ใครที่มีเสมหะเยอะ มีเสมหะเป็นประจำ มารวมกันทางนี้เลย!! เพราะเสมหะที่มีมากจนเกินไป อาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ไม่สบายคอ แถมยังเสียบุคลิกภาพอีกด้วย! วันนี้ Ged Good Life จึงขอเสนอ “6 อาหารช่วยลดเสมหะเหนียวข้น” ที่แพทย์แนะนำ ใครที่มีเสมหะเยอะ ต้องไม่พลาด ควรหามากินกันแล้วล่ะ จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!
- เสมหะตอนเช้า บ่งบอกโรคอะไร แก้ไขยังไงดี?
- สีเสมหะ บอกโรคอะไรเราได้บ้าง?
- ยาแก้ไอละลายเสมหะ “คาร์โบซิสเทอีน” สรรพคุณ วิธีใช้ให้ถูกต้อง ปลอดภัย
6 อาหารช่วยลดเสมหะเหนียวข้น
นพ.วินัย โบเวจา หมอโรคปอดและทางเดินหายใจ ได้กล่าวไว้ในช่อง Youtube ส่วนตัวว่า “เทคนิคที่ผมใช้ในการลดเสมหะ คือ ผัก ผลไม้ สมุนไพรพื้นเมือง โดยอาศัยฤทธิ์ละลายเสมหะ ลดการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ และบางรายอาศัยฤทธิ์การยับยั้งการเจริญของเชื้อโรคไวรัส และแบคทีเรีย” โดยมี 6 อาหาร ดังนี้
1. กระเทียม (Garlic)
การกินกระเทียมช่วยลดเสมหะ ช่วยทำให้เสมหะไม่เหนียว ไม่ข้น และทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจลดการอักเสบ ลดสารอนุมูลอิสระได้
วิธีกินเพื่อช่วยละลายเสมหะ : กินสด 1-3 เม็ด หรือคั้นกระเทียมกับน้ำมะนาว แล้วเติมเกลือใช้จิบหรือกวาดคอก็ได้
สรรพคุณอื่น ๆ ของกระเทียม : บรรเทาหวัด รักษากลากเกลื้อน ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในทางเดินอาหาร ช่วยสมานแผล ต้านเชื้อรา มีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ ลดอาการแน่น จุกเสียด เป็นต้น
2. ขิง (Ginger)
ขิง เป็นสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีฤทธิ์เผ็ดร้อน และมีเอนไซม์ช่วยละลายเสมหะ ขิงสดยังมีประสิทธิภาพต่อต้านการสะสมของเชื้อไวรัสได้ดี
วิธีกินเพื่อช่วยละลายเสมหะ :สามารถดื่มในรูปแบบชาขิงร้อน ๆ 1 ถ้วยต่อวัน หรือเคี้ยวขิงสดก็ได้ หรือนำขิงสดกับน้ำมะนาวผสมกัน แล้วใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ทานครั้งละ 1 ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการหวัด และแก้ไอได้ดี
สรรพคุณอื่น ๆ ของขิง : กำจัดพิษที่เกิดจากการติดเชื้อภายในร่างกาย ช่วยขับลมในลำไส้ ระงับการคลื่นไส้อาเจียน แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ รักษาอาการหอบหืด เป็นต้น
3. พริก (Chili pepper)
พริกมีคุณสมบัติที่ทำให้เส้นเลือดฝอยโป่ง หรือโต ทำให้น้ำมูกบางลง เช่น ตอนกินส้มตำเผ็ด ๆ จะทำให้น้ำมูกไหลเยอะ คนที่มีน้ำมูกข้นก็จะสั่งออกมาได้ง่าย ฉะนั้น พริกจึงช่วยได้มากในการลดเสมหะ
วิธีกินเพื่อช่วยละลายเสมหะ : ตำ หรือเคี้ยวพริกเป็นเม็ดได้ แล้วแต่บุคคลว่า สามารถกินพริกได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเป็นคนที่กินเผ็ดไม่ได้เลย หรือแพ้พริก ก็ให้ผ่านข้อนี้ไปกินตัวช่วยอื่น ๆ แทนได้
สรรพคุณอื่น ๆ ของพริก : ช่วยเจริญอาหาร แก้อาเจียน บิด ขับเหงื่อ ขับลม แก้ปวดเมื่อย ขับปัสสาวะ เป็นต้น
4. น้ำผึ้งมะนาว (Honey lemon)
น้ำผึ้้งผสมมะนาว มีฤทธิ์ในการละลายเสมหะ และยับยั้งการเจริญของเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ บางรายเมื่อใช้น้ำผึ้งกับมะนาว กลับรู้สึกเสมหะเหนียวกว่าเดิม อาจลดปริมาณน้ำผึ้งลง
วิธีกินเพื่อช่วยละลายเสมหะ : น้ำผึ้ง 2 – 3 ช้อน ผสมกับมะนาวครึ่งลูก ผสมกับน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง แล้วจิบทั้งวัน จะช่วยละลายเสมหะได้มาก
สรรพคุณอื่น ๆ ของน้ำผึ้งมะนาว : มะนาวมีวิตามินซี ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด และช่วยบรรเทาอาการระคายคอจากการติดเชื้อ
5. สับปะรด (Pineapple)
เมื่อไหร่ที่เสมหะเยอะ หนึ่งในผลไม้ที่ช่วยได้เป็นอย่างดี คือ สับปะรด เอนไซม์ที่อยู่ในสับปะรดมีสรรพคุณลดอาการอักเสบ และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำคอ ลดอาการไอ แก้เสมหะเหนียว และขับเสมหะได้ดี
วิธีกินเพื่อช่วยละลายเสมหะ : สามารถกินสด หรือดื่มน้ำสับปะรดก็ได้
สรรพคุณอื่น ๆ ของสับปะรด : เป็นยาระบายอ่อน ๆ ย่อยอาหารกระเพาะลำไส้ แก้กระษัย บำรุงไต ขับปัสสาวะ เป็นต้น
6. หัวหอม (Onion)
หอมแดงลูกเล็ก มีฤทธิ์ละลายเสมหะ ทำให้เสมหะไม่เหนียว
วิธีกินเพื่อช่วยละลายเสมหะ : สามารถปอกกินสด ๆ ก็ได้ หรือนำมาต้มใส่น้ำ แล้วสูดดมควันจากหัวหอม จะช่วยให้จมูกโล่ง ขับน้ำมูก ละลายเสมหะได้
สรรพคุณอื่น ๆ ของหัวหอม : แก้หวัด คัดจมูก ป้องกันมะเร็ง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลลดต่ำลงได้ ช่วยบำรุงหัวใจ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
สิ่งสำคัญ อย่าลืม! ผู้ป่วยควรหาสาเหตุของเสมหะเรื้อรังให้เจอ
ถึงแม้ว่า อาหารช่วยลดเสมหะเหนียวข้น ทั้ง 6 ชนิดนี้ จะช่วยลดเสมหะ หรือละลายเสมหะได้ แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการวินิจฉัย หรือรักษาได้ ฉะนั้นผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพให้ดี หาสาเหตุของอาการไอให้เจอ และสามารถใช้ยาแก้ไอลดเสมหะที่มีตัวยาอย่าง คาร์โบซิสเตอีน บรอมเฮกซิน เป็นต้น ควบคู่กันไป ทั้งนี้ถ้าอาการไอยังไม่ดีขึ้น ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัย และรักษาที่ถูกต้องต่อไป…
อ้างอิง : 1. หมอวินัย โบเวจา 2. 3. bangkokbiznews 4. ข้อมูลพืชสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 5. กรมการแพทย์แผนไทยฯ