ชีวิตคนเราหากต้องเจอกับเรื่องที่ไม่ดีเข้ามากระทบจิตใจบ่อย ๆ ก็จะทำให้รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังได้ ดังนั้น ความคิดเชิงบวก จึงมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต เป็นกำลังใจให้เราพร้อมสู้ในวันแย่ ๆ ได้ วันนี้ GedGoodLife จึงขอเสนอ 5 วิธีคิดบวก ฝึกตัวเองเป็นคนใหม่ ที่ดีกว่า! พร้อม “แบบประเมินความสุข” 15 คำถาม ให้ลองทำกันท้ายบทความ
ตั้งสติ ใช้ปัญญา รู้จักแก้ไข ให้เป็นบวก
การตั้งสติ ถือเป็นสิ่งแรกที่จะทำให้ใจสงบ ไม่ว้าวุ่น นำไปสู่การใช้สติปัญญา จัดการแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองได้ การตั้งสติให้เริ่มต้นจากมองปัญหาอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา อย่าวู่วาม หรือเอะอะโวยวายไปก่อน
การตั้งสติจะเกิดขึ้นได้เมื่อใช้ 4 อย่า
- อย่าหนีปัญหา แต่จงกล้าเผชิญกับปัญหา
- อย่าคิดแต่จะพึ่งพาคนอื่น แต่ให้ถือคติตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
- อย่าลงโทษตัวเอง แต่จงให้โอกาสตัวเองแก้ไขในสิ่งที่ทำผิด
- อย่าโยนความผิดให้คนอื่น แต่จงรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำร่วมกัน
8 วิธีคิดบวก เพิ่มพลังชีวิตให้มีความสุข
1. เมื่อมีทุกข์ ให้คิดถึงคนที่ทุกข์กว่าเรา เพราะการมองคนที่ทุกข์กว่าเรา จะทำให้เราเกิดกำลังใจในการดำเนินชีวิต และพร้อมที่จะต่อสู้อุปสรรคต่อไป
2. คิดอย่างมีเหตุผล ไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ แล้วเก็บมากังวลใจ ควรตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อนตัดสินใจ
3. คิดหลายแง่มุมให้ลองคิดหลาย ๆ ด้าน การใช้ความคิดมองเพียงด้านเดียว จะทำให้ใจเป็นทุกข์ และควรหัดคิดในมุมมองของคนอื่นบ้าง
4. คิดแต่เรื่องดี ๆ การคิดแต่เรื่องร้าย ๆ หรือเรื่องที่ล้มเหลว หรือสร้างความผิดหวัง จะทำให้เราทุกข์ใจ ควรคิดเรื่องดี ๆ ให้มากขึ้น เช่น คิดถึงประสบการณ์ที่ทำ แล้วประสบความสำเร็จ เป็นต้น
5. คิดถึงคนอื่นเปิดใจให้กว้าง อย่าหมกมุ่นอยู่แต่กับตัวเอง ควรรับรู้ความเป็นไปของผู้อื่น จะทำให้เราพบว่าปัญหาของเราเล็กน้อย เมื่อเทียบกับผู้อื่น
6. รู้จักให้อภัยตัวเอง และผู้อื่น เราทุกคนต่างเคยทำผิดพลาดกันมา ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ100% ให้รู้จักปล่อยวาง รู้จักให้อภัยตัวเราเองและผู้อื่น ดับไฟในใจลง จะทำให้ใจเราเป็นสุข เป็นผู้มีเมตตา มีสมาธิ สติ ปัญญา ได้ง่าย
7. คิดดี มองโลกในแง่ดี พูดแต่สิ่งดี ๆ เราสามารถเริ่มต้นวันใหม่ ให้ใจเป็นสุข ด้วยการคิดดี พูดแต่สิ่งดี ๆ รู้จักขอบคุณ และขอโทษ คุยเรื่องดีดีกับคนรอบข้าง เพื่อเติมพลังบวกเข้ามาในชีวิตเรา
8. การคิดบวกต้องใช้เวลา กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว การคิดบวกก็เช่นกัน การฝึกคิดบวก จึงต้องใช้เวลา และความพยายาม อะไรที่ผิดพลาด ให้ปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะทำใหม่ให้ดีขึ้น ฝึกตัวเองให้มีวินัยในการทำสิ่งดีดี เพื่อเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม
การคิดลบ (เชิงบวก) VS การคิดลบ (เชิงลบ)
รู้หรือไม่ว่า การคิดลบ ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่โทษเสมอไป เพราะ การคิดลบ ก็ทำให้เราไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต ทำให้มีสติ รู้เท่าทันเหตุการณ์ และเป็นการสร้างเสริมปัญญาให้แก่เราอีกด้วย!
การคิดลบ (เชิงบวก) คือ การคาดการณ์ถึงสิ่งที่เลวร้ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และนำไปสู่การไม่ประมาท วางแผน และหาวิธีป้องกันได้อย่างทันท่วงที
ยกตัวอย่างเช่น การทำธุรกิจ ต้องมองถึงปัจจัยที่อาจทำให้เราขาดทุน และปัญหาต่าง ๆ ที่ธุรกิจของเราอาจต้องเผชิญ แล้วนำปัจจัยเชิงลบต่าง ๆ เหล่านั้น มาวิเคราะห์ หาทางออกว่า เราจะรับมืออย่างไรกับปัญหานั้น ๆ เพื่อให้ธุรกิจของเราไปต่อได้นั่นเอง
การคิดลบ (เชิงลบ) คือ การคิดถึงสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น หรืออาจจะเกิดขึ้นแต่ไม่คิดแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ มองแต่อุปสรรค และข้อจำกัด จนทำให้เราไม่กล้าที่จะดำเนินการใดใดต่อไป จึงกลายเป็นผู้ที่ขาดปัญญา และความกล้าหาญที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ
ยกตัวอย่างเช่น เราคิดจะเริ่มธุรกิจที่ซ้ำกับคนอื่น ๆ ทำไว้เยอะแล้ว และคิดต่อว่าเราน่าจะทำไม่ได้ เพราะ ใคร ๆ ก็ทำไปหมดแล้ว และยกเลิกความคิดไปในที่สุด แต่ไม่คิดหาทางออกว่า จะสร้างความแตกต่างอย่างไรให้ธุรกิจของเราโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ เป็นต้น
ยุคโควิด ต้องรู้จักดูแลสุขภาพจิต คิดบวก ให้เป็น!
ในสถานการณ์ที่คับขัน ช่วงโควิด-19 ระบาดหนักอยู่ขณะนี้ หลายคนคงรู้สึกวิตกกังวล มีความสุขลดลง และอาจซึมเศร้ากับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งต้องอาศัยพลังบวก เสริมจิตใจให้แข็งแรง ด้วยแนวคิดต่าง ๆ ดังนี้
1. ติดตามข่าวสารโควิด-19 เท่าที่จำเป็น – โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ มักจะมีข่าวปลอมแชร์กันเยอะมาก ถ้าเราเชื่อ หรือเสพข่าวพวกนี้เป็นประจำ จะมีผลต่อพฤติกรรม และสุขภาพของเราได้ เช่น อาจทำให้เป็นโรค “ไฮโปคอนดริเอซิส – โรคคิดไปเองว่าป่วย” และ “โรคกลัวที่ชุมชน – Agoraphobia”
2. หมั่นดูแลตนเองให้ห่างไกลโควิด – ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงไม่ออกไปในสถานที่เสี่ยงติดโควิด เช่น สถานบันเทิง สถานที่มีผู้คนแออัด เป็นต้น เมื่อเราดูแลตนเองดี ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลไปได้มาก ทำให้จิตใจสบาย ไม่เครียด
3. ลองกินแตงโม ดูสิ! – สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) แนะนำประชาชนให้รับประทานแตงโม เพื่อช่วยลดความเครียดในช่วงโควิด เพราะวิจัยพบว่า แตงโมอุดมด้วยสารโพแทสเซียม ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี และเย็นชื่นใจ
- แตงโม ผลไม้คลายร้อนยอดฮิต ตามมาดูประโยชน์ วิธีเลือกซื้อ การเก็บรักษา กันเลย!
- อาหารคลายเครียด ดีต่อใจ ห่างไกลซึมเศร้า จากคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
4. ส่งต่อข้อความเชิงบวก – อาจจะส่งต่อแคปชั่นเชิงบวก วิธีคิดบวก หรือแม้แต่เรื่องตลกขบขัน ความน่ารักของสัตว์โลก ก็จะช่วยสร้างเสียงหัวเราะ ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี
อยากมีสุขภาพดี ต้องอาศัยพลังบวก
คนเราจะมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนได้ ต้องเริ่มปรับแนวคิดตั้งแต่เริ่มต้น โดย น.พ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน ได้กล่าวไว้ว่า
“การมีสุขภาพดีเพื่อที่จะไปช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อที่จะไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น แนวคิดเช่นนี้ จะทำให้มีพลังบวกในการอยากมีสุขภาพดี มากกว่าแนวคิดที่อยากจะมีสุขภาพดีเพียงแค่เพื่อตนเอง
การตั้งเป้าว่าเราจะมีสุขภาพดีเพื่อลูก เพื่อดูแลพ่อแม่ เพื่อดูแลลูกน้อง เพราะเราไม่ได้อยู่เพื่อตนเองเพียงอย่างเดียว แต่เราอยู่เพื่อคนอื่นด้วย รวมทั้งการได้รับแรงจูงใจจากผู้อื่น การคบ เพื่อนที่ดี มีกัลยาณมิตรที่ดี นำพากันไปสู่ทางที่ดี รับประทานอาหารดี ออกกำลังกายดี
แนวคิดต่าง ๆ นี้จะสำเร็จได้ต้องเริ่มจากใจเราเอง หากใจยังมีพลังบวกไม่เพียงพอ ให้ลองหาคนที่มีพลังบวก เพื่อส่งพลังบวกให้เรา นำพาไปสู่ทางที่ดี หรือการหาพลังบวกจากธรรมชาติ ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการชาร์จแบตเตอรี่ร่างกาย”
15 แคปชั่นเสริมกำลังใจ สร้างพลังชีวิต
1. “ขยะในใจ” ต้องรู้จักฝึกทิ้งให้เป็นเหมือน “ขยะในมือ”
2. เราจะ “เป็นสุข” เมื่อเรา “รู้จักพอ”
3. “คิดดี พูดดี ทำดี” แล้วสิ่งดีดีจะเกิดขึ้น
4. กำลังใจที่เราสร้างขึ้นเอง คือกำลังใจที่ดีที่สุด ไม่ต้องหวังจากใคร
5. ผู้ชนะ คือ ผู้ที่ “คิดบวก” ไว้ได้ในสถานการณ์ที่เป็น “ลบ”
6. ทางออกของปัญหา คือการเผชิญหน้าแก้ไขมัน
7. ทำใจเราให้เหมือนแผ่นดิน ต่อให้โดนถ่มน้ำลายใส่ แต่แผ่นดินก็ไม่สะเทือน
8. คิดบวกเป็นเดี๋ยวก็ยิ้มได้ วันที่สดใสรออยู่ข้างหน้า
9. โลกมันร้าย หรือเราเองที่อ่อนแอ “สู้สู้นะ”
10. ใครทำดีให้จำเขาไว้ ใครทำไม่ดีก็ลืมเขาไป
11. คนเรามี “รัก โลภ โกรธ หลง” อยู่ ก็ต้องมี “ทำผิดพลาด” กันไปบ้าง
12. การฝึกคิดบวก จะช่วยให้เรารู้จัก “จับถูก” มากกว่า “จับผิด”
13. ความคิดบวก เป็นพลังพื้นฐานแห่งความสุข
14. ยอมรับ เข้าใจ ปรับปรุง แก้ไข ก้าวต่อไปด้วยปัญญา และพลังบวก
15. อยู่ถูกที่ ถูกเวลา เราก็จะมีค่าขึ้นมาเอง
แบบประเมินความสุข 15 คำถาม
แบบประเมินความสุข เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยวัดระดับความสุขของท่าน ว่ามีความสุขอยู่ในระดับใด มาเริ่มทำกันเลย!
คิดบวก – แบบทดสอบวัดสุขภาพจิตคนไทย 15 คำถาม
อ้างอิง :
1. บทความบางส่วนจากกรมสุขภาพจิต : ทำอย่างไรให้ใจเป็นสุข หนังสือสำนักอนามัย
2. สยามธุรกิจ