ความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้มนุษย์มีวิธีดูแลสุขภาพที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนต่างต้องเร่งรีบ มีเวลาจำกัดในการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย รวมถึงการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งในวันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จัก วิธีปฏิบัติตัว สูตรอาหารเสริมวิตามิน ที่เป็นประโยชน์ เพื่อบำรุงดูแลสุขภาพที่ทำได้ง่ายแบบใคร ๆ ก็ทำได้ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ไม่ให้เจ็บป่วยบ่อย ลดโอกาสการติดเชื้อโควิด รวมถึงหากมีการติดเชื้อ พื้นฐานสุขภาพที่เราทำสั่งสมไว้เหล่านี้ ก็จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันอาการลองโควิดได้ด้วย
เทคนิคดูแลสุขภาพแบบฉบับคนไม่มีเวลา ในยุค New Normal
1. ลดมื้ออาหาร วิธีการดูแลสุขภาพที่แสนประหยัด และทำได้ทุกคน
วิธีการแรกที่ต้องขอบอกเลยว่าเข้ากับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันอย่างมาก นั่นก็คือ วิธีการทำ IF หรือที่ย่อมาจากคำว่า Intermittent Fasting ซึ่งเป็นการอดอาหารเป็นช่วง ๆ โดยทิ้งระยะห่างจากอาหารมื้อสุดท้ายของวัน จนถึง อาหารมื้อแรกของวันถัดไป ไม่น้อยกว่า 12 / 14/ 16 หรือ 18 ชั่วโมง ซึ่งประโยชน์ของการทำ IF ที่ว่านี้ ไม่ได้มีเฉพาะการช่วยในการลดน้ำหนัก และการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้เท่านั้น แต่ในงานวิจัยสมัยใหม่มากมาย เผยให้เห็นคุณประโยชน์ของการทำ IF ที่มากมายมหาศาล
โดยจากข้อมูลที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Time เมื่อเดือนสิงหาคม 2018 เผยข้อเท็จจริงอันน่าทึ่งว่า การอดมื้อกินมื้อ หรือ การทำ IF นั้นสามารถช่วยกระตุ้นการเกิด Autophagy หรือกระบวนการกำจัดเซลล์ต่าง ๆ ที่เสื่อมสภาพหมดอายุการใช้งานในร่างกายแล้ว เกิดขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ และสมบูรณ์ขึ้น การทำ IF นี้จึงเปรียบเสมือนเป็นการทำลายขยะ หรือชิ้นส่วนที่ผุพังของเซลล์เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะสามารถช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เพราะร่างกายไม่ต้องเผาผลาญพลังงานหนักเกินไป ลดความเสี่ยงในการเกิดการดื้ออินซูลิน เนื่องจากการหลั่งอินซูลิน (Insulin) ลดลงเมื่อร่างกายไม่ต้องเผาผลาญ ทำให้การเก็บกลูโคสในเลือดเข้าสู่เซลล์ลดลง จึงมีการสะสมของไกลโคเจน และไขมันใต้ผิวหนังลดลงด้วย ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิด โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ ได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนั้นแล้ว การงดอาหารบางมื้อทำให้การสะสมของไขมันลดลง เพราะเมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารใหม่เข้าไปเพิ่ม ร่างกายจำเป็นต้องดึงเอาไขมันที่ซุกซ่อนตามส่วนต่าง ๆ ออกมาใช้ ซึ่งหากคุณทำ IF ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการออกกำลังกาย และการเผาผลาญอาหารได้เป็นอย่างดี และเมื่อกระบวนการออกกำลังกาย และการเผาผลาญเป็นไปอย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพแล้ว ระดับของ Human Growth Hormone (HGH) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของร่างกาย และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ในร่างกายจะพุ่งสูงมากกว่า 5 เท่าเลยทีเดียว น่าทึ่งมากเลยใช่ไหม
และประโยชน์สำคัญของการทำ IF ส่วนสุดท้ายคือ ประโยชน์ในการช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และอยู่ห่างอัลไซเมอร์ โดยจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2016 พบว่าระบบประสาท และสมองจะสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเรางดอาหาร โดยสมองส่วนหน้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ทั้งยังเพิ่มความสามารถด้านความรู้ความเข้าใจ ซึ่งเราคงเคยได้ยินกันมาว่า อย่ากินให้อิ่มมากนัก หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ทำให้เรียนหนังสือไม่รู้เรื่องหลังมื้ออาหารซึ่งก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการทำงานของสมองมีส่วนสัมพันธ์กับระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกาย ดังนั้น การทำ IF จึงสามารถช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์และลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย
อ่านเพิ่มเติม -> การลดน้ำหนักแบบ IF คืออะไร เหมาะกับใคร เริ่มต้นยังไง ดีต่อสุขภาพยังไงบ้าง?
2. เสริมวิตามิน ให้ถูกที่ ถูกวิธี ถูกเวลา
การรับประทานอาหารเสริมและวิตามิน เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสภาพสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้คนมีเวลาจำกัด ต้องใช้ชีวิตที่เร่งรีบ จึงไม่ต้องการขั้นตอนการดูแลสุขภาพที่ยุ่งยาก แต่ก็ยังอยากมีชีวิตที่ยืนยาว และมีสุขภาพที่ดีตลอดอายุขัย ทางเลือกในการใช้วิตามินสำหรับการป้องกั นและดูแลสุขภาพจึงเกิดขึ้นมากมาย
และหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ ไม่ต้องการทานวิตามินสารพัด สารพัน ชนิด วันนี้เราจึงมีวิตามินสำคัญ ๆ 5 กลุ่มมาแนะนำ เพื่อการดูสุขภาพที่ดี ครอบคลุม และที่สำคัญไม่ฟุ่มเฟือยเหมาะกับเศรษฐกิจในยุคนี้
• วิตามินเอ พบได้ในปลาทะเล และเบต้าแคโรทีนที่พบได้มากใน ผักผลไม้สีส้ม เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการมองเห็น เพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้ฟื้นตัวจากอาการป่วยได้เร็วขึ้น รวมถึงยังป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคที่อากาศบริสุทธิ์หาได้ยากยิ่ง
• วิตามินบี 6 ส่วนใหญ่พบในธัญพืชไม่ขัดสี เช่น รำข้าว จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง ถั่วเหลือง วอลนัต และ Folic Acid พบมากในผักใบเขียว ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีน และไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ผู้ที่ขาดวิตามินบี 6 จะมีภาวะโลหิตจาก ส่งผลให้การลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงตามเซลล์ต่าง ๆ เกิดความผิดปกติได้
• วิตามินซี พบมากในผลไม้รสเปรี้ยว เป็นวิตามินซี ที่เมื่อเอ่ยถึงแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยคุณประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะการเพิ่มภูมิต้านทาน และป้องกันโรคหวัด จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ เหล่าบรรดาผู้รักสุขภาพต้องมีติดบ้านไว้เป็นสามัญ
• วิตามินดี 3 พบได้ในปลาทะเล และการรับแสงแดด อย่างเหมาะสม ถือเป็นวิตามินที่ ไม่ค่อยเป็นที่เอ่ยถึงในอดีตที่ผ่านมา จนถูกละเลยและมองข้าม ด้วยความเชื่อที่ว่า วิตามินดี นั้นร่างกายสามารถผลิตได้เองจากแสงแดด ประกอบกับสภาวะอากาศในบ้านเราก็เต็มไปด้วยแสงแดดอันเจิดจ้า ทำให้ไม่ค่อยมีใครคาดคิดว่า คนไทยโดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานออฟฟิศนั้นขาดวิตามินดี อยู่เป็นจำนวนมาก ถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว และสรรพคุณของวิตามินดีนั้น นอกจากจะช่วยดูแลกระดูกและฟันให้แข็งแรงแล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกมากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ อาทิ ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เร่งกระบวนการเผาผลาญน้ำตาล (Glucose Metabolism) กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ลดความเครียด ช่วยในการนอนหลับ และฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย รวมถึงช่วยให้ร่างกายฟิตมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ไม่เพลียง่าย เนื่องจากวิตามินดี3 (Vitamin D3) มีส่วนช่วยในการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยนำออกซิเจนจากเลือดส่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมัดต่าง ๆ ได้ดีขึ้นขณะออกกำลังกาย นั่นเอง
• แร่ธาตุสังกะสี Zinc พบมากในเมล็ดฟักทอง เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างรอบด้านไม่ว่าจะเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย โดยข้อมูลการศึกษาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 พบว่าผู้ติดเชื้อ ที่มีอาการการรับรู้รส และกลิ่นหายไป สาเหตุหนึ่งมาจากการที่ร่างกายขาดแร่ธาตุสังกะสี นั่นเอง จึงถือเป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่จำเป็นต้อง จดไว้ในลิสต์ของผู้รักสุขภาพในยุค New Normal อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
3. ลดความเครียด เพิ่มพลังสมองสร้างความคิดบวก
และส่วนสุดท้าย ที่จะขาดไม่ได้สำหรับการดูแลสุขภาพในยุค New Normal นั่นคือ การดูแลสุขภาพจิต สุขภาพใจ อย่างที่ทราบกันดีว่าตลอดระยะเวลา สามปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โลกได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วมาก และส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจของผู้คนอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นความวิตก กังวล หดหู่ จากการสูญเสียคนที่รัก และงานที่ทำ รวมถึงสภาวะความโดดเดี่ยวเดียวดายที่ไม่ได้ทำกิจกรรมที่เคยทำ พบเจอบุคคลที่เคยเจอ สิ่งเหล่านี้เองจึงทำให้การดูแลสุขภาพใจ กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของคนรักสุขภาพอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งในบทความนี้เอง เราจึงขอยกเอาคำแนะนำดี ๆ จาก หนังสือ Habits Of A Happy Brain: ที่แต่งขึ้นโดยศาสตราจารย์ Loretta Breuning ผู้ก่อตั้ง The Inner Mammal Institute ที่ได้แนะนำวิธีเพิ่มพลังสมอง ฝึกคิดบวก สร้างพลังให้ตัวเองได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
1. เรียนรู้และเข้าใจกลไกการทำงานของสมอง เพื่อไม่ให้ถูกหลอกให้จมอยู่กับความทุกข์ ในเรื่องแรกนี้อธิบายอย่างง่าย ๆ คือการมีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎของธรรมชาติ ว่าชีวิตนั้นประกอบด้วยความสุข และความทุกข์ การเรียนรู้ และยอมรับความทุกข์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนต้องประสบพบเจอ ช่วยให้สมองไม่ปฏิเสธความทุกข์ และมองความทุกข์เป็นเรื่องปกติที่ไม่อาจปฎิเสธได้
2. เข้าใจว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะทำให้คุณมีความสุขตลอดไป แม้แต่อาหารจานโปรด เพลงที่คลั่งไคล้ กิจกรรมที่สนุก และทำให้ตื่นเต้น เมื่อสมองได้เรียนรู้และเกิดกระบวนการจดจำอย่างเป็นระบบแล้ว อรรถรสหรือรสชาติความของสุขก็จะลดระดับลง ตามประสบการณ์ที่ได้รับมา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ หลายคนเลือกที่จะทดลองทำอะไรแปลกใหม่ที่ไม่เคยลอง เพื่อเสาะแสวงหาความสุขในสิ่งที่สมองยังไม่คุ้นเคยนั่นเอง ดังนั้นหากรู้สึกเบื่อเมื่อใด ลองชวนคนใกล้ตัวออกไปหาอะไรใหม่ๆ ทดลองทำ ก็จะช่วยเพิ่มเติมความสุขให้กับชีวิตได้
3. ไม่เสียเวลากับสิ่งที่ตัดสินใจในอดีต ความลับประการที่สามของสมองที่มีความสุขนั้น อยู่ที่มุมมองความเข้าใจว่าอดีตนั้นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และคุณไม่ควรเสียเวลากับการค้นหาผู้ที่ควรรับผิดชอบกับเรื่องที่ผิดพลาดในอดีต ในทางตรงกันข้าม มุมของที่สร้างความสุขให้กับชีวิตนั้น คือความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ชีวิตมาพร้อมกับการตัดสินใจเลือกตลอดเวลา และไม่ว่าผลลัพธ์จากการเลือกจะเป็นเช่นไร คุณควรระลึกไว้เสมอว่า อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นตามมานั้น ก็เป็นอำนาจในการตัดสินใจของคุณเอง
การฝึกนิสัยของสมองที่มีความสุขนั้นเป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน ซึ่งผลที่เกิดขึ้นอาจไม่สามารถมองเห็นได้ระยะเวลาอันสั้น แต่หากคุณเชื่อมั่นในแนวทางดังกล่าวนี้ ก็ลองนำไปฝึกฝนกันดู เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งกายและใจให้พร้อมต่อสู้กับอุปสรรคที่ท้าทายในอนาคตข้างหน้า
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคดูแลสุขภาพแบบฉบับคนไม่มีเวลา ในยุค New Normal ที่เรานำมาฝาก หวังว่าจะเป็นแนวทางที่ทำให้การดูแลสุขภาพของคุณเป็นเรื่องง่าย ทำได้ทุดคน ทุกเวลา และที่สำคัญเห็นผลความแตกต่างจนใครๆ ต้องสะกิดถามว่าพักนี้ดู แฮปปี้มีความสุขขึ้นนะ ไปทำอะไรมา
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไข้หวัด อาการไอ ปวดท้อง ภูมิแพ้ ได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่
ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…
Facebook : gedgoodlife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter : @gedgoodlife
Line : @gedgoodlife
Youtube : gedgoodlife ชีวิตดีดี
TikTok : @gedgoodlife