เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นมากขึ้น ฝนเริ่มลดลง ฝุ่นPM2.5 ก็จะมาเยือนทันที จนกลายเป็น ฤดูฝุ่น PM2.5 แทนฤดูหนาวไปแล้ว! ยิ่งในตัวเมือง หรือสถานที่ที่มีมลพิษมาก ต้นไม้น้อย ยิ่งต้องระวัง! หากเห็นหมอกเยอะในช่วงหน้าหนาวนี้ ก็อย่าเพิ่งคิดไปเองว่าเป็นหมอก อาจจะเป็นฝุ่น Pm2.5 ปกคลุมอากาศอยู่ก็ได้ ฉะนั้นมาดูกันว่าอาการ และโรคจากฝุ่น PM2.5 จะมีอะไรบ้าง พร้อมอินโฟกราฟิกป้องกันฝุ่นร้าย
- ฝุ่น PM2.5 คืออะไร ทำร้ายสุขภาพเรายังไงบ้าง?
- ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ปัญหาฝุ่นPM 2.5 กุญแจสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
- แพทย์เตือน! ฝุ่นPM2.5 เพิ่มโอกาสติดโควิดมากยิ่งขึ้น พร้อมแนะ 6 วิธี รับมือฝุ่นร้าย
ทำไมฝุ่น PM 2.5 ชอบมาเยือนในช่วงฤดูหนาว?
ในช่วงฤดูหนาวนั้น เมื่อความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุม อุณหภูมิของพื้นดินจะเย็นลงตามไปด้วย ทำให้พื้นดินเกิดการคายความร้อนอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ความร้อนที่ถูกคายออกมานั้นจะถูกกักอยู่ระหว่างมวลอากาศเย็น และพื้นดินที่เย็น ลักษณะจะเหมือนเป็นเกราะที่เรียกกันว่า “อากาศปิด” ซึ่งฝุ่นละอองในอากาศก็จะถูกกักอยู่ในนั้นด้วย และไหลย้อนกลับสู่พื้นดิน
สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ช่วงหน้าหนาวเป็นช่วงที่ความกดอากาศสูง ทำให้อากาศนิ่ง ฝุ่นควันต่าง ๆ ไม่สามารถลอยขึ้นสูงได้ จึงอาจเกิดการสะสมในพื้นที่จนเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพเป็นเมืองที่มีฝุ่นละอองในอากาศเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และยังมีตึกรายล้อมเกือบทั้งเมืองด้วย
อาการ และโรคยอดฮิตจากฝุ่น PM2.5
อาการจากฝุ่น PM2.5
- แสบจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล
- ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ
- ระคายเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล
- หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวี๊ด
- แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย
- มีอาการคัน ระคายเคืองผิวหนัง
- ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย
โรคจากฝุ่น PM2.5
- อาการภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ
- ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น
- ผิวหนังอักเสบ มีผื่นคันที่ผิวหนัง
- การทำงานของปอดแย่ลง เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ
- โรคหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังฝุ่น PM2.5
- เด็ก
- ผู้สูงอายุ
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ที่เป็นโรคของระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือโรคอุดกลั้นของระบบทางเดินหายในเรื้อรัง
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด
รู้หรือไม่? ในช่วงฤดูฝุ่น PM2.5 ถ้าหายใจโดยไม่ใส่หน้ากาก จะมีฝุ่นเข้าปอดถึง 78% !!
ผศ.ดร.ว่าน วิริยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เตือนประชาชนไว้ว่า “มีรายงานการศึกษาพื้นที่ภาคเหนือ ถ้าหายใจโดยไม่สวมหน้ากาก จะมีฝุ่นเข้าไปอยู่ในปอดถึง 78% เข้าถุงลมปอด 30% ถ้าเล็กกว่า 1 ไมครอน จะเข้าสู่กระแสเลือดเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคสมอง หรือสโตรก สารในฝุ่นเป็นสารก่อมะเร็ง ยิ่งฝุ่นเล็ก มีการก่อมะเร็งสูงกว่าฝุ่นใหญ่
ฉะนั้น การเลือกหน้ากากต้องมีประสิทธิภาพการกรองของหน้ากากเป็นไปตามมาตรฐาน และมีความแนบชิดของใบหน้า ซึ่งคนส่วนใหญ่ละเลย ยังไม่พูดถึงหน้ากากของปลอมที่พบเยอะมาก แนะนำให้ซื้อในตามโรงพยาบาล และร้ายขายยา ไม่ใช่ซื้อตามตลาดนัด หรือริมทาง ถ้าราคาถูกเกินไปคาดว่าปลอม ส่วนเครื่องกรองอากาศห้อยคอเชิงไม่สามารถป้องกันฝุ่นได้เหมือนที่โฆษณา ไม่แนะนำให้ใช้”
6 วิธีดูแล ป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 แบบง่าย ๆ
1. สวมหน้ากากอยู่เสมอ – โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยประเภท N95 ซึ่งหน้ากากชนิดนี้ต่างจากหน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไป เนื่องจากสามารถป้องกันฝุ่นขนาด 0.1 – 0.3 ไมครอน ได้ 95%
2. หลีกเลี่ยงมลพิษ – เช่น ตามแหล่งที่มีการเผาทางการเกษตร, ถนนที่มีรถสัญจรไปมามากโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะจะมีการปล่อยควันพิษตลอดเวลา, ตามแหล่งนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
3. เลี่ยงออกกำลังกายกลางแจ้ง – ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพก็ตาม แต่เมื่อมีการสัมผัสมลพิษทางอากาศในขณะออกกำลังกาย ผลลัพธ์ต่อสุขภาพอาจเป็นไปในทางตรงกันข้าม ควรเลี่ยงการออกกำลังกายใกล้ถนนที่มีรถมาก หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศสูง
4. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้าน – เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพ สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้รับมลพิษ ไวรัส และเชื้อโรคต่าง ๆ ภายในบ้านได้ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวแน่นอน
5. ทำความสะอาดบ้านให้สะอาด ปิดหน้าต่างป้องกันฝุ่น – ในช่วงวิกฤต PM2.5 แนะนำให้หมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ โดยเฉพาะในห้องนอน และห้องที่ต้องอยู่เป็นประจำ เมื่อปริมาณฝุ่นในบ้านลดลงก็จะปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น และที่สำคัญ ไม่ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้ฝุ่นเข้ามาในห้องได้สะดวกยิ่งขึ้น
6. กินยาแก้ภูมิแพ้ หากมีอาการแพ้ – ยาแก้ภูมิแพ้ เป็นสิ่งจำเป็นที่ชาวภูมิแพ้ต้องมีติดบ้าน ติดตัวไว้ในยามวิกฤต PM2.5 เพราะ มีโอกาสที่เราจะเป็นภูมิแพ้อากาศได้สูง โดยปัจจุบันมียาแก้แพ้ที่กินแล้วไม่ง่วงนอน ปลอดภัยกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการแพ้ได้อย่างดี
สุดท้ายนี้ GED good life ก็ขอให้ชาวไทยทุกคน ดูแลสุขภาพในช่วงที่ PM2.5 ยังคงดุดันไม่เกรงใจใคร ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะหน้ากาก N95 เพื่อป้องกันฝุ่นพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจกันด้วยนะ เพื่อสุขภาพดีดีของเราเอง
อ้างอิง : 1. thaipost 2. gedgoodlife