนิดเม็ตส่วนใหญ่จึงมีขนาด 10 มิลลิกรัม เพื่อให้สะดวกในการรับประทานเพียงวันละครั้ง

“ยาแก้แพ้ ไม่ใช่ยาอันตราย” แต่ควรใช้ให้ถูกต้อง สามารถปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา

 

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้  ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่

อ้างอิง : 1. mgronline 2. University College London 3. gedgoodlife

บทความที่เกี่ยวข้อง

askexpert

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เเละด้านฟังก์ชั่น

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาสินค้า/บริการและเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ประเมิน และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้โฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
    Cookies Details

Save