อาการคัน (Pruritus) เป็นกลุ่มอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อย และมักนำไปสู่การแกะเกา โดยผู้ป่วยที่มีอาการคันอาจมีผื่นผิวหนังร่วมด้วย หรือไม่ก็ได้ อาการคันอาจเป็นเพียงเฉพาะที่ หรือเป็นทั่วทั้งตัว ซึ่งในวันนี้ Ged Good Life จะพาไปดู 8 สาเหตุของผื่นคัน ทำให้คันยุบ ๆ ยิบ ๆ ตามตัว ที่คุณอาจนึกไม่ถึงมาก่อน! ใครที่กำลังมีอาการคัน ผื่นขึ้นบ่อย ต้องรู้
- อากาศร้อนให้ระวัง! โรคเซ็บเดิร์ม ผื่นหนา ผิวแห้ง คัน : สาเหตุ อาการ วิธีรักษา
- ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ แก้ได้ด้วย 9 วิธีนี้ คันแค่ไหนก็เอาอยู่!
- ทำความเข้าใจ ผื่นทั้ง 6 ประเภท และผื่นแย่แค่ไหนถึงควรพบแพทย์
8 สาเหตุของผื่นคัน ที่เราอาจนึกไม่ถึงมาก่อน!
1. จากภาวะแพ้อาหาร
ภาวะแพ้อาหาร เป็นปฏิกิริยาที่ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่ออาหารบางชนิดมากผิดปกติ ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง หลังจากที่ได้ทานอาหารบางชนิดเข้าไป โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น กุ้ง กั้ง ปู เป็นต้น ทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ทางผิวหนัง
อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ลมพิษฉับพลัน มีผื่นแดง บวมนูน เป็นวง ตามลำตัว แขนขา ผื่นคัน ผื่นลมพิษ หรือผิวแดงทั้งตัว ปากบวม ตาบวม หน้าบวม
2. จากโรคประจำตัว
อาการคันที่เกิดจากโรคประจำตัว มักจะเป็นอาการคันเรื้อรัง มีอาการเป็นมานานเกิน 1 สัปดาห์ ถึงหลายเดือน โดยโรคประจำตัวที่มักทำให้เกิดอาการคันเรื้อรัง ได้แก่ โรคตับอักเสบเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคมะเร็งเม็ดเลือด ไตวายเรื้อรัง มะเร็งเม็ดเลือด ลมพิษเรื้อรัง โรคเครียด เป็นต้น
3. การออกกำลังกาย
แน่นอนว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ แต่ในบางคนพบว่าออกกำลังกายแล้วรู้สึกคันตามตัว แขน ขา ในบางคนก็เป็นลมพิษขึ้นมา โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกง่าย เช่น การวิ่งกลางแจ้ง เป็นต้น ในบางคนที่ผิวบอบบางผิวแพ้ง่าย หากมีเหงื่อไหลออกมา ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ภาวะอาการคันเป็นรุนแรงกว่าเดิมได้อีกด้วย
4. ความเครียด
ความเครียดส่งผลกับสุขภาพร่างกายได้สูง ไม่เว้นแม้แต่สุขภาพของผิว ที่บางคนเรียกว่า “ผิวเครียด” เป็นปัญหาที่กำลังแพร่หลายในหมู่คนวัยทำงาน และวัยเรียน โดยอาการทางผิวหนังที่มักเกิดขึ้น ได้แก่ อาการผื่นแดง ลมพิษ และความเครียดยังกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังหลายชนิดได้ง่าย เช่น เริม สะเก็ดเงิน งูสวัด ด่างขาว เป็นต้น
5. การออกไปนอกบ้าน
อย่างที่ทราบกันดีว่า โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยฝุ่นพิษ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 และในบางพื้นที่ก็มีการเผาไหม้ป่า หรือธูปตลอดเวลา หากเราไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นพิษเหล่านี้บ่อย ๆ ทั้งสูดดม สัมผัส หรือกินอาหารข้างทางที่ปนเปื้อนสารพิษเหล่านี้เข้าไป ก็จะทำให้เกิดผื่นคันได้ ในบางรายถึงขั้นแพ้หนัก ต้องเข้าโรงพยาบาลเลยทีเดียว
6. พักผ่อนน้อย
การพักผ่อนน้อย นอนหลับไม่เพียงพอ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภูมิคุ้มกันตกโดยไม่รู้ตัว หลายคนละเลยการนอน ทำงานหนัก หรือเพลิดเพลินกับการดูซีรีย์จนรุ่งเช้า พฤติกรรมเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคทางผิวหนังได้ เช่น ตุ่มคัน ตุ่มใส ขึ้นทั่วร่างกาย มีอาการคันอย่างหนัก และยังทำให้ผิวหนังแก่ไวกว่าเวลาอันควรอีกด้วย
7. แพ้เสื้อผ้า และน้ำยาซักผ้า
ผู้มีผิวแพ้ง่าย อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดผื่นแพ้เสื้อผ้าได้มากกว่าคนทั่วไป สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้า อย่างผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม และสารฟอกผ้าขาว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้เช่นกัน
เนื้อผ้าที่ทำให้แพ้ง่าย ได้แก่ โพลีเอสเตอร์, เรยอน, ไนลอน, สแปนเดกซ์, และยาง เพราะเนื้อผ้าเหล่านี้ระบายอากาศได้ไม่ดี
8. การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
หากผู้ป่วยมีอาการแพ้แอลกอฮอล์ ก็สามารถทำให้เกิดผื่นคันตามตัวได้ โดยเฉพาะผื่นลมพิษ โดยมากมักเป็นไม่เกิน 24 ชั่วโมง ผื่นจะค่อย ๆ จางหายไป แต่ในบางรายที่มีอาการแพ้หนัก อาจมีอาการถึงขั้นปวดท้อง แน่นจมูก หายใจติดขัด หรือบางรายอาจมีอาการรุนแรงมาก ถึงขั้นเสียชีวิตได้
วิธีรักษา ป้องกัน อาการผื่นคันทั่วไป
1. พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เราแพ้ เช่น หากแพ้ฝุ่น ก็ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นมาก หรือใส่หน้ากากอนามัยเสมอ
2. ทาโลชั่นทุกครั้งหลังอาบน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน หรือการแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำนานเกิน 10 นาที เพราะอาจทำให้ผิวแห้งจนเกิดผื่นคันได้
4. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นละออง แมลง และยุงชุกชุม
5. ใช้สบู่อ่อน ๆ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารกันเสีย และอ่อนโยนต่อผิว
6. ไม่แคะ แกะ เกา เพราะจะทำให้รอยโรคลุกลามได้
7. ทำความสะอาดเล็บมือ ตัดเล็บให้สั้น และหมั่นล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
8. ใช้คาลาไมน์โลชั่น เป็นยาน้ำสีชมพู มีกลิ่นหอมเย็น สามารถช่วยลดอาการคันได้อย่างดี และหาซื้อได้ง่าย
9. กินยาแก้แพ้ สามารถช่วยลดอาการผื่นคัน ผื่นแพ้ ที่เกิดจากร่างกายหลั่งสารฮีสตามีนออกมา โดยเฉพาะ ยาแก้แพ้ลอราทาดีน มีความปลอดภัยสูง และยังไม่ทำให้ง่วงซึมอีกด้วย