เชื่อว่าใคร ๆ ก็คงเคยมีอาการเจ็บคอกันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าหากคุณมีอาการเจ็บคอบ่อย ๆ เป็นติดต่อกันนาน เจ็บคอเรื้อรัง คงไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยผ่านได้… วันนี้ Ged Good Life จะพาไปทำความเข้าใจกับอาการเจ็บคอ และสาเหตุที่ทำให้ เจ็บคอบ่อย จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกัน!
- อาการเจ็บคอหลังตื่นนอน เกิดจากสาเหตุใด แก้ไขยังไงดี แล้วแบบไหนควรพบแพทย์?
- พูดเยอะ เจ็บคอ! คออักเสบ ภาวะติดเชื้อ ที่ควรดูแลให้ดี
- เสมหะตอนเช้า บ่งบอกโรคอะไร แก้ไขยังไงดี?
อาการเจ็บคอ (Sore Throat) เป็นอาการเจ็บป่วยอย่างหนึ่งของร่างกาย ที่สร้างความเจ็บปวด แสบร้อน ระคายเคืองเนื้อเยื่อในลำคอ สร้างความลำบากในการกลืนอาหาร และน้ำ รวมถึงการเปล่งเสียงด้วย
อาการเจ็บคอมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ แต่ถ้าคุณมีอาการ เจ็บคอบ่อย เจ็บคอทีเป็นอาทิตย์ เป็นไปได้ว่าคุณกำลังใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยงต่อการเจ็บคอเรื้อรัง เช่น ทำงานในสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะ และมลภาวะเป็นพิษ มีอาชีพที่ต้องใช้เสียงทั้งวัน หรือแม้แต่โรคประจำตัว ก็มีส่วนทำให้คุณเจ็บคอบ่อยได้เช่นกัน
“เชื้อไวรัส” และ “เชื้อแบคทีเรีย” 2 สาเหตุหลัก ทำให้เจ็บคอบ่อย
อาการเจ็บคอมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด โดยอาการเจ็บคอจากทั้ง 2 สาเหตุ มีอาการแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
1. อาการเจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส (Viral sore throat)
เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด มักเป็นผลมาจากโรคหวัด ผู้ที่มีอาการเจ็บคอจากสาเหตุนี้มักจะมีน้ำมูก ไอแห้ง คัดจมูก จาม มีไข้อ่อน ๆ รู้สึกระคายเคืองในลำคอ เสียงแหบ กลืนลำบาก คอหรือทอนซิลบวมและแดงร่วมด้วย ซึ่งอาการเจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัสมักดีขึ้นหรือหายไปได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน และยังพบได้บ่อยกว่าอาการเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย
2. อาการเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (ฺBacterial sore throat)
มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Streptococcus, Haemophilus influenzae อาการจะรุนแรงกว่าเชื้อไวรัส ทำให้มีไข้ ไอแห้ง คอ เพดานปาก ลิ้นไก่ และทอนซิลบวมแดง ปวดหัว หนาวสั่น กลืนลำบาก มีจุดหนองรอบต่อมทอนซิล หรือลิ้นเป็นฝ้าขาวร่วมกับอาการเจ็บคอ ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย แต่มักไม่มีน้ำมูลไหล และอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
สาเหตุอื่น ๆ ของอาการเจ็บคอที่ไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อ (Non-infectious cause)
อาจเกิดจากสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในลำคอ หรือการใช้เสียงมากเกินไป รวมถึงปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมอย่างอากาศแห้ง มลพิษในอากาศ การสูบบุหรี่ การสูดดมควันไฟ สารเคมี ก้างปลาติดคอ หรืออาการแพ้ และโรคบางอย่าง เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคเนื้องอกในลำคอ และกล่องเสียง เป็นต้น
โรคประจำตัวที่อาจทำให้คุณเจ็บคอเรื้อรัง เจ็บคอบ่อย
ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ระบุไว้ว่า อาการเจ็บคอเรื้อรัง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย สิ่งสำคัญในการรักษา คือต้องหาสาเหตุของอาการเจ็บคอเรื้อรังให้พบ และรักษาตามสาเหตุ โดยโรคประจำตัวที่มักทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรัง เจ็บคอบ่อย มีดังนี้
1. โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (ภูมิแพ้อากาศ) – โรคนี้เกิดจากเยื่อบุจมูกไวผิดปกติ เมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นทำให้เยื่อบุจมูกบวม ทำให้คัดจมูกเรื้อรัง ต้องอ้าปากหายใจ ทำให้เยื่อบุลำคอแห้ง มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้ นอกจากนี้โรคนี้ยังทำให้มีน้ำมูกไหลลงคอ ระคายคอตลอดเวลา ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้เช่นกัน
2. โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง – โรคนี้จะทำให้มีการอักเสบของเยื่อบุจมูกเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุจมูกบวม มีอาการคัดจมูกเรื้อรัง ทำให้ต้องหายใจทางปากตลอด เกิดเยื่อบุลำคอแห้ง มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้ นอกจากนั้นสารคัดหลั่งจากไซนัส และจมูกที่อักเสบที่ไหลลงคอ จะทำให้มีอาการอักเสบ ระคายเคืองของผนังคอ ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้
3. โรคกรดไหลย้อน – ซึ่งกรดอาจไหลย้อนขึ้นมาที่ผนังคอ ทำให้เยื่อบุ และกล้ามเนื้อของผนังคอมีการอักเสบ ทำให้มีอาการเจ็บคอเป็น ๆ หาย ๆได้ นอกจากนั้นผู้ป่วยอาจมีอาการเสียงแหบ กลืนติด กลืนลำบาก มีเสมหะอยู่ในลำคอ หรือระคายคอตลอดเวลาร่วมด้วย
เจ็บคอบ่อย เจ็บคอหนักขนาดไหน ควรเข้าพบแพทย์?
ถ้าหากอาการเจ็บคอของคุณเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และดูแลด้วยตนเองก็ยังไม่หายดี หรือมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ทำให้มีอาการแย่ลงดังต่อไปนี้ ติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 1 สัปดาห์ ควรเข้ารับการตรวจรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- เจ็บคอรุนแรง มีไข้สูง
- กลืนลำบากจนแทบกลืนไม่ได้
- ปวดศีรษะ หูอื้อ
- หายใจลำบาก
- มีเลือดปะปนอยู่ในน้ำลาย หรือเสมหะ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดตามไขข้อกระดูก
- ผื่นขึ้นตามผิวหนัง
- ปัสสาวะขุ่นพร้อมเลือดปน
วิธีรักษา บรรเทา และป้องกันอาการเจ็บคอ
เจ็บคอบ่อย ต้องรู้! วิธีบรรเทาอาการเจ็บคอที่ถูกต้อง ได้ผล และปลอดภัย มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ – จิบน้ำตลอดทั้งวันเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในลำคอ และร่างกาย แนะนำน้ำอุ่นผสมกับน้ำผึ้งมะนาว ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ดีทีเดียว
- พักผ่อนให้เพียงพอ – เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายฟื้นฟู และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกำจัดเชื้อไวรัส และแบคทีเรียในร่างกาย
- ใช้สเปรย์สำหรับช่องปากและลำคอ – เพื่อช่วยบรรเทาการระคายคอ อาการเจ็บคอ และเพิ่มความชุ่มภายในคอ และมีความปลอดภัยสูง ไม่มีตัวยาอันตราย
- บ้วนปาก หรือกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ – โดยการผสมเกลือ 1 ช้อนชาละลายเข้ากับน้ำอุ่น 1 แก้ว (ประมาณ 230 มิลลิลิตร) จากนั้นนำมาใช้กลั้วคอ หรือบ้วนปาก
- รับประทานอาหารอ่อน – เพื่อถนอมเนื้อเยื่อที่อักเสบในลำคอ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม
- จัดห้องนอนให้สะอาด ปราศจากฝุ่น – หากคุณตื่นเช้ามาแล้วมีอาการเจ็บคอบ่อยครั้ง อาจเกิดจากแพ้ฝุ่นในห้องนอน จึงควรทำความสะอาดเครื่องนอน ห้องนอนเป็นประจำ
- กินยาแก้ไอละลายเสมหะ – หากคุณมีอาการเจ็บคอ ร่วมกับอาการไอ มีเสมหะ สามารถกินยาแก้ไอละลายเสมหะ ที่มีส่วนผสมของตัวยา คาร์โบซิสเทอีน
ข้อห้ามทำ หากกำลังมีอาการเจ็บคอ
- ไม่รับประทานอาหารรสจัด รสเผ็ด หรืออาหารที่มีไขมันสูง ทั้งอาหารผัด และทอด
- ไม่สูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา และกาแฟ
- ไม่ใช้เสียงดังบ่อยครั้ง เช่น การตะโกน หรือร้องเพลง
- ไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเป็นพิษ เช่น ที่สาธารณะช่วงที่มี Pm2.5 สถานที่ที่มีควันธูปเยอะ
อ้างอิง : 1. สสส. 2. princsuvarnabhumi 3. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : gedgoodlife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : gedgoodlife ชีวิตดีดี
TikTok : @gedgoodlife