วิตามินสำหรับเด็ก กินยังไง ให้ร่างกายได้ประโยชน์เต็ม ๆ

27 มิ.ย. 24

หากลูกคุณ เป็นเด็กกินยาก กินน้อย หรือ กินแต่อาหารเดิมซ้ำ ๆ ที่ไม่มีประโยชน์ การให้ลูกเสริม วิตามินสำหรับเด็ก จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสารอาหารในช่วงวัยที่ลูกเลือกกิน แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงวัยนี้ไป เขาก็จะเริ่มปรับตัว และกินอาหารได้ดีขึ้น

วิตามินมีกี่ประเภท ?

วิตามิน สามารถแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ

1. วิตามินกลุ่มที่ละลายได้ในน้ำ (Water-soluble vitamin) วิตามินกลุ่มนี้มีคุณสมบัติ คือ

ละลายได้ดีในน้ำ เพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
อยู่ในร่างกาย 2 – 4 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือถูกขับออกมากับปัสสาวะ
ไม่สะสมตกค้างในร่างกาย
จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเป็นประจำทุกวัน เพราะร่างกายจะขับออกได้ง่าย

กลุ่มวิตามินที่ละลายได้ในน้ำได้

– วิตามินบี (The B Vitamins) แบ่งเป็นหลายชนิด เช่น วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง วิตามินบีหก วิตามินบีสิบสอง ไนอะซิน กรดโฟลิก กรดแพนโททินิก และไบโอติน เป็นต้น วิตามินบี ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง รวมทั้งช่วยในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับร่างกาย

– วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย การซ่อมแซมความเสียหายของผิวหนังและเนื้อเยื่อ รวมถึงการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

2. วิตามินกลุ่มที่ละลายได้ในไขมัน (Fat-soluble vitamin) วิตามินกลุ่มนี้มีคุณสมบัติ คือ

ละลายในไขมันหรือน้ำมันเท่านั้น เพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
เก็บสะสมไว้ใช้ในส่วนของชั้นไขมัน
กำจัดส่วนเกินทำได้ยาก หากได้รับในปริมาณที่เกินความต้องการอาจตกค้างในร่างกาย
มีผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้

กลุ่มวิตามินที่ละลายได้ในไขมันได้

– วิตามินเอ (Vitamin A) มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานของร่างกาย การดูแลผิวพรรณและการบำรุงสายตาที่ช่วยการมองเห็นในเวลากลางคืน

– วิตามินดี (Vitamin D) มีส่วนช่วยในการควบคุมการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งใช้ในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินที่ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด

วิตามินสำหรับเด็ก

วิตามินสำหรับเด็ก เสริมวิตามินแล้ว แร่ธาตุก็ห้ามขาด!

ถึงแม้วิตามินจะสำคัญกับร่างกายแค่ไหน แต่วิตามินจะไม่สามารถทำงานและไม่สามารถถูกดูดซึมได้เลยหากปราศจากแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี ทำงานร่วมกับ แร่ธาตุแคลเซียม โคบอลต์ ทองแดง ธาตุเหล็ก และโซเดียม

ดังนั้นแร่ธาตุ จึงช่วยส่งเสริมให้วิตามินมีประสิทธิภาพมากขึ้น สังเกตได้ว่าในวิตามินเสริม โดยเฉพาะวิตามินรวม มักจะมีส่วนประกอบของวิตามิน และแร่ธาตุอยู่ด้วยกันเสมอ

ทำไมจึงควรเสริม วิตามินสำหรับเด็ก ?

ในช่วงวัยที่ลูกกำลังเริ่มโต โดยเฉพาะช่วงวัย 3-6 ขวบ เป็นช่วงที่เรารู้สึกว่าลูกเริ่มมีเหตุผลของตัวเองมากขึ้น หรือเริ่มไม่ฟังพ่อแม่ มีเพื่อนมากขึ้น ติดเล่นมากขึ้น บอกซ้ายไปขวา นั่นเป็นธรรมดาของพัฒนาการเด็ก ในช่วงวัยนี้

ส่งผลมาถึงพฤติกรรมการกินในแต่ละมื้อ ซึ่งแม้จะถึงวัยที่ลูกควรกินอาหารหลักให้ครบ 3 มื้อ แต่เด็กหลายคนกลับต้องให้พ่อแม่เคี่ยวเข็ญกว่าจะผ่านไปในแต่ละมื้อ บังคับให้นั่งกินข้าวกันจนหมด หลายครอบครัว ที่ฝึกลูกการกินมาตั้งแต่เล็ก ๆ อาจจะไม่ค่อยเจอปัญหา แต่หลายครอบครัวก็จำเป็นต้องใช้ตัวช่วย

หากลูกเป็นเด็กกินยาก กินน้อย หรือ กินแต่อาหารเดิมซ้ำ ๆ ที่ไม่มีประโยชน์ การให้ลูกกินวิตามินเสริมสำหรับเด็ก จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง ได้รับสารอาหารไม่ครบ ไม่เพียงพอ ในช่วงวัยที่ลูกเลือกกิน แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงวัยนี้ไป เขาก็จะเริ่มปรับตัว และกินอาหารได้ดีขึ้น

วิตามินสำหรับเด็ก

กินวิตามินเด็กอย่างไร ? ให้ได้ประโยชน์

เลือกวิตามินรวม
หากตัดสินใจที่จะให้ลูกกินวิตามิน ควรเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุทั่วไป หรือ วิตามินรวมให้กับลูก แต่ต้องมั่นใจว่าวิตามินแต่ละชนิดไม่เกินปริมาณที่ร่างกายลูกควรได้รับในแต่ละวัน วิตามินจำเป็นที่ลูกควรได้รับ วิตามิน A, B, C และ D, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม และกรดโฟลิก

กินวิตามิน พร้อมปรับพฤติกรรมการกิน
นอกจากการกิน วิตามินสำหรับเด็ก เพื่อเสริมให้กับร่างกายลูก เวลาที่ลูกไม่ค่อยกินข้าว กินยาก น้ำหนักน้อย ตัวเล็ก เพราะเลือกกินแล้ว อย่าลืมว่าวิตามินเป็นแค่อาหารเสริม ไม่ใช่อาหารหลัก ดังนั้นไม่ควรให้ลูกกินเป็นอาหารหลักแทนข้าว ถ้าสามารถปรับนิสัยการกินของลูกได้ ให้ลูกกินอาหารได้ครบ 5 หมู่ ทุกมื้อ มีผัก มีผลไม้ไม่ขาด วิตามินเสริมก็อาจจะค่อย ๆ ลดลงได้

เลือกวิตามินสูตรไม่มีน้ำตาล
ถ้าต้องเลือกวิตามินเด็ก โดยเฉพาะสูตรน้ำที่ปรุงแต่งรสชาติให้ลูก ควรเลือกแบบที่เป็นสูตรปราศจากน้ำตาล เพื่อป้องกันลูกฟันผุ หรือได้รับน้ำตาลมากเกินไปด้วย

เลือกวิตามินเด็ก ที่มีใยอาหารธรรมชาติ เสริมภูมิคุ้มกัน
ความต้องการของเด็ก นอกจาก เรื่องสารอาหารแล้ว ควรได้รับวิตามิน ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันด้วย เลือกวิตามินที่มีใยอาหารธรรมชาติ เช่น โอลิโกฟรุกโตส (Oligrfructose) ซึ่งช่วยปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ทำให้ขับถ่ายดี และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้

กินวิตามินเสริม ควบคู่การออกกำลังกาย
อยากให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากอาหารการกิน การเสริมวิตามินแล้ว การพาลูกออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ได้ออกกำลังกายเป็นประจำยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วย เด็ก ๆ ยังได้วิตามินแบบฟรี ๆ เช่น วิตามินดีจากแสงแดด การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกในเด็ก และรักษาความแข็งแรงของกระดูกในวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต และยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ไม่เป็นโรคอ้วน ลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน โรคหลอดเลือดด้วย

“Expert ดีดี” โควิด-19 ไอ หวัด ปวดท้อง ภูมิแพ้ อย่าปล่อยให้เรื้อรัง ปรึกษาฟรี คลิกเลย!