5 สัญญาณอันตรายจากผิวหนัง ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม!

27 มิ.ย. 24

สาว ๆ ส่องกระจกเพื่อเช็กดูความสวยกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ลองเช็กดูผิวของคุณด้วย เพราะบางทีผิวอาจส่ง สัญญาณอันตรายจากผิวหนัง ว่าคุณมีโรคร้ายซ่อนอยู่ก็ได้นะ ดูอย่าง Eva Longoria ดาราสาวคนสวยสิ มีปัญหาใต้ตาคล้ำจนต้องพยายามโบ๊ะด้วยคอนซีลเลอร์เยอะ ๆ แต่พอเจอไฟแล้วมันฟ้องอ่ะ

ถ้า : ใต้ตาแพนด้ามาก โบ๊ะอายครีมก็ไม่ช่วย

สัญญาณเตือน : เชื่อว่าสาเหตุแรกที่สาว ๆ นึกถึงก็คือ นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่นักวิจัยจาก Sydney’s Nature Care College เตือนว่า บางทีใต้ตาที่ดำคล้ำมาก ๆ และผิวคล้ำขึ้น ไม่สดใส อาจเกิดจากไตกรองของเสียได้ไม่ดีพอก็ได้

คุณควร : กำจัดปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ใต้ตาดำออกไปเสียก่อน เช่น เข้านอนให้เร็วขึ้น พักผ่อนให้เต็มที่ หากยังไม่ดีขึ้นหรือยังไม่สบายใจก็ไปเจาะเลือดเพื่อตรวจดูค่าการทำงานของไตกันสักนิด

ถ้า : อยู่ดี ๆ ผิวก็เหลืองอย่างกับพอกขมิ้น

สัญญาณเตือน : อย่าดีใจคิดว่าผิวสวย เพราะนี่อาจหมายความว่าตับอักเสบ และทำงานผิดปกติ เป็นนิ่ว หรือเนื้องอกที่ทำให้ท่อหรือถุงน้ำดีอุดตันก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่ทำให้น้ำดีออกมาคั่งในร่างกายหรือที่เรียกกันว่า “ดีซ่าน” ทั้งสิ้น

คุณควร : สังเกตเพิ่มเติมว่าเยื่อบุตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองด้วยหรือไม่ หรือถึงแม้ผิวไม่เหลืองแต่ตาเหลืองก็อย่าวางใจ บางทีอาจเป็นเพราะสีผิวคุณเข้มจนเห็นการเปลี่ยนแปลงไม่ชัดเจนก็ได้

ถ้า : สิวบุกเต็มหน้าทั้งที่ไม่ได้แพ้อะไร

สัญญาณเตือน : ไม่ได้กินเยอะ ไม่ได้ตั้งท้อง แต่น้ำหนักตัวดันพุ่งพรวดพราด หน้ามัน สิวเห่อ แถมยังมีหนวด ขนดกตามแขน ขา และลำตัว นี่อาจเป็นเพราะฮอร์โมนที่ผิดปกติไปเนื่องจากมีถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic Ovary Syndrome: PCOS) ก็ได้

คุณควร : หยุดเครียดและหันมาออกกำลังกายบ้าง แต่หากกินยาปรับฮอร์โมนต้องให้หมอจัดยาให้เท่านั้น และถ้าคุณอ้วน สิ่งแรกที่ต้องทำคือลดน้ำหนักให้ได้ เพราะเมื่อผอมลงการทำงานของระบบฮอร์โมนก็จะกลับมาเป็นปกติเอง

ถ้า : คันทั้งตัวจนนอนแทบไม่ได้

สัญญาณเตือน : ทั้งๆ ที่ไม่มีผื่นแพ้หรือเป็นลมพิษ แต่คุณกลับคันไปทั้งตัวจนไปรบกวนการนอน หรือมีอาการคันหลังอาบน้ำ นี่อาจเป็นเพราะมีของเสียสะสมในร่างกาย เนื่องจากตับหรือไตทำงานไม่ปกติ และยังเป็นอาการแสดงเบื้องต้นของโรคเลือดบางชนิดได้ด้วย

คุณควร : เช็กให้แน่ใจว่าต้นเหตุไม่ได้มาจากแค่อาการผิวแห้งธรรมดา

ถ้า : จิบแอลกอฮอล์นิดเดียวแล้วหน้าแดงก่ำ

สัญญาณเตือน : นี่อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่งานวิจัยล่าสุดจาก Chungnam National University ของเกาหลีใต้บอกว่า คนที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วหน้าแดงเร็ว มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงซ่อนอยู่มากกว่าคนอื่นถึง 2.27 เท่า

คุณควร : ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้ด้วยการดื่มให้น้อยลง งดสูบบุหรี่ ลดความเครียด ไม่กินรสเค็มจัด และควรตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ หากได้ค่าที่สูงกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทก็ควรไปพบแพทย์ ก่อนที่โรคหัวใจและหลอดเลือดสมองจะมาเยือน