-
ผู้สร้างกระทู้
-
Aoyผู้เยี่ยมชม
ปกติเป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติค่ะ ไปพบหมอที่โรงพยาบาลเขาไห้ทานยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนค่ะ ทานมาประมาณ6้ดือนค่ะ วันที่14กุมภาประจำเดือนมาค่ะก็เลยไม่ได้ทานต่อเนื่อง หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์กับแฟนไม่สวมถุงยางหลังนอกค่ะ จนถึงตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ ใครชุดตรวจครรภ์ก็1ขีดค่ะตรวจ4รอบแล้ว และมีอาการตกขาวค่ะสีขาวขุ่นพอตกขาวเริ่มจากก็รู้สึกคัดเต้านมค่ะประมาณ3-4วันตอนี้อาการคัดเต้านมเริ่มหายแล้วค่ะ มีอาการจุกขณะมีเพศสัมพันธ์และหลังมีเพศสัมพันธ์ด้วยค่ะ แบบนี้ท้องไหมคะ
-
ผู้สร้างกระทู้
-
ผู้เขียนข้อความตอบกลับ
-
GedGoodLifeKeymaster
สวัสดีค่ะ คุณAoy
หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่ได้มีการหลั่งในช่องคลอดโดยตรง หรือหลั่งใกล้บริเวณช่องคลอด ในกรณีนี้ก็จะมีโอกาสน้อยมากที่จะตั้งครรภ์ค่ะ ในส่วนของการที่ประจำเดือนที่ขาดหายไปดังกล่าวนั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ อาจเกิดจากความแปรปรวนของฮอร์โมน ซึ่งสัมพันธ์กับความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอได้ค่ะ หรืออาจเกิดจากการรับประทานยาคุมหรือยาบางชนิด หรือมีน้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป หรือมีความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ก็เป็นได้ค่ะ
ดังนั้น ควรจะได้รับการตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ แต่หากยังกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ อาจจะลองตรวจดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจนะคะ ซึ่งโดยทั่วไปควรตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ10-15 วันค่ะ และควรตรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยเว้นระยะทดสอบประมาณ 2-3 วัน
เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ ควรตรวจหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือก่อนรับประทานอาหารเพื่อไม่ให้มีสารเจือปนในปัสสาวะซึ่งอาจจะส่งผลให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนได้ค่ะ
: คำตอบนี้เป็นการให้การแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล
-
ผู้เขียนข้อความตอบกลับ