จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่หันมาสร้างครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น โดยหลายคนเลือกที่จะอยู่กันลำพัง และบางคนเลือกที่จะมีเลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้าน เพื่อคลายความเหงา และต้องการมีกิจกรรมทำ ซึ่งงานวิจัยหลายชิ้นในปัจจุบันก็แสดงให้เห็นถึงข้อดีของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้แก้เบื่อคลายเหงา ป้องกันอาการซึมเศร้าได้ไม่น้อย
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังสนใจมองหาสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักมาสร้างครอบครัวในบ้านแล้วละก็ วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ ที่ช่วยให้คุณเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านได้อย่างมีความสุข และปลอดภัยจากอาการภูมิแพ้มาฝากกัน
- ฟัดด้วยทีไร ฮัดเช่ยทุกที! ภูมิแพ้ขนสัตว์ สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา
- อยากเลี้ยงแมว แต่เป็น “ภูมิแพ้ขนแมว” ควรทำไงดี?
- 4 โรคภูมิแพ้ ยอดฮิตของคนไทย! สาเหตุ อาการ วิธีรักษา
5 เช็คลิสต์สำคัญ สำหรับชาวภูมิแพ้ที่คิดจะมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน
1. เช็คให้ชัวร์ก่อนรับมาเลี้ยง
จากสถิติพบว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากถึง 10% มีอาการแพ้สัตว์เลี้ยง โดยปรากฎอาการ คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม และอาการแพ้อื่น ๆ ซึ่งทางที่ดีคุณควรหาทางสังเกต ตนเองเมื่อเข้าใกล้สัตว์ชนิดใดในอดีตที่ก่อนให้เกิดอาการดังกล่าว โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย ได้แก่ สุนัข แมว หนู และกระต่าย เพื่อทำการประเมิณก่อนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงชนิดนั้นๆ
2. ความสะอาดภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ
คุณควรทราบ และทำใจยอมรับล่วงหน้าว่า การมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ยิ่งต้องเพิ่มความใส่ใจในด้านการดูแลทำความสะอาดบ้านมากยิ่งขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปฎิกูลทั่วไป เช่นอุจาระ ปัสสวะของสัตว์เหล่านั้น ที่อาจส่งกลิ่ง และทิ้งร่องรอยไว้ตามบริเวณต่าง ๆ ในบ้านคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีอาการภูมิแพ้แล้ว คุณควรทราบว่าโรคภูมิแพ้ของคุณนั้นตอบสนองต่อโปรตีนที่มีอยู่ในน้ำลายสัตว์เลี้ยง ปัสสาวะ และสะเก็ดผิวหนัง (ผิวหนังที่ตายแล้วของสัตว์เลี้ยง) ซึ่งกระจายอยู่ในรูปของฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยงยังสามารถดักรา ละอองเรณู และสารก่อภูมิแพ้กลางแจ้งอื่น ๆ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ซึ่งหลายคนมักเขาใจผิดว่าสาเหตุที่อาการภูมิแพ้แย่ลงนั้น เป็นเพราะขนของสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ซึ่งทางที่ดีที่สุด คือการหมั่นเช็ดถูทำความสะอาดบริเวณผิวสัมผัสต่าง ๆ ภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอซึ่งเป็นการช่วยลงโปรตีนที่ตกค้างภายในบ้านได้อีกวิธีหนึ่ง หรืออาจให้สัตว์เลี้ยงอยู่เพียงบริเวณภายนอกบ้านเท่านั้น
3. อาบน้ำ ชำระล้างสิ่งสกปรกเป็นประจำ
หลายท่านที่ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงอาจไม่เคยทราบว่าสัตว์เลี้ยงก็ต้องการการดูแลอาบน้ำขัดถูกทำความสะอาดไม่ต่างจากคนเรา แม้บางตัวอาจจะไม่ค่อยถูกกับน้ำเท่าใดนัก โดยเฉพาะน้องแมว แต่การอาบน้ำนั้นเป็นวิธีในการทำความสะอาด และช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ผิวหนังของพวกมันได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งการอาบน้ำสัตว์เลี้ยงก็เป็นอะไรที่คุณเองสามารถทำได้เอง เริ่มต้นที่การแปรงขนที่พันกันเป็นก้อน และขนที่หลุดร่วงออกจากตัวก่อน
จากนั้นค่อย ๆ ใช้ระดับน้ำที่ไม่แรง ฉีดไปตามตัว พร้อมกับฟอกแชมพูสำหรับอาบน้ำ โดยระวังอย่าให้ฟองเข้าตา ต่อด้วยการล้างน้ำสะอาดให้หมดจด และสิ่งสำคัญคือการเช็ดเป่าขนให้แห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณข้อพับต่าง ๆ เพื่อป้องกันการอับชื้น
4. รักแค่ไหน ก็ต้องหักห้ามใจ การจูบ หอม กอด สัตว์เลี้ยง สำหรับคนปกติทั่วไปอาจเป็นสิ่งธรรดา แต่สำหรับคนที่มีอาการภูมิแพ้ หรือมีประวัติกลับเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงแสนรัก ตัวโปรดของคุณจะน่าฟัด น่าหมั่นเขี้ยวเพียงใด คุณก็ควรหักห้ามใจไม่สัมผัสใกล้ชิด ดังเช่นการหอมกอดจูบ และหากเผลอทำไป ควรล้างมือ หน้าและตัวด้วยสบู่ทุกครั้งหลังทันทีที่มีการสัมผัส
ซึ่งบางท่านอาจได้ยินคำพูดจากผู้รักสัตว์เลี้ยงบอกต่อ ๆ กันมาว่า เลี้ยง ๆ ไปก็มีภูมิต้านทานมากขึ้นเอง ซึ่งไม่จริงทั้งหมด หากคุณได้รับการยืนยันแล้วว่ามีอาการแพ้สัตว์เลี้ยง และอาการแพ้มักจะปรากฎชัด หรือรุนแรงทุกครั้งที่สัมผัส หรือได้รับสารกระตุ้นเพิ่มเติม คุณควรที่จะหลีกเลี่ยง และหาวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงที่ปลอดภัยต่อตัวคุณ
อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ยืนยันว่าการสัมผัสกับแมวสุนัข และสัตว์อื่น ๆ ในวัยเด็กอาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ในภายหลังได้ ในการศึกษาเด็ก 8,000 คน นักวิจัยพบว่าเด็ก ๆ ที่สัมผัสกับแมวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อายุหนึ่งขวบมีโอกาสน้อยกว่าคนอื่น ๆ ถึง 67% ที่จะเป็นโรคภูมิแพ้
5. หาตัวช่วยเพื่อรับมือกับอาการแพ้
สารก่อภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงที่เรียกว่าโปรตีนนั้น มีอานุภาคเล็กกว่า 10-20 ไมครอน ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็น จึงสามารถล่องลอยอยู่ในอากาศ และรูปร่างที่ขรุขระของมันยังสามารถเกาะติดอยู่ตามตัว หรือเสื้อผ้าได้นาน และพร้อมจะติดตามคุณออกนอกบ้านไปได้ทุกแห่งหน และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมหลายคน แม้ไม่ได้อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงในบ้าง เช่นเดินทางไปทำธุระนอกบ้านอาการก็ยังปรากฎ และที่ซ้ำร้ายกว่านั้น สารก่อภูมิแพ้สัตว์เลี้ยงเหล่านี้สามารถอยู่ในอากาศได้นานเป็นเวลาหลายเดือนแม้สัตว์เลี้ยงจะหายไป
ซึ่งสิ่งที่แนะนำ คือการเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA filter เพื่อลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์ที่ฟุ้งอยู่ในอากาศ ให้ลดน้อยลงให้ได้มากที่สุด รวมถึงหากมีอาการเพิ่มมากขึ้น ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว การพิจารณาใช้ยาต้านฮีสตามีน ยาพ่นจมูก พ่นเข้าปาก ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วงป้องกันอาการกำเริบให้กับคุณได้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายท่านอาจเริ่มลังเลสงสัยว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะเพิ่มภาระให้กับการทำงานบ้าน และดูแลสุขภาพคุณให้ลำบากมากยิ่งขึ้นหรือไม่ ซึ่งหากใครมั่นใจว่านี่คือรักแท้ระหว่างคุณกับสัตว์เลี้ยงแสนรักก็มุ่งหน้ามองหาสมาชิกใหม่ในครอบครัวได้เลย แต่สำหรับคนที่คิดไม่ตก และกังวลกับปัญหาภูมิแพ้ รวมถึงการดูแลความสะอาดต่าง ๆ แล้วละก็ ลองพิจารณามองหาสัตว์เลี้ยงดูจะเป็นมิตรต่ออาการภูมิแพ้คุณมากขึ้นเช่นสัตว์ที่ไม่มีสะเก็ดผิวหนัง เช่น ปลา เต่าหรือสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งเช่นกัน