โชติมา หาญณรงค์
ผู้ชำนาญการด้านเภสัชกรรม
“โรคหอบ” หรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า โรคหอบหืด (Asthma) เป็นภาวะเรื้อรังที่เกิดจากการอักเสบของทางเดินหายใจ ที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย โดยเฉพาะในเด็ก โรคนี้เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก หลอดลมตีบแคบ มีเสียงหวีด ไอเรื้อรัง และมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ อากาศเย็น หรือการออกกำลังกายหนัก เมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ หลอดลมจะตีบแคบลง และทำให้เกิดอาการหอบหืด เช่น หายใจลำบาก ไอ มีเสียงหวีดขณะหายใจ และแน่นหน้าอก
โรคหอบเป็นกรรมพันธุ์หรือไม่?
หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยว่าโรคหอบหืดสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปยังลูกหลานได้หรือไม่? คำตอบคือจากงานวิจัยจำนวนมากชี้ให้เห็นว่า โรคหอบหืดมีความเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้เกิดโรค ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้จะต้องเป็นโรคหอบหืดเสมอไป โดยพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญในการเกิดโรคหอบหืด หากพ่อแม่มีประวัติเป็นโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้ ลูกก็จะมีโอกาสเป็นโรคหอบหืดสูงขึ้น หากพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคหอบหืด โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 25-50% และหากทั้งพ่อ และแม่เป็น โอกาสจะสูงถึง 50-70% ถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนังหรือแพ้อาหาร ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหอบหืด นอกจากกรรมพันธุ์ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ เช่น การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตาม สิ่งแวดล้อม การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ การติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจ หรือมลพิษในอากาศ มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นทำให้โรคหอบกำเริบหรือพัฒนา
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคหอบหืด
- สารก่อภูมิแพ้: สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์เลี้ยง และมลพิษทางอากาศ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดได้
- การติดเชื้อทางเดินหายใจ: การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ สามารถทำให้อาการหอบหืดกำเริบได้
- การสูบบุหรี่: ทั้งผู้สูบบุหรี่และผู้ที่สูดดมควันบุหรี่มือสอง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหอบหืดสูงขึ้น
- ภาวะอ้วน: ภาวะอ้วนมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหอบหืดในเด็กและผู้ใหญ่
- การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายอย่างหนักอาจกระตุ้นให้อาการหอบหืดกำเริบได้ในบางคน
การดูแลลูกน้อยเมื่อโรคหอบกำเริบ
โรคหอบหืดในเด็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่หลายคนกังวล เมื่อลูกน้อยมีอาการหอบกำเริบ การรู้วิธีดูแลอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
หากลูกน้อยมีอาการหอบหืดกำเริบ ผู้ปกครองควรปฏิบัติดังนี้:
- ตั้งสติ และควบคุมสถานะการณ์ พร้อมให้กำลังใจลูก เด็กที่มีอาการมักจะรู้สึกตกใจหรือกลัว อาจทำให้อาการแย่ลง พยายามทำให้ลูกสงบ และผ่อนคลาย
- ให้ยารักษาตามที่แพทย์สั่ง ยาขยายหลอดลมเป็นยาที่ใช้บรรเทาอาการหอบหืดฉุกเฉิน ให้ลูกน้อยใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง และสอนวิธีการใช้ทันทีตามคำแนะนำ หากไม่มีควรรีบนำส่งโรงพยาบาล
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นในทันที พาลูกออกจากพื้นที่ที่มีสารกระตุ้น เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ หรืออากาศเย็น พาลูกนั่งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หาที่นั่งที่อากาศถ่ายเทสะดวก เช่น หน้าต่าง หรือระเบียง ช่วยให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวกขึ้น
- นั่งในท่าที่สบาย ให้ลูกนั่งตัวตรง หรือนั่งก้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เพราะช่วยเปิดทางเดินหายใจ
- ติดตามอาการ หากอาการของลูกน้อยไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยา หรือหายใจลำบากมากขึ้น หรือมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น หายใจลำบากมากขึ้น หอบเสียงดัง หรือหน้าเขียว ควรติดต่อแพทย์ทันที รีบนำส่งโรงพยาบาล
การป้องกันและดูแล
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ฝุ่นละอองในบ้าน เกสรดอกไม้ ขนสัตว์เลี้ยง ควันบุหรี่ และอากาศเย็น
- ควบคุมสภาพแวดล้อม ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม ล้างผ้าปูที่นอน หมอน ปลอกหมอน บ่อย ๆ ใช้เครื่องกรองอากาศเพื่อลดฝุ่นละอองและมลพิษในอากาศ ทำให้บ้านควรสะอาด ปราศจากฝุ่นและเชื้อรา
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ปอดแข็งแรง แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกำลังกาย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะผัก และผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- พาลูกไปพบแพทย์ตามนัด การติดตามอาการกับแพทย์เป็นประจำจะช่วยให้แพทย์สามารถปรับเปลี่ยนแผนการรักษาได้ตามความเหมาะสม
- ให้ยาป้องกันตามแพทย์สั่ง หากลูกจำเป็นต้องใช้ยาควบคุม
- เสริมภูมิคุ้มกัน ด้วยการฉีดวัคซีน เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ
- ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงของปอด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการออกกำลัง
- สังเกตอาการของลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เช่น ความถี่ของการหายใจ สีหน้า และระดับความอิ่มตัวของออกซิเจน (หากมีเครื่องวัด) เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบ
- หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลลูกน้อย ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคหืดหรือภูมิแพ้เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบุตรหลานของคุณ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- เตรียมยาฉุกเฉิน: ควรพกยาขยายหลอดลมติดตัวลูกน้อยไว้เสมอ เพื่อใช้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- สอนลูกให้รู้จักอาการของตัวเอง: สอนลูกให้รู้จักสังเกตอาการของตัวเอง และบอกพ่อแม่เมื่อรู้สึกไม่สบาย
- ปรึกษาแพทย์: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลลูกน้อย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- การดูแลลูกน้อยที่เป็นโรคหอบหืดต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และการดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้ลูกน้อยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- แม้ว่าพันธุกรรมจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เราก็สามารถป้องกันและควบคุมโรคหอบหืดได้ โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้ และการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การรักษาโรคหอบหืดมุ่งเน้นไปที่การควบคุมอาการให้ดีขึ้น และป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยา การทำกายภาพบำบัด และการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น
สรุป
โรคหอบหืดเป็นโรคที่มีความซับซ้อน เกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ทั้งพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม แม้โรคหอบหืดมีความเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่กำหนดว่าลูกจะเป็นโรคนี้ การรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงวิธีการป้องกันโรคหอบหืด และ การดูแลสิ่งแวดล้อมและลดปัจจัยเสี่ยงในชีวิตประจำวันมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและลดความรุนแรงของโรค นอกจากนี้ การปรึกษาแพทย์และการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตอย่างมีสุขภาพแข็งแรงแม้มีความเสี่ยงจากกรรมพันธุ์สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและลูกหลานได้อย่างเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
- Global Initiative for Asthma (GINA). (2023). Global strategy for asthma management and prevention. Retrieved from https://ginasthma.org
- World Health Organization (WHO). Asthma: Key facts and management guidelines. Retrieved from https://www.who.int
- Mayo Clinic. Asthma overview and care for children. Retrieved from https://www.mayoclinic.org
- American Academy of Allergy, Asthma, and Immunology (AAAAI). (n.d.). Asthma management in children. Retrieved from https://www.aaaai.org
- ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย. แนวทางการดูแลผู้ป่วยเด็กที่มีโรคหืด. Retrieved from https://www.thaipediatrics.org
- สมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย. ข้อมูลสำหรับประชาชนเกี่ยวกับโรคหอบหืด. Retrieved from https://www.taaai.or.th