ดร. นิติ สันแสนดี
อาจารย์พิเศษ ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์สุขภาพ
อาการเจ็บคอมีเสมหะ ไม่มีไข้ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม การดูแลตัวเองเบื้องต้นและการพักผ่อนให้เพียงพอสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ อาการเจ็บคอและมีเสมหะโดยไม่มีไข้ส่วนใหญ่ไม่ใช่อาการที่อันตราย แต่การสังเกตและดูแลอาการให้ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการฟื้นฟูสุขภาพ
อาการไอ เกิดจากอะไร
อาการไอเป็นกลไกการป้องกันของร่างกายเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเสมหะออกจากทางเดินหายใจ อาจเกิดจากการระคายเคือง การติดเชื้อ หรือโรคประจำตัว
เคือง การติดเชื้อ หรือโรคประจำตัว
สาเหตุของอาการไอ
อาการไออาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย การระคายเคืองจากสารเคมี หรือการแพ้ง่ายต่อสิ่งต่าง ๆ เช่น เกสรดอกไม้และฝุ่น การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนโรคหวัด
หลอดลมอักเสบ โรคภูมิแพ้ โรคกรดไหลย้อน การสูดดมสารระคายเคือง โรคปอดเรื้อรัง อีกทั้งการสูบบุหรี่หรือการสูดดมสารระคายเคืองก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการไอได้
ไอแล้วเจ็บท้อง มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง
การไออย่างรุนแรงและต่อเนื่องสามารถทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องหดเกร็งและปวดเมื่อยได้การไอจนเจ็บท้องมักเป็นผลมาจากการใช้กล้ามเนื้อท้องมากเกินไปเมื่อไอแล้วเจ็บท้อง อาจเกิดจากการไอรุนแรงหรือบ่อยเกินไป
อาการไอ อาจสัญญาณเตือนโรคร้าย
อาการไอต่อเนื่องหรือที่มีลักษณะผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย เช่น โรคปอดหรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรตรวจสอบอาการอย่างรอบคอบ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยอาจแบ่งกลุ่มอาการได้ ดังนี้
1. อาการไอ จากไซนัสอักเสบ
เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุโพรงไซนัส ทำให้มีเสมหะไหลลงคอและกระตุ้นอาการไอ ไซนัสอักเสบทำให้ เกิดการอักเสบในโพรงไซนัส ส่งผลให้อาการไอเกิดขึ้นจากการระคายเคืองในหลอดลม
2. อาการไอ จากมะเร็งปอด
อาการไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด หรือไอร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น น้ำหนักลด อ่อนเพลีย การไอเรื้อรังหรือไอที่มี เสมหะสีเลือดอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคมะเร็งปอด ซึ่งต้องการการตรวจสอบทางการแพทย์ทันที
อาการไอจากโพรงจมูกอักเสบ เกิดจากอะไร
เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก ทำให้มีน้ำมูกไหลลงคอและกระตุ้นอาการไอ การอักเสบในโพรงจมูกสามารถทำให้มีการผลิตเสมหะมากขึ้น ซึ่งอาจเลื่อนลงไปในลำคอ ทำให้เกิดอาการไอ
ผลกระทบจากอาการไอ
ผลกระทบจากอาการไอสามารถทำให้คุณภาพชีวิตลดลง อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย อีกทั้งอาจส่งผลต่อกิจวัตรประจำวันและการนอนหลับ
1. กระทบต่อสุขภาพจิต
อาการไอเรื้อรังอาจทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล และรบกวนการนอนหลับ อาการไอเรื้อรังอาจทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ ทำให้สุขภาพจิตแย่ลง
2. กระทบต่อสุขภาพกาย
การไออย่างรุนแรงอาจทำให้เจ็บหน้าอก เจ็บคอ และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
3. กระทบต่อผู้อื่น
อาการไอสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังผู้อื่นได้อาการไอสามารถแพร่เชื้อหรือทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่สะดวก ควรดูแลสุขอนามัยและสวมแมสก์เมื่อมีอาการไอ การไออาจทำให้เกิดการเจ็บปวดหรือการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาร่างกายอื่น ๆ ได้
ไอแบบไหน ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วน
หากมีอาการไอที่เรื้อรังเป็นเวลานาน ไอมีเสมหะสีเลือด หรือไอที่มีอาการเจ็บหน้าอก ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เช่น ไอเป็นเลือด หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ไอเรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์ มีไข้สูง
รวมวิธีแก้อาการไอเบื้องต้น
วิธีแก้อาอารไอเบื้องต้น คือ การดื่มน้ำมากๆ และใช้เพิ่มความชื้นในอากาศสามารถช่วยลดอาการไอได้ ส่วนการหลีกเลี่ยงสารที่เป็นปัจจัยกระตุ้นเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ฝุ่นและควัน ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ
ควรกินยาอะไรดี เมื่อมีอาการไอ
การเลือกยารักษาอาการไอควรขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการไอและลักษณะของอาการ โดยทั่วไป ยารักษาอาการไอสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดหลัก ได้แก่
1.ยาลดหรือระงับอาการไอ (Cough suppressants or antitussives)
ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ควบคุมและบรรเทาอาการไอโดยลดการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น เหมาะสำหรับไอแห้ง ไม่มีเสมหะ แต่ไม่ควรใช้ในเด็กเนื่องจากข้อมูลความปลอดภัยไม่เพียงพอ และไม่ควรใช้ในผู้ที่มีเสมหะ อาการไอเพราะอาจทำให้เสมหะเหนียวข้น เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจ ตัวอย่างยา ได้แก่ เดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) โคเดอีน (Codeine) และทิงเจอร์ฝิ่น ซึ่งช่วย บรรเทาอาหารไอ แต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากอาจทำให้ เสพติดและมีผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึม ปวดท้อง ท้องผูก และกดการหายใจ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
2. ยาขับเสมหะ (Expectorants)
ยาขับเสมหะเป็นยาที่กระตุ้นการขับเสมหะโดยกระตุ้นการทำงานของเยื่อบุระบบทางเดินหายใจให้กำจัดเสมหะและเพิ่มปริมาณสารคัดหลั่งในระบบทางเดินหายใจ ทำให้เสมหะเหลวขึ้นและขับออกได้ง่าย วิธีแก้อาการไอประเภทนี้คือการใช้ยา เช่น ไกวเฟนิซิน (Guaifenesin), เทอร์พินไฮเดรต (Terpin hydrate) และแอมโมเนียม คลอไรด์ (Ammonium chloride) ซึ่งช่วยลดความเหนียวของเสมหะ ทำให้อาการไอทุเลาลง
3. ยาละลายเสมหะ (Mucolytics)
ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยตรงต่อโครงสร้างของเสมหะ เป็นยาที่ออกฤทธิ์เข้าไปย่อยโปรตีน หรือเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำลายการรวมตัวกันของโปรตีนที่จับตัวเป็นก้อนเสมหะเหนียวข้น รวมถึงลดแรงตึงผิวของเสมหะจึงช่วยลดความเหนียวของเสมหะ ทำให้ร่างกายกำจัด หรือขับเสมหะออกได้ง่ายขึ้น ใช้สำหรับบรรเทาอาการไอแบบมีเสมหะ และในบางครั้งมักใช้ยากลุ่มนี้ร่วมกับกลุ่มยาขับเสมหะ ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ที่พบในท้องตลาด เช่น
-
- คาร์โบซิสเทอีน (Carbocysteine) ออกฤทธิ์โดยการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของเสมหะ ทำให้เสมหะมีลักษณะใสขึ้น พร้อมที่จะถูกกำจัดออกไปได้ และมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ จึงมักนิยมใช้ในผู้ที่เป็นหลอดลมอักเสบ
- อะเซทิลซิสเทอีน (Acetylcysteine) หรือเอ็น-อะเซทิลซิสเทอีน (N-acetylcysteine)
- บรอมเฮกซีน (Bromhexine)
- แอมบร็อกซอล (Ambroxol)
อาการเจ็บคอมีเสมหะไม่มีไข้ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ติดเชื้อไวรัส ระคายเคือง การไอเป็นกลไกป้องกันร่างกายขับเสมหะหรือสิ่งระคายเคือง การไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด หรือไอร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น น้ำหนักลด อ่อนเพลีย อาจเป็นสัญญาณโรคร้าย การไอส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย จิต และผู้อื่น หากไอเรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์ ไอเป็นเลือด หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือมีไข้สูง ควรรีบพบแพทย์
เอกสารอ้างอิง
- ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย. แนวทางการดูแลรักษาโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจในเด็ก พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย; 2562.
- American Academy of Allergy, Asthma, and Immunology (AAAAI). Asthma management in children Internet. cited year month day. Available from: https://www.aaaai.org
- Carbocisteine. In: Lacy CF, et al., editors. Drug information handbook. 24th ed. Hudson: Lexi-Comp Inc.; 2015-2016. p. 357.
- Expectorants. In: Drug facts and comparisons 2017. Nevada: Wolters Kluwer Health; 2017. p. 1331-1332.
- Global Initiative for Asthma (GINA). Global strategy for asthma management and prevention Internet. 2023 cited year month day. Available from: https://ginasthma.org
- Mayo Clinic. Asthma overview and care for children Internet. cited year month day. Available from: https://www.mayoclinic.org
- World Health Organization (WHO). Asthma: key facts and management guidelines Internet. cited year month day. Available from: https://www.who.int